"ร้านสะดวกซื้อล่าสุดขอบโลก" คือร้านปริศนาที่โผล่ขึ้นแบบสุ่มในสถานที่แปลกประหลาดทั่วโลก เช่น บนยอดเขาเอเวอเรสต์ กลางมหาสมุทร หรือแม้แต่ในฝันของคน "กันต์" เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่เพิ่งสอบตกและถูกพ่อแม่กดดันให้หางานทำ วันหนึ่งเขาเดินสะดุดเข้าร้านนี้โดยบังเอิญ และถูกบังคับให้ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าทำครบ 100 วัน เขาจะได้ขอ "พรวิเศษ" หนึ่งข้อ แต่ร้านนี้ไม่ธรรมดา ลูกค้าที่เข้ามามีทั้งมนุษย์ต่างดาว แม่มดขี้โมโห ผีที่ลืมตาย และแม้แต่เทพเจ้าที่ชอบขโมยของ! กันต์ต้องรับมือกับความวายป่วง
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ผจญภัย,ข้ามเวลา,ไซไฟ,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างดาว,ต่างโลก,มิติวิเศษ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ร้านสะดวกซื้อสุดขอบโลก"ร้านสะดวกซื้อล่าสุดขอบโลก" คือร้านปริศนาที่โผล่ขึ้นแบบสุ่มในสถานที่แปลกประหลาดทั่วโลก เช่น บนยอดเขาเอเวอเรสต์ กลางมหาสมุทร หรือแม้แต่ในฝันของคน "กันต์" เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่เพิ่งสอบตกและถูกพ่อแม่กดดันให้หางานทำ วันหนึ่งเขาเดินสะดุดเข้าร้านนี้โดยบังเอิญ และถูกบังคับให้ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าทำครบ 100 วัน เขาจะได้ขอ "พรวิเศษ" หนึ่งข้อ แต่ร้านนี้ไม่ธรรมดา ลูกค้าที่เข้ามามีทั้งมนุษย์ต่างดาว แม่มดขี้โมโห ผีที่ลืมตาย และแม้แต่เทพเจ้าที่ชอบขโมยของ! กันต์ต้องรับมือกับความวายป่วง
"ร้านสะดวกซื้อล่าสุดขอบโลก" คือร้านปริศนาที่โผล่ขึ้นแบบสุ่มในสถานที่แปลกประหลาดทั่วโลก เช่น บนยอดเขาเอเวอเรสต์ กลางมหาสมุทร หรือแม้แต่ในฝันของคน "กันต์" เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่เพิ่งสอบตกและถูกพ่อแม่กดดันให้หางานทำ วันหนึ่งเขาเดินสะดุดเข้าร้านนี้โดยบังเอิญ และถูกบังคับให้ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าทำครบ 100 วัน เขาจะได้ขอ "พรวิเศษ" หนึ่งข้อ
แต่ร้านนี้ไม่ธรรมดา ลูกค้าที่เข้ามามีทั้งมนุษย์ต่างดาว แม่มดขี้โมโห ผีที่ลืมตาย และแม้แต่เทพเจ้าที่ชอบขโมยของ! กันต์ต้องรับมือกับความวายป่วงของร้าน พร้อมหัวหน้าพนักงานสุดเพี้ยน "พี่มิว" ที่อ้างว่าเป็นมนุษย์แต่กินข้าวด้วยตะเกียบไฟฟ้า ระหว่างทาง กันต์ค้นพบว่าร้านนี้เป็นมากกว่าที่เห็น—it’s a cosmic pitstop ที่เชื่อมทุกมิติ และพรที่เขาจะขอ อาจเปลี่ยนชีวิตเขา (และโลก) ไปตลอดกาล
กันต์นอนขดตัวอยู่ใต้เคาน์เตอร์เมื่อแสงแรกของเช้าวันใหม่ส่องผ่านประตูกระจกเข้ามา เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน หลังจากเจอมังกรลาวาเมื่อวาน ความเหนื่อยล้าทำให้เขาสลบไปโดยไม่ทันได้กลับไปนั่งเก้าอี้พับ ท้องเขาร้องดังก้องจนตัวเองสะดุ้งตื่น
