“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา - บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,จีน,ผจญภัย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา โดย นิลสุวาน. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—“เหวินจิ้ง” แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่สงสัยว่าเขาดูไม่เหมือนขันที

ผู้แต่ง

นิลสุวาน.

เรื่องย่อ

“ซือเหยา” เป็นขันทีผู้จงรักภักดีต่อฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าหลิง เขาเติบโตมาในวังหลวง ถูกฝึกฝนให้เป็นเงาไร้ตัวตน คอยปกป้องราชบัลลังก์จากภัยร้ายต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว—เขาไม่ใช่ขันที เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ชีวิตภายใต้ฐานะที่มิใช่ตัวเอง เพียงเพื่อรับใช้และแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของครอบครัว


วันหนึ่ง “เหวินจิ้ง” แม่ทัพหนุ่มผู้มีดวงตาดั่งเหยี่ยวจับจ้องมายังเขาด้วยสายตาสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนขันที” เหวินจิ้งกล่าว พลางเดินเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้า ซือเหยาหลบสายตานั้น แต่มือกลับกำดาบแน่น—หากความลับของเขาถูกเปิดเผย ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ วังหลวงลุกเป็นไฟ อำนาจเปลี่ยนมือภายในคืนเดียว และซือเหยาถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ เขาถูกทรมานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือจากคนที่เขาไม่คาดคิด—เหวินจิ้ง แม่ทัพผู้สง่างาม ผู้ที่เคยบอกว่า “เจ้าดูไม่เหมือนขันที”


ซือเหยาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหวินจิ้งจึงยอมเสี่ยงช่วยเขา แต่ทั้งสองจำต้องหลบหนีออกจากวัง และเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยอาคมและตำนานโบราณ เพื่อค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการล่มสลายของราชวงศ์


ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่เริ่มมองเห็นกันในมุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นเพียงเงากับสายตาที่คอยจับผิด กลับกลายเป็นสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นอย่างช้าๆ ในม่านหมอกแห่งความลวงและอันตราย


แต่…ซือเหยาจะสามารถมีชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนี้ได้หรือไม่? และเหวินจิ้งจะยอมรับความรู้สึกที่เขามีให้กับชายผู้เป็น “ขันทีปลอม” ได้หรือเปล่า?

สารบัญ

[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 1 เงาไร้ตัวตน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 2 เงาในกรงทอง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 3 พายุที่กำลังมาเยือน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 4 เพลิงไฟแห่งการกบฏ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 5 ทางรอดและเส้นทางที่แยกจากกัน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 6 บุปผาที่ร่วงหล่น,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 7 กุหลาบกลางพายุ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 8 เงามืดใต้จันทร์เพ็ญ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 9 เงาสะท้อนในห้วงอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 10 ใต้เงาจันทร์และคำสัญญาที่ถูกลืม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 11 เส้นทางแห่งเงาและแสงสว่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 12 ม่านหมอกแห่งปริศนา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 13 เงาอดีตและความลับที่ถูกซ่อนไว้,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 14 เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 15 ทางแยกของชะตากรรม,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 16 เงาในม่านรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 17 แสงจันทร์และคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 18 ราตรีใต้เงาจันทร์,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 19 เงาแห่งอดีต,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 20 เส้นทางแห่งคมดาบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 21 ทางแยกของเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 22 เงาในวังหลวง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 23 ราชันย์ผู้ร่วงโรย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 24 เงาลวงในราตรี,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 25 เพลิงแค้นและคำสาบาน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 26 ฝีเท้าในห้วงรัตติกาล,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 27 คมมีดใต้จันทร์กระจ่าง,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 28 เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 29 บุปผาราตรีกลางป่าลี้ลับ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 31 วิหารแห่งเสียงเงียบ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 32 ม่านหมอกแห่งใจ,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 33 ใจกลางหมอกหลอน,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 34 เสียงสะท้อนจากหีบผนึก,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 35 ผู้พิทักษ์ในเงา,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 36 เปลวเพลิงแห่งแดนมังกร,[BL] ลำนำบุปผาในม่านมายา-บทที่ 37 เพลิงพิภพ

เนื้อหา

บทที่ 30 เสียงกระซิบจากหมอกหลอน


รุ่งอรุณของวันที่สามในป่าลึกมาถึงพร้อมหมอกหนาแน่นกว่าทุกวัน แสงอาทิตย์แทบไม่อาจส่องทะลุม่านขาวหม่นที่คลอเคลียอยู่เหนือพื้นดิน ซือเหยาเงยหน้ามองไปรอบตัวด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ ราวกับทุกสิ่งเปลี่ยนไปโดยไม่มีคำเตือน

เขาลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนตรงขอบแนวต้นไม้ที่พวกเขาใช้เป็นที่พักพิง หยดน้ำจากหมอกเกาะอยู่บนปลายผมและขนตา แต่ที่น่าประหลาดคือ—เสียงทุกอย่างเงียบสนิท


ไม่มีเสียงนกร้อง

ไม่มีเสียงใบไม้ไหว

ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของป่า


ซือเหยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวเยือกในใจ


“หมอกนี้… เหมือนมันมีชีวิต”   เขาพึมพำกับตนเอง


ทันใดนั้น เสียงกิ่งไม้แห้งใต้เท้าดังกรอบแกรบจากเบื้องหลัง เขาหันขวับกลับไป ก็เห็นเหวินจิ้งเดินออกมาจากเงาไม้ช้าๆ แม้ยังดูอ่อนแรง แต่ก็ยืนด้วยตัวเองได้อย่างมั่นคง


