“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย


เสียงกระแสน้ำเชี่ยวกรากดังก้องในโสตประสาท มือของซือเหยากอดร่างเหวินจิ้งไว้แน่น พยายามต้านกระแสน้ำที่ไหลบ้าคลั่ง น้ำเย็นจัดราวกับน้ำแข็งที่กรีดลึกลงไปในผิวหนัง หัวใจเต้นระรัวด้วยความกดดัน


จะปล่อยมือไม่ได้เด็ดขาด!


เขากัดฟันแน่น แม้ว่าความเย็นจะเริ่มกัดกินกำลังของเขาไปทีละนิด แต่ดวงตาของซือเหยายังคงจ้องมองไปข้างหน้า หาหนทางที่จะขึ้นฝั่งให้ได้ ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะถูกกระแสน้ำกลืนหายไปตลอดกาล

แสงจันทร์สาดกระทบผิวน้ำเป็นประกายวูบวาบ ลมหายใจเริ่มขาดห้วง ทุกอวัยวะภายในเจ็บราวกับถูกบีบด้วยมือของยมทูต


หากยังไม่ขึ้นฝั่ง… ไม่ใช่แค่ข้า แต่เหวินจิ้งก็ต้องตายแน่


ดวงตาของซือเหยาเหลือบไปเห็นริมฝั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก มีเงาร่างของต้นไม้ใหญ่โน้มตัวลงมาเหนือสายน้ำ แม้จะมืดจนมองเห็นเพียงรางๆ แต่เขารู้ว่านั่นคือโอกาส ว่าแล้วเขาจึงใช้แรงเฮือกสุดท้าย พยายามพยุงร่างของเหวินจิ้งขึ้นเหนือน้ำ ก่อนจะคว้ากิ่งไม้ที่ยื่นออกมา มือของเขาเปียกโชกและเหน็บหนาวจนแทบไร้ความรู้สึก แต่เขาก็ฝืนกระชากตัวขึ้นมา ใช้แรงทั้งหมดที่มีพาร่างของตนและเหวินจิ้งขึ้นฝั่ง

เสียงหอบหายใจหนักดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของราตรี ซือเหยาทรุดนั่งกับพื้นหญ้า ดวงตาจับจ้องไปยังร่างของเหวินจิ้งที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆ


ยังหายใจอยู่… แต่แผ่วเบาเหลือเกิน


เขายื่นมือไปแตะที่แก้มของอีกฝ่าย พบว่ามันเย็นเฉียบราวกับหิมะยามเหมันต์ ใบหน้าของเหวินจิ้งซีดเซียว ไร้สีเลือด แม้ว่าเปลือกตาของเขาจะปิดสนิท แต่รอยย่นบนหน้าผากเผยให้เห็นว่าเขายังคงอยู่ในภวังค์แห่งความทรมาน


ข้า… ต้องทำอะไรสักอย่าง!


ซือเหยาหันมองรอบกาย พยายามมองหาสิ่งที่พอจะช่วยได้ เขาเห็นกองใบไม้แห้งและกิ่งไม้เล็กๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ หากสามารถก่อกองไฟได้ บางทีอาจช่วยให้ร่างกายของเหวินจิ้งอบอุ่นขึ้นมาได้บ้าง

มือของเขาสั่นระริกขณะที่พยายามจุดประกายไฟ ก้อนหินกระทบกันดังแกร๊กๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เปลวไฟกลับไม่เกิดขึ้น


“ไม่… ไม่ได้…”   เขากัดฟันแน่น ข้าจะยอมแพ้ไม่ได้!


เขาลองอีกครั้ง แรงกระแทกจากหินเริ่มทำให้ปลายนิ้วของเขาถลอกและเจ็บแสบ แต่ในที่สุด ประกายไฟก็กะพริบขึ้นในความมืด เปลวไฟเล็กๆ ส่องแสงริบหรี่ ก่อนจะลุกโชนขึ้นเมื่อเขาเป่าเบาๆและเติมเชื้อไฟ

ซือเหยาขยับเข้ามาใกล้เหวินจิ้ง รีบใช้เสื้อคลุมของตัวเองห่อตัวอีกฝ่ายเอาไว้ ขณะที่ไฟเริ่มส่งความอบอุ่นออกมา เขายกมือแตะที่แก้มของเหวินจิ้งอีกครั้ง


ยังเย็นอยู่… แต่เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย


เขาจ้องมองใบหน้าของชายที่เคยเป็นแม่ทัพผู้องอาจ แต่ตอนนี้กลับดูอ่อนแอราวกับเชื้อไฟที่พร้อมจะดับลงได้ทุกเมื่อ


ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตาย…


ขณะที่ซือเหยานั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเหวินจิ้ง ดวงตาของอีกฝ่ายพลันสั่นระริก ริมฝีปากขยับเบาๆ


“ซือ… เหยา…”


เสียงแหบพร่ารอดออกมา แม้จะเบาหวิว แต่ซือเหยาก็ได้ยินชัดเจน


เขาก้มลงข้างตัวอีกฝ่าย จับมือเย็นเฉียบของเหวินจิ้งเอาไว้แน่น   “ข้าอยู่นี่ เจ้าได้ยินข้าใช่หรือไม่?”


เปลือกตาของเหวินจิ้งสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับกำลังต่อสู้กับสติที่เลือนราง ดวงตาของเขาค่อยๆเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ในแสงริบหรี่ของเปลวไฟ ซือเหยามองเห็นดวงตาคู่นั้นชัดเจน ดวงตาที่แม้จะอ่อนล้า แต่ยังคงแฝงแววแห่งชีวิต


“เจ้า… ยังมีชีวิตอยู่…”   ซือเหยาพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว


เหวินจิ้งมองสบตาเขา นานเสียจนซือเหยารู้สึกถึงแรงบีบเบาๆที่มือของตน


“เจ้าช่วยข้า… ไว้อีกแล้ว”   เสียงของเหวินจิ้งเบาราวกระซิบ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย


ซือเหยาเม้มปากแน่น ก่อนจะหลุบตาลง   “อย่าพูดมาก เจ้าต้องพักผ่อน”


เหวินจิ้งหัวเราะเบาๆ แม้เสียงของเขาจะแหบพร่า แต่ดวงตายังคงทอดมองซือเหยาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจปกปิด ซือเหยาสบตาเขาเพียงครู่เดียว ก่อนจะเบือนหน้าหนี


หัวใจของเขาสั่นไหว… อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน








สายลมยังคงพัดผ่าน เสียงไฟแตกเปรี๊ยะๆดังขึ้นเป็นระยะ ซือเหยานั่งนิ่ง ขณะที่เหวินจิ้งค่อยๆปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะความอ่อนล้าจากความตายที่คืบคลาน หากแต่เป็นการพักผ่อนภายใต้ความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่เคยมีมาก่อน

ซือเหยาจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา


ข้ายังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าเหตุใดข้าถึงเลือกช่วยเจ้า…

แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ไม่อาจปล่อยมือจากเจ้าได้อีกแล้ว