“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 22 เงาในวังหลวง โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 22 เงาในวังหลวง


วังหลวงแห่งต้าหลิงยังคงตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป ทว่าบัดนี้ มันมิใช่สถานที่ที่ซือเหยาเคยรู้จักอีกต่อไป

ปราการสูงตระหง่าน กลุ่มทหารยามที่เดินลาดตระเวนใต้แสงคบเพลิง และความเงียบงันที่ไม่ควรจะมีในยามค่ำคืน—สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติที่แผ่ซ่านไปทั่วรั้ววัง

ซือเหยาและเหวินจิ้งหยุดยืนอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆที่สามารถมองลงไปเห็นกำแพงวังได้ถนัดตา พวกเขาใช้เส้นทางลับที่เหล่าขันทีรู้กันเพียงไม่กี่คนในการหลบหนีออกมาเมื่อหลายเดือนก่อน และบัดนี้ เส้นทางนั้นคือเส้นทางเดียวที่พวกเขาจะกลับเข้าไป


“เจ้าพร้อมหรือไม่?”   เหวินจิ้งถามเสียงต่ำ


ซือเหยามองวังหลวง พลางสูดลมหายใจลึก   “ไม่มีสิ่งใดให้ข้าต้องลังเลอีกแล้ว”


เหวินจิ้งพยักหน้า   “เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”








ทางเดินใต้ดินที่พวกเขาลอดเข้าไปนั้นมืดสนิท กลิ่นอับชื้นของอิฐเก่าและโคลนเปียกชื้นลอยคละคลุ้ง ทุกก้าวที่เดินไป ซือเหยาสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่กัดกินเข้าไปถึงกระดูก


“ไม่มีทหารเฝ้าเลย”   เขากระซิบเบาๆ


“ผิดปกติจริงๆ”   เหวินจิ้งตอบ พลางวางมือบนด้ามดาบอย่างระแวดระวัง


เมื่อพวกเขาเดินต่อไปจนถึงทางออกที่เชื่อมกับวังชั้นใน ซือเหยาก็ค่อยๆผลักแผ่นกระเบื้องที่ปิดทางลับออก แสงจันทร์สาดเข้ามาทำให้เขาเห็นลานกว้างที่คุ้นเคย แต่บรรยากาศที่ควรจะเต็มไปด้วยขันทีและนางกำนัลกลับเงียบสงัดอย่างผิดธรรมชาติ


ทุกอย่างเงียบเกินไป


ซือเหยาค่อยๆก้าวออกมาจากทางลับ พลางกวาดตามองรอบตัว อาคารตำหนักที่เคยรุ่งเรืองบัดนี้เต็มไปด้วยเงามืด มีเพียงแสงไฟจากโคมไม่กี่ดวงที่ถูกจุดไว้ตามระเบียง


“ที่นี่เหมือนไม่ใช่วังเดิมอีกแล้ว”   เหวินจิ้งกล่าวเบาๆ


ซือเหยาเองก็รู้สึกเช่นนั้น แม้สถานที่แห่งนี้จะยังเป็นวังหลวง แต่พลังบางอย่างที่แฝงเร้นอยู่ทำให้เขารู้สึกว่ามันแตกต่างไปจากเดิม


“เราต้องไปที่ตำหนักชั้นใน”   ซือเหยากระซิบ


พวกเขาเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบไปตามเงาของอาคาร ความเงียบที่ปกคลุมรอบกายทำให้ทุกเสียงฝีเท้าของพวกเขาดังกว่าปกติ

แต่ทันใดนั้นเอง—


เคร้ง!


เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นจากที่ไกลออกไป พร้อมกับเสียงร้องของใครบางคนที่ขาดหายไปกลางคัน


เหวินจิ้งชักดาบของเขาทันที   “มีคนกำลังต่อสู้กัน”


ซือเหยาพยักหน้า   “เราไม่อาจรอช้าได้อีกแล้ว”








พวกเขาใช้ทางเดินลับอีกครั้งเพื่อลัดไปยังตำหนักชั้นใน ระหว่างทาง ซือเหยาอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าพวกเขามาถึง—รอยเลือดแห้งบนพื้น เส้นผมที่ขาดกระจาย และรอยดาบที่เฉือนลงบนเสาของวัง


“ใครบางคนถูกสังหารที่นี่”


“แต่ไม่ใช่แค่คนเดียว”   เหวินจิ้งกล่าว พลางใช้ปลายดาบของเขาแตะเศษผ้าที่ขาดวิ่นซึ่งเปื้อนเลือด   “นี่คือเสื้อของขันที”


ซือเหยากำมือแน่น ไม่ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในวังนี้ ขันที—และอาจรวมถึงขุนนางคนอื่นๆกำลังถูกกำจัด


“เราอาจมาช้าเกินไปแล้ว”   ซือเหยาพึมพำเบาๆ


แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ต้องไปต่อ

เมื่อพวกเขาไปถึงตำหนักที่เคยเป็นของฮ่องเต้ ซือเหยาก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นประตูตำหนักเปิดแง้มอยู่ ข้างในมีร่างของชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้แสงเทียนที่ริบหรี่ เขาหายใจติดขัด ดวงตาขุ่นมัวเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า


“เจ้ามาจนได้…”


เสียงของชายชราทำให้ซือเหยาถึงกับชะงัก


นั่นคือฮ่องเต้จริงๆ หรือ?

หรือเป็นเพียงภาพลวงตาในม่านมายาแห่งวังหลวง?