“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล


สายลมกลางดึกพัดผ่านไปอย่างเงียบงัน กลิ่นโลหิตยังคงติดตรึงอยู่ในอากาศ ซือเหยาแบกร่างของเหวินจิ้งไว้อย่างสุดกำลัง แม้ว่ากายของเขาจะอ่อนล้าและเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เขากลับไม่ยอมให้ตนเองหยุดแม้เพียงก้าวเดียว


“อดทนไว้… เจ้าอย่าได้หลับ”   ซือเหยากระซิบเบาๆกับคนบนหลังของเขา


ไม่มีเสียงตอบกลับจากเหวินจิ้ง มีเพียงลมหายใจแผ่วเบาที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายยังคงมีชีวิตอยู่


ต้องรีบ… ต้องหาที่หลบภัยให้ได้ก่อนที่ศัตรูจะตามทัน


ซือเหยาหันมองรอบตัว พวกเขาอยู่ลึกเข้าไปในป่า ห่างจากวังหลวงที่ลุกเป็นไฟ แต่ก็ยังอยู่ในอาณาเขตที่เต็มไปด้วยอันตราย หากมือสังหารของพรรคมารตามรอยมา พวกเขาคงไม่มีทางรอด

แสงจันทร์อ่อนสาดส่องลอดผ่านกิ่งไม้ เขามองเห็นเงาของซากอารามเก่าที่ถูกทิ้งร้างอยู่เบื้องหน้า


“ที่นั่น…”


เขากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ก่อนเร่งฝีเท้าไปยังอารามร้างนั้น








เมื่อซือเหยาเข้าไปในอารามเก่า เขาค่อยๆ วางเหวินจิ้งลงบนพื้นไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและเศษใบไม้ เสียงหายใจของแม่ทัพหนุ่มยังคงแผ่วเบา ดวงตาของเขาปิดสนิท


เหวินจิ้ง! เจ้าตื่นสิ!


ซือเหยากระซิบเรียกพร้อมกับตบใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ แต่ไม่มีการตอบสนอง มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขารู้ดีว่าแผลของเหวินจิ้งร้ายแรงเพียงใด หากยังปล่อยไว้แบบนี้ เขาอาจสูญเสียคนผู้นี้ไปตลอดกาล


ไม่ได้! ข้าจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด!


ซือเหยากัดริมฝีปากจนห้อเลือด เขาคลายชุดเกราะของเหวินจิ้งออก เผยให้เห็นบาดแผลฉกรรจ์บนสีข้าง เลือดสีเข้มไหลออกมาไม่หยุด เขารีบฉีกชายเสื้อของตนเอง ก่อนใช้มันกดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด


“ทนหน่อยนะ…”


ซือเหยากระซิบเสียงเบา รู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังของเขา


“ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น”








ค่ำคืนยังคงดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ภายในอารามร้างเต็มไปด้วยเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงของเหวินจิ้ง และเสียงหัวใจที่เต้นรัวของซือเหยา เขานั่งเฝ้าแม่ทัพหนุ่มไม่ห่าง สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายด้วยความกังวล

จากนั้น… มีเสียงบางอย่างดังขึ้นนอกอาราม ซือเหยาหันขวับ ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความระแวดระวัง เสียงฝีเท้าเบาๆ เหมือนเงาที่เคลื่อนไหวไปมา


พวกมันมาแล้วงั้นหรือ!?


เขาล้วงมีดสั้นออกมาจากแขนเสื้อ กำมันแน่นจนข้อขาว ก่อนจะขยับตัวเข้าไปยืนปกป้องเหวินจิ้ง เงาดำหลายสายเคลื่อนตัวอยู่ภายนอกอาราม ดูเหมือนศัตรูจะยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ ซือเหยาหรี่ตา พลางสูดหายใจเข้าลึก


หากต้องสู้… ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าต้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด


เสียงฝีเท้ายังไม่หายไป เงามืดยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเขา ซือเหยากำมีดแน่นขึ้น เตรียมพร้อมที่จะสังหารศัตรูทุกคนที่เข้ามา แต่แล้ว…


อึก…!


เสียงครางเบาๆของเหวินจิ้งดังขึ้น ซือเหยาหันกลับไป ดวงตาของแม่ทัพหนุ่มเปิดขึ้นเล็กน้อย แม้จะพร่ามัว แต่เขายังคงจ้องมองมายังซือเหยา


“อย่าฝืนพูด…”   ซือเหยากระซิบ ก้มลงไปใกล้ๆ


เหวินจิ้งยกมือขึ้นเบาๆ ก่อนจับมือของซือเหยาไว้


“ไม่เป็นไร…”   เสียงของเขาแผ่วเบาเหมือนลมกระซิบ   “เจ้าต้อง… เอาตัวรอดไปให้ได้”


ซือเหยากัดฟันแน่น ส่ายหน้าอย่างหนักแน่น


“ข้าจะไม่ทิ้งเจ้าไว้แน่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”


เงาดำภายนอกอารามเริ่มขยับเข้ามาใกล้ เสียงใบไม้แห้งถูกเหยียบดังขึ้นเรื่อยๆ ซือเหยาหลับตาแน่น ก่อนตัดสินใจ


ข้าจะปกป้องเจ้า… แม้ว่าต้องเดิมพันด้วยชีวิตก็ตาม