"หิวโว้ย..." กันต์บ่น ลุกขึ้นยืดตัวจนหลังดังกร๊อบ เขามองไปรอบๆ ร้านเงียบสงบผิดปกติ ไม่มีพี่มิว ไม่มีลูกค้า แม้แต่กระดิ่งที่ประตูก็เงียบกริบ เขาเดินไปที่ตู้แช่เครื่องดื่ม หวังจะหาอะไรกินได้บ้าง แต่ฉลากบนขวดทุกขวดดูแปลกประหลาดเกินไป "น้ำลาวาดาวอังคาร" "โซดาหลุมดำ" "น้ำผึ้งจากดาวเสาร์" ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะกินได้โดยไม่เสี่ยงตาย
"ร้านนี้ไม่มีของกินสำหรับมนุษย์เลยเหรอวะ?" กันต์พึมพำ แต่แล้วกลิ่นหอมหวานก็ลอยมาจากมุมเตาอบอีกครั้ง เขาหันไปเห็นถาดขนมปังอบใหม่วางอยู่เหมือนเมื่อวาน แต่คราวนี้มีป้ายเล็กๆ ติดอยู่ข้างถาด เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ว่า "ขนมปังมนุษย์ - กินได้ ไม่สาป"
"จริงเหรอ?" กันต์มองป้ายด้วยสายตาระแวง เขาเดินไปหยิบขนมปังก้อนหนึ่งขึ้นมา มันดูเหมือนขนมปังธรรมดา สีน้ำตาลทอง เปลือกกรอบนิดๆ ไม่มีควันสีเขียวหรืออะไรน่าสงสัย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ท้องที่ร้องดังขึ้นเรื่อยๆ บังคับให้เขาตัดสินใจฉีกชิ้นเล็กๆ เข้าปาก
รสชาติหวานนุ่มลิ้นระเบิดในปากเขา มันเหมือนขนมปังเนยสดที่เขาเคยกินตอนเด็กๆ แต่มีกลิ่นหอมพิเศษที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน กันต์เคี้ยวช้าๆ รอให้มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น ขาเปลี่ยนเป็นกบ? หัวกลายเป็นหนู? แต่ไม่มีอะไร เขายังเป็นตัวเองอยู่!
"โคตรอร่อย!" กันต์ร้องตาโต หยิบขนมปังก้อนนั้นกินต่ออย่างตะกละ เขากำลังจะหยิบก้อนที่สอง แต่กระดิ่งที่ประตูก็ดังกริ๊งเสียก่อน
"เช้าแล้วสินะ" เสียงพี่มิวดังจากทางเข้า เธอเดินเข้ามาพร้อมถุงอะไรสักอย่างในมือ ผมยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งตื่น "อ้าว กินขนมปังแล้วเหรอ?"
"พี่! นี่มันกินได้จริงๆ เหรอ? ไม่สาปใช่ป่ะ?" กันต์ถาม ปากยังเคี้ยวไม่หยุด
"ใช่ๆ ฉันอบเผื่อเธอโดยเฉพาะเลย" พี่มิวตอบ เดินไปวางถุงที่เคาน์เตอร์ "เห็นเธอหิวโซเมื่อวาน เลยทำขนมปังมนุษย์ให้ ไม่มีคำสาปแน่นอน"
"ขอบคุณพี่มาก!" กันต์พูดตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามวันที่เขารู้สึกว่าพี่มิวมีเมตตากับเขา "วันนี้ผมพร้อมลุยแล้ว!"
"ดีมาก!" พี่มิวตบมือฉาด "งั้นเริ่มงานเลย ลูกค้าคนแรกมาแล้ว!"
กันต์หันไปมองประตู เห็นร่างสูงๆ เดินเข้ามา ไม่สิ บินเข้ามา! มันเป็นนกตัวใหญ่เท่าคน ขนสีทองสว่างเหมือนทองคำ ปีกกว้างจนเกือบชนขอบประตู ตาข้างหนึ่งเป็นสีแดงเพลิง อีกข้างเป็นสีน้ำเงินเย็นเยือก มันเกาะลงบนพื้นร้านด้วยกรงเล็บแหลมคม แล้วหันมามองกันต์
"ข้าต้องการ 'เมล็ดดวงดาว' สิบเม็ด" เสียงมันดังก้องเหมือนระฆังโบสถ์ "รีบหน่อย ข้ามีประชุมที่เนบิวล่าในหนึ่งชั่วโมง"
"เอ่อ... ได้ครับ!" กันต์ตอบแบบงงๆ หันไปมองพี่มิว "อยู่ไหนครับ?"