“ข้าตื่นเพราะกลิ่นของหมอกนี่แหละ”   เหวินจิ้งพูดเบาๆ ขณะยกมือขึ้นแตะม่านหมอกที่ไหลเอื่อยราวกับมีชีวิต   “เจ้ารู้สึกหรือไม่ ว่ามัน…เหมือนกำลังพยายามจะดึงเราเข้าไป”








หลังจากเตรียมตัวเล็กน้อย พวกเขาก็เริ่มเดินทางลึกเข้าไปในหมอกหลอนด้วยความระมัดระวัง เส้นทางเต็มไปด้วยเถาวัลย์พันเกี่ยว ต้นไม้สูงตระหง่านราวกับผู้เฝ้ายามโบราณ และกลิ่นลึกลับที่ลอยอวลอยู่ในอากาศ


ทุกย่างก้าวเหมือนฝ่าเข้าไปในโลกที่ไม่ควรมีอยู่จริง


ในขณะที่พวกเขาเดิน ซือเหยาสังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง—ผืนผนังหินขนาดใหญ่ซึ่งมีอักษรโบราณสลักไว้จางๆ เขาก้มมองแล้วลูบไปบนอักษรเหล่านั้นอย่างเบามือ ก่อนจะอ่านออกเสียง


“เมื่อดวงใจไร้เจ้าของข้ามผ่านม่านมายา

จงรู้ไว้ว่า บาปในใจจะเป็นเครื่องเซ่น

และสิ่งที่รออยู่ มิใช่เพียงความจริง—แต่เป็นการเลือกที่ไม่มีวันย้อนกลับ”


เสียงของเขาสะท้อนก้องในหมอกอย่างน่าขนลุก เหวินจิ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงต่ำ


“เหมือนมันรู้ว่าเราจะมา”


“หรือนี่คือกับดักของผู้สร้างดินแดนนี้”   ซือเหยาตอบ ดวงตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด


แต่ไม่มีเวลาสำหรับลังเล พวกเขาต้องเข้าไปข้างใน เพราะความลับของราชวงศ์และการทรยศทั้งหมดอาจเริ่มต้นจากสถานที่แห่งนี้








หลังเดินทางผ่านโขดหินสูงและลำธารน้ำสีเงิน พวกเขาก็มาถึงพื้นที่เปิดโล่งเล็กๆ ซึ่งมีอาคารทรุดโทรมตั้งตระหง่านอยู่กลางหมอก วิหารหินเก่าหลังหนึ่ง แทบจะกลืนหายไปกับสีเทาหม่นของสายหมอก หน้าวิหารมีรูปปั้นหญิงสาวผู้สวมผ้าคลุมปิดหน้า มือข้างหนึ่งยื่นออกมาอย่างอ่อนโยน ขณะที่อีกข้างถือดอกไม้ซึ่งร่วงโรยแล้ว

เมื่อซือเหยาเดินเข้าไปใกล้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวทันที—เสียงที่มิได้ออกมาจากปากของใครคนใด


‘เจ้าผู้ก้าวเข้ามาด้วยหัวใจที่มีรอยแผล—จงเลือก

ระหว่างความจริงที่ทำลายทุกสิ่ง หรือคำลวงที่ปลอดภัย

หากเจ้าจะรู้ความลับของราชบัลลังก์ เจ้าต้องแลก…’


ซือเหยาทรุดเข่าลงอย่างแรง มือกุมขมับแน่น ราวกับมีใครกำลังกระซิบคำสาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโสตประสาท เหวินจิ้งรีบเข้ามาประคองเขาไว้


ซือเหยา! ได้ยินข้าไหม?”


ซือเหยาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสั่นไหวเหมือนเพิ่งรอดพ้นจากความมืดมน “มีบางอย่าง… พูดกับข้า มันพูดถึง—ความจริงของราชวงศ์ มันบอกให้ข้าเลือก…!








ในคืนนั้น พวกเขานั่งอยู่หน้าเปลวไฟที่แทบไม่อาจส่องผ่านหมอกได้ ไฟเต้นระริกในดวงตาของเหวินจิ้งที่ยังจับจ้องซือเหยาอย่างเงียบงัน


“เจ้ากลัวหรือไม่”   เขาถาม


ซือเหยาพยักหน้า   “กลัวสิ ไม่ใช่เพราะข้ากลัวความลับนั่น… แต่ข้ากลัวว่า หากรู้มันแล้ว—ข้าอาจไม่ใช่คนเดิม”


เหวินจิ้งเงียบไป ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้จนระยะห่างระหว่างกันมีเพียงเงา


“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร… ข้าก็จะอยู่ข้างเจ้า”


หัวใจของซือเหยาสะดุดอย่างแรง ริมฝีปากอยากจะเอ่ยคำบางอย่างตอบ แต่สุดท้ายก็เงียบไว้


เพราะในโลกของหมอกที่ซ่อนความจริงไว้มากมาย—แม้แต่หัวใจก็ไม่กล้าเผยออกมาทั้งหมด