“ในโลกของศิลปะ คำพูด และแสงเงา… ใครกันที่จะกลายเป็นภาพสุดท้ายในหัวใจเธอ”
ดราม่า,ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,อื่นๆ,ดราม่า,รักสามเศร้า,รักโรแมนซ์,รักโรแมนติก,รักไม่สมหวัง,รักโรแมนติด,รักต้องห้าม,รัก,18+,NC,NC+,Nc,Nc18+,โรแมนซ์,โรแมนติก,สามคน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความรักในโลกสองใบ (NC)“ในโลกของศิลปะ คำพูด และแสงเงา… ใครกันที่จะกลายเป็นภาพสุดท้ายในหัวใจเธอ”
ในเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาและสายหมอก มีหญิงสาวชื่อ "ลลิน" อายุ 26 ปี เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบเรียบง่าย ผมยาวสีน้ำตาลเข้ม และดวงตาที่เต็มไปด้วยความฝัน ลลินทำงานเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน เธอใช้ชีวิตอย่างสงบ จนกระทั่งสองชายหนุ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของเธอ
"กันต์" ชายหนุ่มวัย 28 ปี เป็นนักเขียนอิสระที่ย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านเพื่อหาแรงบันดาลใจ เขามีบุคลิกเงียบขรึมแต่ลึกซึ้ง ดวงตาของเขามักมองลลินด้วยความรู้สึกที่เธอเองก็ตีความไม่ถูก ส่วน "โอม" ชายหนุ่มวัย 27 ปี เพื่อนสนิทของกันต์ เป็นคนร่าเริง อบอุ่น และมีรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนหลงใหล เขาทำงานเป็นช่างภาพอิสระ และมักชวนลลินไปถ่ายรูปท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งสามคนเริ่มต้นจากมิตรภาพที่งดงาม แต่เมื่อความรู้สึกเริ่มลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อน ความสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้ก็เริ่มสั่นคลอน
โอมหยิบเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งใกล้โต๊ะของเธอ "เมื่อวานที่น้ำตกสนุกดีนะ ผมดูรูปที่ถ่ายไปแล้ว รูปของลลินสวยทุกใบเลย" เขาพูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
ลลินหน้าแดง เธอก้มหน้าลงมองสมุดงานในมือ "อย่ามาแกล้งฉันเลย ฉันไม่ชอบให้ถ่ายรูปอยู่แล้ว"
"แต่ผมชอบถ่ายลลินนะ" โอมพูดต่อ น้ำเสียงของเขาอ่อนลง "บางทีผมอาจจะเอารูปพวกนี้ไปทำอัลบั้มส่วนตัวก็ได้"
ลลินเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจปนความขี้เล่น เธออยากพูดอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนเรื่อง แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปาก เด็กๆ บางคนเริ่มวิ่งมาหาโอม
"พี่คนนี้เป็นเเฟนของ ครูลลินหรอครับ" เด็กชายตัวเล็กถาม เขามองโอมด้วยความสงสัย
"พี่โอมเป็นช่างภาพจ้ะ มาดูพวกหนูวาดรูป" ลลินตอบ เธอยิ้มให้เด็กๆ แล้วหันไปมองโอม "ระวังนะ เด็กๆ ที่นี่ซนมาก"
โอมหัวเราะ เขาลุกขึ้นแล้วเริ่มคุยกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง เขายกกล้องขึ้นถ่ายรูปเด็กที่กำลังวาดรูปอยู่ ลลินมองภาพนั้นแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากโอม เขาคล้ายแสงแดดที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวสว่างไสว เธอเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากโอมอยู่ช่วยเธอในห้องเรียนสักพัก เขาก็ชวนเธอไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันที่ร้านอาหารเล็กๆ ใกล้โรงเรียน ร้านนั้นเป็นเพิงไม้ที่มีโต๊ะเก้าอี้พลาสติกวางเรียงกันไม่กี่ตัว กลิ่นข้าวผัดและน้ำพริกลอยคละคลุ้งในอากาศ ลลินสั่งข้าวผัดผัก ส่วนโอมเลือกข้าวเหนียวไก่ย่าง
"ลลินเคยคิดมั้ย ว่าถ้าชีวิตมันเรียบง่ายแบบนี้ตลอดไปจะดีแค่ไหน" โอมถามขณะที่เขาตักข้าวเหนียวเข้าปาก
ลลินนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอนึกถึงคำถามที่เธอเคยถามโอมเมื่อวาน "ฉันชอบความสงบแบบนี้แหละ แต่บางทีมันก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป" เธอตอบ เธอมองไปที่จานข้าวของตัวเอง หลีกเลี่ยงสายตาของโอม
"ขาดอะไรเหรอ" โอมถามต่อ เขาวางตะเกียบลงแล้วมองเธอด้วยความสนใจ
ลลินลังเล เธอไม่รู้จะตอบยังไง เพราะในใจของเธอ คำตอบนั้นอาจเกี่ยวข้องกับโอมและกันต์ "ไม่รู้สิ บางทีอาจจะเป็น... ความตื่นเต้นแบบที่โอมพูดเมื่อวาน" เธอพูดออกไปอย่างเลี่ยงๆ
