เมื่อมนุษย์ลืมตำนานตำนานจึงกลับมาทวงคืนความจริง ครั้งหนึ่งเมื่ออดีตกาลอันไกลโพ้น เหล่ามวลมนุษย์เคยมีวิทยาการที่เหนือธรรมชาติ เช่นศาสตร์แห่งการต่อสู้ อย่างการใช้ มานา ลมปราณและพลังฉี แต่มนุษย์ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆเช่นพวกแอลฟ์ มนุษย์สัตว์ และเผ่าพันธุ์อื่นๆอีกมากมาย
เพื่อต่อกร กับ. ปีศาจ และ มอนสเตอร์ แต่ทว่าสงครามระหว่างพวกเขานั้นกินเวลายาวนานเกินไป จึงต้องจำใจ สละพลังของพวกเขา เพื่อผนึกฝันร้ายเหล่านั้น ณปัจจุบัน ผนึกนั้นเริ่มถูกคลาย จุดเริ่มต้นของวันสิ้นโลกก็มาถึง
แอคชั่น,แฟนตาซี,ไซไฟ,ดราม่า,ผจญภัย,มนุษย์สัตว์,เอลฟ์,เอาชีวิตรอด,มอนสเตอร์บุกโลก,พระเอกเก่ง,พระเอกเทพ,ตำนาน,แอคชั่น,การต่อสู้,สงคราม,พลังพิเศษ,เวทมนตร์,ฮาเร็ม,ผจญภัย,ดราม่า,ปีศาจ,มอนสเตอร์,ไซไฟ,แฟนตาซี ,วันสิ้นโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
🌅 รุ่งอรุณแห่งความเปลี่ยนแปลง
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ค่อย ๆ ไต่ขอบฟ้าขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า ย้อมท้องฟ้าด้วยสีทองส้มตัดกับเงาสีหม่นของซากเมือง ถนนแตกร้าวทอดยาวสุดสายตา เต็มไปด้วยซากรถพังและโครงกระดูกของอารยธรรมเก่า ลมเช้าพัดผ่าน หอบเอากลิ่นสนิมและเถ้าถ่านลอยอ้อยอิ่งในอากาศ
ในความเงียบงันของเมืองร้าง ร่างหนึ่งก้าวเดินไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
"ฟู่~~"
ยองมินพ่นลมหายใจออกเบา ๆ ทุกก้าวของเขาเงียบสนิทแทบไม่มีเสียงใดเล็ดลอด
— 'โลกเปลี่ยนไปมาก…'
เขากวาดสายตามองรอบ ๆ ตึกสูงหลายหลังเหลือเพียงเศษอิฐและเหล็กบิดเบี้ยว หลังคาที่เคยปกคลุมกลายเป็นเพียงเศษซาก ลมหอบฝุ่นคลุ้งขึ้นมาเบา ๆ แต่ทันใดนั้น…
"โอ้โห~ นี่ฉันเจอคนเป็น ๆ เข้าแล้วสินะ"
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง
⚠️ การเผชิญหน้าครั้งแรก
ยองมินหยุดเดินทันที เขาหันไปช้า ๆ และสิ่งที่เห็นก็คือ…
กลุ่มชายฉกรรจ์ราวห้าหกคนยืนล้อมรอบเขา แต่ละคนถืออาวุธที่ดูแปลกตา บางคนถือมีดพก บางคนถือท่อนเหล็กที่เปื้อนคราบเลือดแห้ง ๆ
ชายร่างสมส่วนหุ่นลีนคนหนึ่งก้าวออกมาด้านหน้า เขามีผมสีน้ำเงิน สวมเสื้อกล้าม กางเกงเก่าๆ และมีปืนพกเหน็บอยู่ข้างเอว
"หืม~"
ยองมินเหลือบมองพวกเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์
"คนจริง ๆ หรอ…"
นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอกับมนุษย์
ชายผมสีน้ำเงินยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ส่งของที่อยู่ในมือแกมาซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิต!"
น้ำเสียงของเขาหยิ่งผยอง เหมือนเป็นเจ้าของโลกใบนี้
ยองมินก้มมองมีดครัวในมือของตัวเอง ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"ขอโทษนะครับ แต่นี่เป็นของที่ผมหามาเอง"
เสียงของเขานุ่มนวลและสุขุม… แต่ไร้ความหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง
ชายที่ถือมีดพกหัวเราะในลำคอ
“หืม? ฟังดูมีมารยาทดีนี่”
เขาก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“แต่ในโลกแบบนี้นะ ไอ้พวกที่มีมารยาทมักจะเป็นฝ่ายตายก่อน แกรู้ไหม?”
