“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล


ท้องฟ้ายามเย็นค่อยๆถูกปกคลุมด้วยม่านรัตติกาล เงาของต้นไม้สูงใหญ่ทอดตัวเป็นแนวยาวราวกับกำแพงธรรมชาติ พุ่มไม้หนาทึบสั่นไหวไปตามแรงลมเย็นที่พัดผ่านมา สายหมอกบางๆลอยเอื่อยเหนือพื้นดิน เพิ่มบรรยากาศวังเวงให้กับผืนป่า

เสียงฝีเท้าของม้าสองตัวเร่งรุดผ่านแนวต้นไม้ ร่างของนักเดินทางทั้งสองแนบชิดกับหลังอาชา พลิ้วไหวไปตามแรงสะเทือนของพื้นดิน ซือเหยากระชับบังเหียนแน่น ขณะที่เหวินจิ้งใช้มือข้างหนึ่งจับดาบของตนเอาไว้ แม้ทั้งสองจะไม่ได้เอ่ยคำใด แต่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าความเงียบที่ปกคลุมรอบตัวนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด


“พวกมันจะตามเราทันหรือไม่?”   ซือเหยากล่าวขึ้น หลังจากฝืนเก็บความกังวลไว้ในใจอยู่นาน


“เรานำหน้าพวกมันอยู่”   เหวินจิ้งตอบสั้นๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังเส้นทางข้างหน้า   “แต่หากหยุดพักแม้เพียงชั่วครู่ พวกมันจะตามทันแน่นอน”


ซือเหยาขบกรามแน่น เขารู้ดีว่าร่างกายของพวกเขาเริ่มอ่อนล้าจากการเดินทาง แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจให้พวกเขาหยุดพักได้แม้แต่น้อย


“ข้างหน้ามีแม่น้ำ”   เหวินจิ้งเอ่ยขึ้น ขณะที่ม้าเริ่มลดความเร็วลงเล็กน้อย   “เราอาจใช้กระแสน้ำลบเลือนร่องรอยได้”


ซือเหยาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก หากยังคงปล่อยให้กองทัพของตระกูลหลี่ตามรอยต่อไป อีกไม่นานพวกเขาจะต้องติดอยู่ในวงล้อมอย่างแน่นอน


“เราจะทำอย่างไร?”   ซือเหยาถาม ขณะที่ดวงตาจับจ้องไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า


เหวินจิ้งดึงบังเหียนให้ม้าหยุดลง   “เราต้องลงจากหลังม้า แล้วให้พวกมันเดินเลียบแม่น้ำไปทางทิศเหนือ ส่วนพวกเราจะลงไปในน้ำ แล้วใช้ก้อนหินเป็นฐานรองเดินไปอีกฝั่งหนึ่ง”


ซือเหยาเข้าใจแผนการในทันที   “เพื่อให้พวกมันเข้าใจผิดว่าเรายังคงมุ่งหน้าไปทางเหนือสินะ”


“ถูกต้อง”   เหวินจิ้งกล่าวพร้อมกับก้าวลงจากหลังม้า


ซือเหยาลงตามอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลูบแผงคอของอาชาตัวเองเบาๆ   “พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”


หลังจากปลดอานและปล่อยให้ม้าทั้งสองเดินไปตามเส้นทาง พวกเขาก็รีบก้าวลงไปในสายน้ำที่เย็นเยียบ กระแสน้ำในช่วงแรกสงบนิ่ง แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงแรงต้านของกระแสน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ








แม่น้ำทอดตัวยาวไปตามหุบเขา สองฝั่งเต็มไปด้วยโขดหินและต้นไม้ที่ขึ้นหนาทึบ พวกเขาใช้ความเงียบของธรรมชาติเป็นเกราะกำบัง ขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ทว่าทันใดนั้น—เสียงของกิ่งไม้ที่หักลงดังขึ้นจากอีกฝั่งของแม่น้ำ

ซือเหยาหยุดชะงักในทันที หัวใจเต้นแรงขึ้น ดวงตากวาดมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว


“มีคนอยู่ใกล้ๆ”   เขากระซิบ


เหวินจิ้งหันมาสบตากับเขา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ   “อยู่นิ่งๆก่อน”


พวกเขาแนบตัวลงกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากริมแม่น้ำ หูเงี่ยฟังความเคลื่อนไหวโดยรอบ ไม่นานนัก เงาของบุคคลหลายคนก็ปรากฏขึ้นที่อีกฝั่งของแม่น้ำ ชุดเกราะสีดำของพวกมันสะท้อนแสงจันทร์จางๆที่ส่องลงมา


มันต้องอยู่แถวนี้แน่ๆ!”   หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น


แยกกันค้นหา!”   อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น


พวกมันกระจายกำลังออกไป ขณะที่เงาของพวกมันเคลื่อนไหวไปตามแนวต้นไม้

ซือเหยากัดริมฝีปาก ลมหายใจของเขาหนักขึ้นเล็กน้อย หากพวกมันข้ามแม่น้ำมาฝั่งนี้ การซ่อนตัวของพวกเขาก็คงไม่มีความหมายอีกต่อไป

เหวินจิ้งขยับตัวเล็กน้อย มือข้างหนึ่งค่อยๆเลื่อนลงไปจับด้ามดาบ


“อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม”   ซือเหยากระซิบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง


เหวินจิ้งพยักหน้าช้าๆแม้ใบหน้าของเขาจะยังคงนิ่งเฉย แต่ซือเหยาก็รู้ดีว่าชายหนุ่มกำลังประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ








กองทัพของตระกูลหลี่ใช้เวลาค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกมันจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปทางทิศเหนือ ซือเหยากลั้นหายใจจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของพวกมันค่อยๆหายไปในความมืด


“เราไปต่อได้แล้ว”   เหวินจิ้งกล่าวเบาๆ


ซือเหยาพยักหน้า พวกเขาค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ซ่อน แล้วมุ่งหน้าต่อไปในความมืดของราตรี


แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหนีจากกองทัพของตระกูลหลี่ได้สำเร็จ ทว่าลึกลงไปในใจของซือเหยา เขากลับรู้สึกได้ว่าภัยอันตรายที่แท้จริงยังคงรอพวกเขาอยู่เบื้องหน้า และเงาในม่านรัตติกาล ก็ยังคงติดตามพวกเขาไปอย่างเงียบงัน