เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) - 3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน

รายละเอียด

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

ผู้แต่ง

Raine Whitmore

เรื่องย่อ

ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี "กันต์"  เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลเกษตรกรที่เคยร่ำรวย แต่ตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหนี้สินมหาศาลจากการลงทุนที่ผิดพลาด วันหนึ่ง แม่ของเขาก็เดินมาพร้อมสีหน้าซีดเซียว "กันต์ ลูกต้องแต่งงาน" คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเขส

อีกฟากหนึ่งของเมือง "ภีม" ลูกชายคนเล็กของตระกูลวรวิทย์ วัย 24 ปี ร่างบางแต่สูง ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยโดนแดด ผมสีดำสนิทยาวถึงต้นคอ ดวงตาคู่สวยที่มักมองทุกอย่างด้วยความเย็นชา เขาคือทายาทของตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมุนไพรและยาแผนโบราณ คืนนั้น พ่อของภีมเรียกเขาเข้าไปคุยในห้องทำงาน "ภีม พ่อตัดสินใจแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานกับลูกชายของตระกูลนั้น" ภีมขมวดคิ้ว "อะไรกันครับ? ผมจะแต่งกับผู้ชายเนี่ยนะ? พ่อบ้าไปแล้ว!" เขาตะโกน พ่อของเขามองด้วยสายตาแข็งกร้าว "นี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่ง ถ้าลูกไม่ทำ ธุรกิจของเราจะเสียโอกาสใหญ่ ตระกูลนั้นมีที่ดินที่เราต้องการ ลูกต้องยอม"

สารบัญ

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-1 พันธนาการใต้เงาคลุม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-2 ผมเกลียดคุณจริงๆ NC,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-4 ความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-5 เพราะ...เราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เหรอ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-6 ความอบอุ่นจากเตาผิงและความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-8 คุณเปลี่ยนไปเยอะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-9 การเลือกทางของตัวเอง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-10 คุณก็อยากไม่ใช่เหรอ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-11 ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-12 ที่นี่คือบ้าน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-14 ผมอยากจะลองอะไรใหม่ๆกับคุณ (์NC หนักๆ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-15 ผมไม่อยากให้คุณไปไหน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-16 การต่อสู้เพื่อที่ดินกำลังจะถึงจุดสำคัญ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-17 ผมดีใจที่มีคุณอยู่ด้วย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-18 ระหว่างรอผลศาลก็หาอะไรทำดีกว่า (NC ดุเดือด),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-19 ทั้งสองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-21 หวังว่าจะได้ร่วมงานกัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-22 ผมอยากทำอะไรสนุกๆ รุกหนักไปไหม ( NC ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-23 ไร่ชากำลังเติบโต และการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-24 การต่อสู้ยังไม่จบ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-25 ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมดีใจที่มีคุณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-26 ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-27 อนาคตของหมู่บ้านเริ่มสว่างไสวขึ้น,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-28 สองเดือนนี่มันท้าทายจริงๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-29 ความท้าทายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-30 คุณ...ดุเกินไป (NC เร่าร้อนน),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-31 การแข่งขันและความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-32 ชาของเรามีจิตวิญญาณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-33 ร้านใหญ่ในเมืองจะชอบชาเราไหมนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-34 อุปสรรคเริ่มคลี่คลาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-35 คืนแห่งความสุข (จบบริบูรณ์ nc 20+)

เนื้อหา

3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก

แสงแรกของเช้าสาดส่องผ่านรอยแยกของผนังไม้ในกระท่อม ฝนที่ตกหนักทั้งคืนเริ่มซาเหลือเพียงหยดน้ำที่ไหลลงจากหลังคาเป็นจังหวะ กันต์ตื่นขึ้นก่อน เขานอนนิ่ง มองร่างของภีมที่ยังขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าที่หลับสนิทของภีมดูสงบผิดกับเมื่อคืน ดวงตาคู่สวยปิดสนิท ขนตายาวทอดเงาเล็กๆ บนผิวขาวซีด กันต์ถอนหายใจเบาๆ ความรู้สึกในใจของเขาสับสน เขาเกลียดสถานการณ์นี้ เกลียดที่ต้องถูกบังคับ แต่เมื่อมองภีม เขากลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เขาไม่กล้าจะยอมรับ

กันต์ค่อยๆ คลายแขนออกจากร่างของภีม แล้วลุกขึ้นยืน เขาเดินไปที่เตาผิงที่มอดดับไปแล้ว หยิบฟืนสองสามท่อนมาเติมเพื่อให้ความอบอุ่นกลับมาอีกครั้ง เสียงไม้แตกเปาะในกองไฟดังขึ้น ภีมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ เขามองไปรอบๆ ด้วยความงุนงง ก่อนที่สายตาจะหยุดลงที่กันต์

"ตื่นแล้วเหรอ" กันต์พูดโดยไม่หันมามอง เขาก้มหน้าก่อไฟต่อ ภีมลุกขึ้นนั่ง ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างที่ยังเปลือยเปล่าอยู่ "ฝนหยุดแล้ว ฉันจะกลับ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา กันต์หัวเราะในลำคอ "ถนนลงเขายังท่วมอยู่ คุณจะบินกลับเมืองรึไง"

