“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 19 เงาแห่งอดีต โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 19 เงาแห่งอดีต


เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับม่านหมอกจางที่ปกคลุมป่ารอบตัว รังสีแรกของอาทิตย์สาดกระทบหยาดน้ำค้างบนใบไม้ เผยให้เห็นแสงระยิบระยับราวกับคริสตัลโปรยปรายอยู่ทั่วผืนป่า

ซือเหยาลืมตาตื่นขึ้นจากนิทรา เขากะพริบตาช้าๆ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก กลิ่นอายของดินชื้นและไอหมอกเย็นทำให้ร่างกายของเขารู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง แม้ร่างกายจะยังเจ็บระบมจากบาดแผลของวันก่อน เขาหันไปมองข้างตัว เหวินจิ้งยังคงหลับอยู่ ใบหน้าของแม่ทัพหนุ่มดูสงบนิ่งอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ปกติแล้วอีกฝ่ายมักจะตื่นก่อนเขาเสมอ แต่ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าจะเล่นงานเหวินจิ้งไม่น้อยเช่นกัน

ซือเหยาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น ร่างกายของเขายังรู้สึกหนักหน่วง แต่ก็ไม่ได้แย่เกินไป ทันทีที่เขาพยายามขยับตัว เสียงแผ่วเบาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง


“เจ้าคิดจะไปไหน?”


ซือเหยาหันไปมอง เหวินจิ้งลืมตาขึ้นแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้นจ้องมองเขาราวกับจับผิด


“ข้าก็แค่อยากเดินดูรอบๆ”   ซือเหยาตอบ   “ไม่คิดจะหนีไปไหนหรอก”


เหวินจิ้งเลิกคิ้ว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง   “เจ้าหนีไปไม่ได้หรอก”


“ข้าก็ไม่ได้คิดจะหนีอยู่แล้ว”


พวกเขามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เหวินจิ้งจะถอนหายใจเบาๆ   “ไปเถอะ แต่ระวังตัวด้วย”


ซือเหยาไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะก้าวออกไปจากที่พักของพวกเขา ทิ้งให้เหวินจิ้งนั่งมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา








ซือเหยาเดินลึกเข้าไปในป่าที่ปกคลุมด้วยหมอก แม้แผลจะยังปวดหนึบ แต่เขาก็เพิกเฉยต่อความเจ็บนั้น กลิ่นดินชื้นและเสียงนกร้องคลอเคลียอยู่รอบตัว ทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต

ย้อนกลับไปในวัยเยาว์—เขาไม่ใช่ขันที ไม่ใช่เงาแห่งราชสำนัก แต่เป็นเพียงเด็กชายธรรมดาที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำ ครอบครัวของเขามีเพียงมารดาและน้องสาวตัวน้อย แต่ชีวิตอันเรียบง่ายนั้นก็ต้องพังทลายลง เมื่อทหารในวังบุกเข้ามาพรากเขาไปจากครอบครัว


“เจ้าต้องไปอยู่ในวัง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าไม่มีชื่อ ไม่มีอดีต มีเพียงหน้าที่ที่ต้องจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิเท่านั้น”


เขาถูกสอนให้เป็นเงา ถูกฝึกฝนให้ไร้ตัวตน ถูกบังคับให้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ เพื่อเป็นเครื่องมือของราชบัลลังก์


“เจ้าต้องเลือก—จะเป็นเงา หรือจะสูญเสียทุกสิ่ง?”


เขาจำได้ดี วันนั้นเขาไม่มีทางเลือก


เขาต้องกลายเป็นซือเหยาคนใหม่—ขันทีผู้ภักดี แต่แท้จริงแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังรอยยิ้มและคำพูดสุภาพของเขา ซือเหยาคือบุคคลที่ซ่อนความจริงบางอย่างไว้ตลอดมา

ขณะที่ซือเหยาเดินทอดน่องไปตามเส้นทางในป่า จู่ๆความรู้สึกแปลกๆก็แล่นเข้ามาในใจ ราวกับมีสายตาจับจ้องเขาอยู่จากที่ไหนสักแห่ง เขาชะงักฝีเท้า หูเงี่ยฟังเสียงรอบตัว เงาไม้พลิ้วไหวไปมาตามสายลม แต่บางสิ่งในบรรยากาศกลับผิดแปลก


“เจ้ากำลังตามข้าอยู่หรือ?”   ซือเหยากล่าวขึ้นเบาๆ


ไม่มีเสียงตอบรับ แต่เขารับรู้ได้ว่ามีใครบางคนอยู่ใกล้ๆ

ซือเหยาหันไปทางต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง และเพียงพริบตา เงาร่างสีดำก็พุ่งออกมาจากเงามืด เขาหมุนตัวหลบแทบไม่ทัน ปลายดาบเฉียดผ่านแก้มของเขาไป


“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไหวอยู่นะ”   เสียงเย็นชาดังขึ้น


ซือเหยาเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาเยือน


เจ้า…!


ชายผู้นั้นแต่งกายในชุดดำสนิท หน้ากากครึ่งหน้าปกปิดโครงหน้าของเขาไว้ แต่ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความคมกริบและความคุ้นเคย


“ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกันอีก”   ชายปริศนากล่าว น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยร่องรอยแห่งอดีต


ซือเหยาเม้มริมฝีปากแน่น   “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”


“ข้ามาตามหาเจ้า”   ชายปริศนายิ้มเย็น ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้   “หรือเจ้าคิดว่าเจ้าจะหลบหนีเงาของอดีตไปได้ตลอด?”


ซือเหยาเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววซับซ้อน


“ข้าไม่ได้หนี… ข้าแค่เลือกเส้นทางของตัวเอง”


“เส้นทางของเจ้าหรือ?”   ชายปริศนาหัวเราะเบาๆ   “เช่นนั้นก็คงต้องลองดูว่าเจ้าจะเดินไปได้ไกลแค่ไหน”


สิ้นคำพูด ดาบของชายปริศนาก็พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง ซือเหยาหลบอย่างฉับไว แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจเลี่ยงได้ทั้งหมด ปลายคมดาบกรีดผ่านแขนเสื้อของเขาเป็นทางยาว เลือดสีแดงซึมออกมาช้าๆ

ซือเหยากำหมัดแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววแน่วแน่


“หากเจ้าคิดจะหยุดข้า ก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือไม่”