ชายผมสีน้ำเงินพยักหน้าให้ลูกน้องของมัน
“จัดการมันซะ!”
⚔️ การปะทะที่รวดเร็วเกินไป
พวกมันพุ่งเข้าหาเขาพร้อมกัน …แต่มันช้าเกินไป
"ฉัวะ!"
เสียงมีดครัวตัดผ่านอากาศ ก่อนที่ชายคนแรกจะร้องลั่นและทรุดลงกับพื้น
เลือดสีเข้มพุ่งกระจาย แผลที่ไหล่ลึกจนเห็นกระดูก
"อ๊ากกกกก!!"
ทุกคนชะงัก ตัวแข็งทื่อ รู้สึกเหมือนสายลมรอบตัวหยุดนิ่ง
☠️ ความเงียบที่กดขี่ทุกสิ่ง
"นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจอกับคนเป็น ๆ เพราะงั้นผมเลยไม่อยากฆ่าใครนะครับ"
ยองมินกล่าวเสียงเรียบ ก้าวเดินเข้าไปช้า ๆ
พวกมันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
— 'บ้าเอ๊ย... นี่มันตัวอะไรกัน?'
ชายผมสีน้ำเงินกัดฟันแน่น พยายามยกปืนขึ้น แต่…
"กร๊อบ!"
เสียงกระดูกหักดังขึ้น
ยองมินหายตัวไปต่อหน้าต่อตา!
ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว มือของเขาก็กำลังบีบข้อมือชายผมสีน้ำเงินแน่น
"อ๊ากกก!!"
ปืนร่วงลงพื้น ข้อมือบิดเบี้ยวจนผิดรูป
ชายอีกคนชะงักค้าง เหงื่อแตกพลั่กเมื่อตระหนักว่าพวกเขาเลือกปล้นผิดคน
😨 ความหวาดกลัวที่ฉีกกระชากขวัญ
"แต่ถ้าพวกคุณยังไม่หยุด…"
ยองมินเงยหน้าขึ้น ดวงตาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของชายผมสีน้ำเงิน
— 'สายตานี่มันอะไรกัน…?!'
ชายคนนั้นรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างบีบหัวใจ ความรู้สึกหนาวเยือกแล่นขึ้นไปถึงไขสันหลัง เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับมัจจุราชตัวจริง
"ผมก็จะไม่ออมมือแล้วล่ะ… อย่าให้ผมต้องฆ่าคนเลยครับ"
🔥 อำนาจที่บดขยี้ทุกสิ่ง
“ หยุด... พอ..พอแล้ว! พวกฉันยอมแล้ว!”
ชายผมสีน้ำเงินรีบยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ ก่อนจะหันไปมองลูกน้องที่เหลือ
พวกมันพากันถอยหลังอย่างหวาดกลัว ดวงตาสั่นระริก
"มะ...มะ..มันเป็นตัวอะไรกัแน่!!"
