“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม


แสงแรกของรุ่งอรุณค่อยๆสาดทอไปตามแนวขุนเขา ปลุกป่าไม้ให้ตื่นจากความมืดมิดของราตรี หมอกจางๆลอยเอื่อยเหนือพื้นดิน ส่งกลิ่นอายชื้นเย็นที่เจือกลิ่นดินและใบไม้สดใหม่ เสียงนกร้องประสานกันเป็นท่วงทำนองของธรรมชาติ แต่ถึงกระนั้น ภายในใจของซือเหยาไม่มีแม้แต่ความสงบแม้เพียงน้อย

เขายืนอยู่ที่หน้าต่าง มองออกไปยังเส้นทางข้างหน้าที่ทอดยาวไปสู่ขอบฟ้า ใบหน้าของเขาเงียบขรึม ดวงตาสะท้อนความคิดอันสับสนที่ยังคงวนเวียนไม่จบสิ้น


ทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อมั่น ทุกสิ่งที่เขาเคยคิดว่ารู้จัก… บัดนี้กลับถูกสั่นคลอนจนแทบจะพังทลายลงมา


“เจ้าตื่นแล้วหรือ?”


เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง เหวินจิ้งเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสงบ มือข้างหนึ่งถือดาบเล่มยาว ขณะที่อีกข้างพาดเสื้อคลุมของตนไว้

ซือเหยาไม่ได้ตอบ เขายังคงจับจ้องไปที่ขอบฟ้า


“คืนนี้เจ้านอนไม่หลับอีกแล้วสินะ”   เหวินจิ้งกล่าวพลางวางดาบลงกับโต๊ะไม้ เสียงกระทบของโลหะกับเนื้อไม้นั้นเบา แต่กลับทำให้ซือเหยาสะดุ้งเล็กน้อย


เขาหันกลับมา ดวงตาสบกับเหวินจิ้งครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ


“ข้ากำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา”


เหวินจิ้งเลิกคิ้ว   “เรื่องอะไร?”


ซือเหยานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ   “เรื่องที่ว่าข้าควรไปต่อ หรือควรหยุดอยู่ตรงนี้”


คำพูดนั้นทำให้เหวินจิ้งเงียบลงไปชั่วขณะ ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ แต่ภายในดวงตากลับมีแววครุ่นคิด


“เจ้าหมายถึงอะไร?”


ซือเหยาหันไปมองเส้นทางเบื้องหน้าอีกครั้ง


“ตั้งแต่วันนั้นที่วังหลวงล่มสลาย ข้าไม่เคยมีโอกาสตัดสินใจชีวิตของตนเองเลย ทุกย่างก้าวของข้าล้วนถูกกำหนดโดยเงาของอดีต ข้าเคยเชื่อว่าการมีชีวิตรอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่บัดนี้ข้ากลับไม่แน่ใจแล้ว”


เหวินจิ้งมองดูเขานิ่งๆก่อนจะกล่าว   “แล้วเจ้าคิดจะทำเช่นไร?”


ซือเหยากัดริมฝีปาก ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักความคิดภายในใจ


“ข้าต้องการหาความจริง”   น้ำเสียงของเขาหนักแน่นขึ้น   “ข้าต้องการรู้ว่าทำไมข้าถึงรอดมาได้ และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด”


เหวินจิ้งพยักหน้าอย่างช้าๆ   “หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะอยู่ข้างเจ้า”


ซือเหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา   “ทำไม?”


“เพราะข้ายังมีคำถามที่ต้องการคำตอบเช่นกัน”   เหวินจิ้งกล่าว   “และเพราะข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าเดินทางเพียงลำพัง”


ทว่า ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดคุยกันต่อ เสียงกลองศึกก็ดังกึกก้องจากทิศเหนือ ทำให้ทั้งสองสะดุ้งหันไปทางต้นเสียง


“เกิดอะไรขึ้น?”   ซือเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด


เหวินจิ้งขมวดคิ้ว ก่อนจะรีบคว้าดาบขึ้นมา   “เราไปดูกันเถอะ”


ทั้งสองเร่งฝีเท้าออกจากกระท่อม และเมื่อไปถึงจุดสูงสุดของเนินเขา ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าก็ทำให้พวกเขาต้องนิ่งงัน

กองทัพในชุดเกราะสีดำกำลังเคลื่อนพลผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ด้านล่าง คบไฟส่องสว่างไปทั่วบริเวณ แม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่เงาของพวกมันกลับทอดยาวและดูน่ากลัวราวกับปีศาจที่หลุดออกมาจากขุมนรก


“พวกมันเป็นใคร?”   ซือเหยากล่าว น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ


เหวินจิ้งจ้องมองสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนธงของกองทัพนั้น ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม


“พวกมันคือกองทัพของตระกูลหลี่”


“ตระกูลหลี่…”   ซือเหยาพึมพำ ดวงตาของเขาหรี่ลง   “ข้าเคยได้ยินชื่อพวกมัน”


เหวินจิ้งพยักหน้า   “ตระกูลหลี่เป็นหนึ่งในขุนนางที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของวังหลวง หากพวกมันเคลื่อนพลมาถึงที่นี่ นั่นหมายความว่าพวกมันกำลังตามหาใครบางคน”


ซือเหยาสัมผัสได้ทันทีว่าหัวใจของตนเริ่มเต้นเร็วขึ้น   “หรือไม่ก็…”


“พวกมันกำลังตามหาเจ้า”


คำพูดของเหวินจิ้งทำให้ซือเหยากำหมัดแน่น

หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นหมายความว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลง


“เราต้องรีบไปจากที่นี่”   เหวินจิ้งกล่าว น้ำเสียงของเขาเด็ดขาด   “ก่อนที่พวกมันจะพบตัวเจ้า”


ซือเหยาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ภายในใจของเขากลับเต็มไปด้วยคำถาม


หากตระกูลหลี่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมด นั่นหมายความว่าอะไร?


และเหนือสิ่งอื่นใด… หากพวกมันรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ พวกมันจะต้องการให้เขาตายแน่นอน








ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี แสงแดดอ่อนๆ เริ่มถูกบดบังด้วยเงาของกองทัพที่เคลื่อนพลมาใกล้ขึ้นทุกขณะ

ซือเหยาและเหวินจิ้งควบม้าออกจากหมู่บ้านด้วยความเร็วสูง ฝุ่นดินลอยคลุ้งตามแรงฝีเท้าของสัตว์ทั้งสอง ทิ้งไว้เพียงเงาร่างของนักเดินทางสองคนที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยปริศนา และทันทีที่พวกเขาหายลับไปหลังแนวป่า เสียงสัญญาณจากกองทัพก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ


ค้นหามัน! อย่าให้มันหนีไปได้!