โอมยิ้ม เขาเอื้อมมือไปหยิบน้ำเย็นที่วางอยู่กลางโต๊ะแล้วยื่นให้เธอ "ถ้าอย่างนั้น ผมจะพยายามทำให้ชีวิตของลลินตื่นเต้นขึ้นมาบ้างละกัน"
ลลินรับแก้วน้ำจากเขาแล้วยิ้มตอบ "ระวังนะ ฉันอาจจะตามไม่ทันความตื่นเต้นของโอมก็ได้"
ทั้งคู่หัวเราะกันเบาๆ บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย แต่ในใจของลลิน เธอยังคงรู้สึกถึงเงาของกันต์ที่ตามหลอกหลอนเธออยู่
เย็นวันนั้น หลังจากเลิกงาน ลลินตัดสินใจเดินกลับบ้านผ่านทางลัดที่ตัดผ่านทุ่งหญ้าเล็กๆ ข้างหมู่บ้าน ลมเย็นพัดผ่านใบหญ้าทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบเบาๆ เธอเดินไปได้ไม่ไกลก็เห็นกันต์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาเข้ม ผมสีดำยุ่งเล็กน้อยจาก ลม มือของเขาถือปากกาและสมุดโน้ตที่เปิดค้างไว้
"กันต์?" ลลินเรียกเขาเบาๆ เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเห็นว่าเขากำลังขีดเขียนอะไรบางอย่าง
กันต์เงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาของเขาดูเหนื่อยล้าแต่ยังคงลึกซึ้งเหมือนเคย "ลลิน" เขาทักทายสั้นๆ ก่อนจะปิดสมุดโน้ตลง "กลับบ้านเหรอ"
"ใช่ กันต์มานั่งทำอะไรที่นี่" ลลินถาม เธอนั่งลงข้างเขาบนพื้นหญ้าโดยไม่รอคำเชิญ
"แค่อยากหาที่เงียบๆ เขียนอะไรไปเรื่อยๆ" กันต์ตอบ เขามองออกไปยังทุ่งหญ้าที่ทอดยาวไปจนถึงเชิงเขา "บางทีการอยู่คนเดียวมันช่วยให้ผมคิดอะไรได้ชัดขึ้น"
ลลินพยักหน้า เธอมองไปตามสายตาของเขา "กันต์ชอบอยู่คนเดียวเหรอ"
"ไม่เชิง" กันต์หันมามองเธอ "ผมแค่... ชินกับมัน แต่บางครั้งผมก็อยากมีคนอยู่ด้วย" คำพูดของเขาหยุดลงกะทันหันราวกับเขาตั้งใจกลั้นอะไรบางอย่างไว้
ลลินรู้สึกถึงน้ำหนักในคำพูดของเขา เธออยากถามต่อ แต่กลัวว่ามันจะทำให้บรรยากาศอึดอัด เธอจึงเปลี่ยนเรื่อง "เมื่อวานที่น้ำตก กันต์เขียนอะไรในสมุดเหรอ ฉันเห็นแวบๆ แต่ไม่ทันอ่าน"
กันต์ยิ้มมุมปาก เขาเปิดสมุดโน้ตแล้วยื่นให้เธอดู หน้าแรกที่เขาเขียนมีประโยคสั้นๆ ว่า "เงาของเธอทอดยาวกว่าที่ผมคาดไว้" ลลินอ่านแล้วรู้สึกหัวใจเต้นแรง เธอมองไปที่กันต์ด้วยความสงสัย
"มันคืออะไรเหรอ" เธอถาม
"แค่ความรู้สึกตอนนั้น" กันต์ตอบ เขาปิดสมุดแล้วมองเธอ "บางครั้งผมเห็นอะไรที่มันมากกว่าที่ตาเห็น แล้วผมอยากเก็บมันไว้"
ลลินนิ่งไป เธอรู้สึกถึงความลึกซึ้งในตัวกันต์ที่แตกต่างจากโอมอย่างสิ้นเชิง โอมคือสายลมที่พัดผ่าน แต่กันต์คือเงาที่หยั่งรากลึก เธอไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของเธอถึงสั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา
ทั้งคู่คุยกันต่ออีกสักพัก กันต์เล่าให้เธอฟังถึงนิยายที่เขากำลังเขียน เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่หลงรักเงาของคนที่เขาไม่มีวันเอื้อมถึง ลลินฟังอย่างตั้งใจ เธอรู้สึกเหมือนกันต์กำลังเล่าบางส่วนของตัวเองผ่านเรื่องนั้น
เมื่อแสงสุดท้ายของวันเริ่มจางหาย กันต์ลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้เธอ "ผมเดินไปส่งที่บ้านมั้ย"
ลลินยิ้มแล้วรับมือของเขา "ได้สิ ขอบคุณนะ"
ระหว่างทางกลับบ้าน กันต์เดินเคียงข้างเธออย่างเงียบๆ ลมเย็นพัดผ่านใบหน้าของทั้งคู่ ลลินรู้สึกถึงความสงบที่แตกต่างจากตอนที่เธออยู่กับโอม มันไม่ใช่ความตื่นเต้น แต่เป็นความรู้สึกที่มั่นคงและปลอดภัย
เมื่อถึงหน้าบ้าน กันต์หยุดแล้วมองเธอ "ลลิน" เขาเรียกชื่อเธอเบาๆ "ถ้าผมพูดอะไรที่มันหนักเกินไป บอกผมได้นะ"
ลลินส่ายหน้า "ไม่เลย ฉันชอบฟังกันต์พูด มันทำให้ฉันรู้สึก…ดี"
กันต์ยิ้ม เขาพยักหน้าก่อนจะหันหลังเดินจากไป ลลินมองตามหลังเขาจนร่างของเขาหายลับไปในความมืด เธอเดินเข้าบ้านแล้วนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวตัวเล็กในครัว มือของเธอวางทาบลงบนหน้าผาก หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
โอมและกันต์ สองคนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่กลับเข้ามาในชีวิตของเธอพร้อมกัน ลลินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างสายลมและเงามืด และเธอไม่รู้เลยว่าเส้นนั้นจะพาเธอไปทางไหน