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ของรุ่งเช้าค่อย ๆ ทอประกายเหนือซากเมืองร้าง อากาศเย็นยามเช้าพัดผ่านเศษซากแห่งอารยธรรมเก่าที่หลงเหลืออยู่ ยองมินยืนอยู่กลางถนนที่แตกร้าว รอบตัวเขามีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งนั่งกองกับพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือด บางคนบาดเจ็บ บางคนยังคงตัวสั่นจากแรงกดดันที่พวกเขาเพิ่งได้สัมผัส
ยองมินมองชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาคือชายร่างสมส่วน หุ่นลีน มีผมสีน้ำเงินซึ่งตอนนี้กำลังกัดฟันแน่นพร้อมเหงื่อที่ไหลซึมตามขมับ
"ผมมีคำถามอยู่สองสามข้อ..." ยองมินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจที่ปฏิเสธไม่ได้
"ตอบมาให้ดี แล้วผมจะไม่ทำอะไรมากกว่านี้"
ชายผมสีน้ำเงินกลืนน้ำลายและดื่มน้ำบางอย่างที่อยู่ในขวดเล็ก
"อึกๆ...อ่า~"
จากนั้นเขาฝืนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพยักหน้า
"แค่ไม่ฆ่าพวกฉันก็ดีแล้ว... ถามมาเถอะ"
ก่อนจะเริ่มถามยองมินสงสัยเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาดื่มน้ำประลาดๆและแผลก็เริ่มหายในระดับพ้นขีตอันตรายเล็กน้อย
"ตอนนี้โลกเป็นยังไงบ้าง?" ยองมินถาม
ชายคนนั้นถอนหายใจ ก่อนจะเริ่มอธิบาย "ก็ไม่ต่างจากนรกบนดินหรอก... แปดปีก่อน ท้องฟ้าฉีกขาด ประตูมิติปรากฏขึ้นทั่วโลก และจากจุดนั้น มอนสเตอร์ก็เริ่มหลั่งไหลออกมาไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันฉีกกระชากเมืองต่าง ๆ จนพังพินาศ มนุษย์ล้มตายเป็นเบือ อารยธรรมที่เคยรุ่งเรืองหายไปในชั่วพริบตา"
"กองทัพและรัฐบาลล่ะ?" ยองมินถามต่อ
"ถูกทำลายไปเกือบหมดในปีแรก มีบางกลุ่มที่รอดมาได้และตั้งตนขึ้นเป็นอำนาจใหม่ แต่มันก็แค่พวกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่อยู่รอด โลกตอนนี้ไม่ได้มีประเทศหรือกฎหมายอีกแล้ว มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นผู้ปกครอง"
"แล้วมนุษย์อยู่รอดมาถึงตอนนี้ได้หรอ??" ยองมินถามสิ่งที่เขาสงสัยมาตลอด
หนึ่งในพวกโจรที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น
"หึ...นายไม่รู้จริง ๆ เหรอ?" เขาถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนจะพูดต่อ
"ปีแรกหลังจากที่โลกล่มสลาย มันเป็นนรกที่แท้จริง อาหารเริ่มหมด เงินก็ไร้ค่า...พวกที่อ่อนแอก็ตายกันไปหมดแล้ว"
ชายอีกคนที่ดูผอมแห้งเสริมขึ้น
"ตอนแรกเราก็พยายามอยู่กันดี ๆ นะ...แต่สุดท้ายเมื่ออาหารหมด คนก็เริ่มฆ่ากันเอง มันไม่มีทางเลือกหรอก หลายคนถึงกับต้องกินเนื้อมอนสเตอร์เพื่อประทังชีวิต แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปราบมันและแม้ว่ามอนสเตอร์บางตัวอาจมีพิษหรือมีผลข้างเคียงก็ตาม"
หัวหน้ากลุ่มเห็นยองมินทำหน้ามึนงงไม่ต่างอะไรกับคนที่พึงมาเจอโลกเช่นนั้นเขาจึงเริ่มถามยองมิน..
“นายไปอยู่ที่ไหนมาทั้งที่แข็งแกร่งขนาดนั้นแต่กลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลในตอนนี้เลย”
ยองมินเงียบไม่ได้ตอบ
……….