"ชั้นห้า ซ้ายมือ!" พี่มิวตอบทันควัน "ไปเร็ว คุณโกลด์วินรีบ!"
กันต์กลืนน้ำลายดังเอื๊อก เดินไปที่กำแพงมิติอีกครั้ง บันไดแก้วลอยขึ้นมาเหมือนเคย แต่คราวนี้มีควันสีทองลอยออกมาจากช่อง เขาก้าวขึ้นไปด้วยความรู้สึกว่า วันที่สามนี้คงไม่สงบเหมือนที่หวังแน่ๆ
ชั้นห้าต่างจากชั้นอื่นๆ ที่เขาเคยเจอ พอกันต์ก้าวพ้นบันได เขาเจอกับทุ่งหญ้าสีทองที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าเป็นสีม่วงเข้ม มีดวงดาวระยิบระยับลอยอยู่ใกล้แค่เอื้อม ตรงกลางทุ่งมีต้นไม้ใหญ่ที่ใบเป็นสีเงิน ผลไม้บนต้นนั้นเรืองแสงเหมือนดวงดาวจิ๋ว นั่นคงเป็น "เมล็ดดวงดาว" ที่คุณโกลด์วินต้องการ
กันต์เดินไปที่ต้นไม้ หยิบตะกร้าที่วางอยู่ข้างลำต้นมาใส่เมล็ด เขานับไปสิบเม็ดตามที่สั่ง เมล็ดแต่ละเม็ดมีขนาดเท่าลูกองุ่น ส่องแสงสว่างจนเขาต้องหรี่ตามอง แต่ทันใดนั้น เสียงดัง "ครืดดด!" ก็ดังจากใต้พื้นหญ้า
กันต์ชะงัก มองลงไปเห็นหนอนตัวใหญ่ เท่าท่อนแขนเขา โผล่ขึ้นมาจากดิน ตัวมันเป็นสีทองเหมือนหญ้า มีปากกลมๆ เต็มไปด้วยฟันแหลม มันส่งเสียงร้องแหลมๆ แล้วพุ่งมาที่ตะกร้าในมือกันต์!
"เฮ้ย! อย่า!" กันต์ร้อง ถอยหลังไป แต่หนอนทองตัวนั้นเร็วเกิน มันกระโดดงับตะกร้าเต็มปาก เมล็ดดวงดาวกระจายเต็มพื้น กันต์รีบคว้าเมล็ดที่หล่นกลับมา แต่หนอนตัวนั้นไม่ยอม มันเลื้อยตามเขาเหมือนงูพิษ
"พี่มิวววว!" กันต์ตะโกน แต่ไม่มีเสียงตอบ เขาวิ่งวนรอบต้นไม้ หนอนทองตามติดไม่ปล่อย สุดท้ายเขาต้องโยนตะกร้าให้มันเพื่อเบี่ยงความสนใจ หนอนงับตะกร้าแล้วมุดกลับลงดินไป
กันต์หอบเหนื่อย นั่งลงกองกับพื้น ถือเมล็ดดวงดาวเจ็ดเม็ดที่เหลืออยู่ในมือ "ได้ไม่ครบ... ทำไงดีวะ?"
เขาตัดสินใจกลับลงไปก่อน พอถึงชั้นล่าง คุณโกลด์วินยังยืนรออยู่ มันมองเมล็ดในมือกันต์แล้วขมวดคิ้ว หรืออะไรที่ดูเหมือนคิ้วบนหน้านก
"ข้าบอกสิบเม็ด" เสียงมันดังก้อง "นี่เจ็ดเม็ด!"
"เอ่อ... มีหนอนทองมันกินไปครับ!" กันต์ตอบแบบกล้าๆ กลัวๆ
พี่มิวเดินมาดู แล้วหัวเราะเบาๆ "เจอเจ้าหนอนพิทักษ์เมล็ดสินะ ไม่เป็นไร คุณโกลด์วิน วันนี้คิดแค่เจ็ดเม็ดละกัน 70 เหรียญมิติค่ะ"
คุณโกลด์วินพยักหน้าไม่เต็มใจ หยิบเหรียญสีทองจากใต้ปีกโยนให้พี่มิว แล้วบินออกจากร้านไป กันต์มองตามด้วยความรู้สึกผิดผสมเหนื่อย