หัวหน้ากลุ่มคนนั้นเกาหัวก่อนจะกล่าวว่า
“ชั่งเถอะ…เดียวฉันจะให้ข้อมูลกับนายเท่าที่ฉันพอจะรู้ก็แล้วกัน”
ยองมินฟังอย่างเงียบ ๆ
🔹 สรุปข้อมูลที่ได้รับมา
หลังวันสิ้นโลกความสามารถที่เหนือมนุษย์
พลังของมนุษย์ที่ตื่นขึ้นมาหลังวันสิ้นโลก
มีหลายปัจจัยและหลายประเภท ได้แก่
เริ่มสัมผัสพลังได้ เช่น เริ่มสัมผัส มานา,
พลังฉี, ลมปราณ
การกลายพันธุ์ – พันธุกรรมเปลี่ยนแปลง
เช่น ฝัง DNA ของมอนสเตอร์ หรือปรับ
ตัวตามสภาพแวดล้อม
การดัดแปลงร่างกาย – ใช้วิทยาการ
มนุษย์ เช่น เสริมอวัยวะ, เชื่อมแกนกลางมอนสเตอร์เข้ากับร่างกาย
สายเลือดเผ่าโบราณหรือตำนาน – เช่น สายเลือดเอลฟ์, แม่มด, แวมไพร์ ที่ตื่นขึ้น
ความทรงจำจากอดีตชาติ – เช่น เคยเป็นวีรชนอย่าง นักดาบ, จอมเวท, อัศวิน, นักธนู และอื่นๆ
และพลังสุดท้าย
"รางสถิต ซึ่งเรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้มากนัก"
ปีแรกหลังวันสิ้นโลกอาหารขาดแคลน เงินหมดค่า มนุษย์เริ่มใช้แกนกลางมอนสเตอร์เป็นสกุลเงิน
บางคนต้องกินเนื้อมอนสเตอร์เพื่อเอาชีวิตรอด
พลังเหนือมนุษย์มันมีติดตัวมาตั้งแต่เกิดแต่พึ่งจะถูกปลดผนึกหลังวันสิ้นโลกและต้องฝึกฝน หรือได้รับจากปัจจัยบางอย่าง
ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราหลังวันสิ้นโลก
ทองแทบไม่มีค่าอีกต่อไป
มนุษย์ใช้ "แกนกลางของมอนสเตอร์" เป็นสกุลเงินหลัก
บางพื้นที่ใช้หินรูนสโตนที่ผ่านการเจียระไนเป็นเหรียญแทน
เหตุผลที่ใช้แกนกลางและหินรูนสโตน
ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เสริมพลัง, เป็นพลังงาน, สร้างอาวุธ
ไม่สามารถปลอมแปลงได้
หินรูนสโตนคืออะไร?
เกิดจากหินบางชนิดที่ได้รับพลังมานาหลังวันสิ้นโลก
บางคนเชื่อว่ามันเคยเป็นหินรูนสโตนอยู่แล้ว แต่พลังของมันเพิ่งถูกปลุกขึ้น
มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น สะสมพลังงาน,ทำโพชั่นเพื้อรักษา ใช้เป็นเชื้อเพลิงเวทมนตร์, ใช้หลอมรวมกับอาวุธ
,(โพชั่นมันคือน้ำประลาดๆสีฟ้าที่พวกโจรดื่มก่อนหน้านี้)
พวกโจรเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาแต่มีทักษะการเอาชีวิตรอดและเชี่ยวชาญเรื่องเส้นทางสูง
ไม่ใช่ทุกคนจะมีพลังเหนือมนุษย์ พลังเหล่านี้ต้องฝึกฝนหรือได้รับจากปัจจัยบางอย่าง
พวกโจรเอาตัวรอดได้ยังไงและอาวุธของพวกเขาบางอย่างที่ดูแปลกตา
เนื่องจากอาวุธปกติไม่สามารถทำอันตรายมอนสเตอร์บางตัวได้
พวกเขาใช้ กระดูก, กรงเล็บ, เขี้ยว หรือเกราะของมอนสเตอร์ มาสร้างอาวุธแทน
อาวุธเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าของที่ทำจากโลหะธรรมดา
ยองมินพยักหน้าเบา ๆ หลังจากได้ยินทั้งหมด
โลกที่เขาเคยรู้จัก... ไม่เหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว
☠️ สิ่งที่ต้องตัดสินใจต่อไป
หลังจากได้รับข้อมูลมาคร่าวๆ ยองมินมองกลุ่มชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า พวกเขายังคงมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่
"พวกคุณพอจะรู้ไหมว่าเมืองนี้อยู่ที่ไหน?"
ยองมินถามเป็นคำถามสุดท้ายพร้อมเปิดหนังสือพิมพ์ให้พวกเขาดู
ชายผมสีน้ำเงินลังเล ก่อนจะตอบ
"เดินไปตามถนนนี้เรื่อยๆสุดทางมันจะมีป้อมประการอยู่มันคือเมืองที่นายตามหา"
เขาชี้ไปตอบไป
"ขอบคุณคับ "
จากนั้นยองมินก็จากไป
ชายพวกนั้นไม่รอช้า รีบลุกขึ้นและพากันถอยทันที
แต่ก่อนหน้านั้น..
"เอานี่ไป"
หนึ่งในพวกเขาได้โยนกระดาษแผ่นหนึ่งลงพื้น
ยองมินหยิบเปิดมาดูมันคือกระดาษแผนที่
เขาสูดลมหายใจลึก ๆ
'โลกใบนี้... ผมต้องเริ่มต้นใหม่จากตรงไหนดี?'
{จบบทที่2}