ภีมขมวดคิ้ว "ฉันไม่สน ฉันจะไม่อยู่ที่นี่กับคุณอีก" เขาลุกขึ้น หยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาใส่ด้วยท่าทางรีบร้อน กันต์หันมามอง "ถ้าคุณอยากตายก็ไปเลย ผมไม่ห้าม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ลึกๆ เขารู้สึกถึงความกังวลที่เขาไม่ยอมรับ

ภีมไม่ตอบ เขาเดินไปที่ประตูกระท่อมแล้วเปิดออก ลมเย็นพัดเข้ามาพร้อมกลิ่นดินเปียก ด้านนอก ถนนดินที่ทอดลงจากเขายังคงเป็นโคลนเลนลื่นไหล เขาก้าวออกไปหนึ่งก้าว แต่เท้าของเขาก็ลื่นไถลจนเกือบล้ม กันต์ถอนหายใจ เดินตามออกไปแล้วคว้าแขนของภีมไว้ "กลับเข้ามา ถ้าคุณตาย ผมจะซวยไปด้วย"

ภีมสะบัดแขนออก "อย่ามายุ่งกับฉัน!" เขาตะโกน แต่กันต์ไม่ปล่อย เขาดึงร่างของภีมกลับเข้ามาในกระท่อมแล้วปิดประตูดังปัง "คุณจะดื้อไปถึงไหน" กันต์พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ภีมจ้องหน้ากันต์ด้วยสายตาเกลียดชัง "ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณ ทุกอย่างมันบังคับ!"

กันต์นิ่งไปครู่หนึ่ง "คุณคิดว่าผมอยากรึไง" เขาตอบกลับ "ผมก็ถูกบังคับเหมือนกัน แต่ถ้าคุณตาย ครอบครัวผมจะยิ่งแย่ คุณอยากให้ผมต้องรับผิดชอบศพคุณด้วยเหรอ" คำพูดของกันต์ทำให้ภีมชะงัก เขานั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ อีกครั้ง มือกุมขมับด้วยความเครียด

ความเงียบเข้ามาครอบงำทั้งคู่อยู่นาน กันต์เดินไปหยิบกาน้ำจากมุมห้อง เทน้ำลงในหม้อเก่าๆ แล้ววางลงบนเตา "กินอะไรก่อน ผมจะทำข้าวต้ม" เขาพูดโดยไม่มองหน้า ภีมมองตามหลังกันต์ "คุณทำเป็นด้วยเหรอ" เขาถามด้วยน้ำเสียงประชด

"ผมอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ทำอาหารไม่เป็นผมคงตายไปแล้ว" กันต์ตอบ เขาหยิบข้าวสารจากถุงผ้ามาใส่หม้อ ตามด้วยน้ำและเกลือเล็กน้อย ภีมมองการเคลื่อนไหวของกันต์เงียบๆ มือหยาบกร้านที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว แปลกที่เขารู้สึกถึงความสงบเล็กๆ ท่ามกลางความโกลาหลในใจ

ขณะที่ข้าวต้มเดือด กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยฟุ้งในกระท่อม กันต์ตักใส่ชามไม้สองใบ แล้วยื่นให้ภีม "กินสิ" เขาพูดสั้นๆ ภีมมองชามข้าวต้มด้วยสายตาสงสัย "คุณไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปใช่ไหม" เขาถาม กันต์หัวเราะ "ถ้าผมอยากฆ่าคุณ ผมคงไม่เสียเวลาทำข้าวต้ม"

ภีมรับชามมาถือไว้ เขาค่อยๆ ตักเข้าปาก ความอบอุ่นของข้าวต้มช่วยคลายความหนาวในร่างกายของเขาได้บ้าง "ไม่เลว" เขาพูดเบาๆ กันต์ยกคิ้ว "อะไร" ภีมเงยหน้ามอง "ข้าวต้มน่ะ ไม่เลว" เขาตอบ กันต์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร

หลังจากกินเสร็จ กันต์เก็บชามไปล้างที่มุมกระท่อมที่มีถังน้ำฝนตั้งอยู่ ภีมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นท้องฟ้าที่เริ่มปลอดโปร่ง "คุณคิดว่าถนนจะใช้ได้เมื่อไหร่" เขาถาม กันต์หันมามอง "อีกวันสองวัน ถ้าฝนไม่ตกซ้ำ" ภีมถอนหายใจ "ฉันต้องทนอยู่ที่นี่กับคุณอีกสองวันงั้นเหรอ"

"ถ้าคุณไม่ชอบก็ช่วยตัวเองได้ ผมไม่ใช่พี่เลี้ยงคุณ" กันต์ตอบ เขาเดินออกไปด้านนอกกระท่อมเพื่อตรวจดูสภาพ รอบๆ ภีมมองตามหลังกันต์ เขารู้สึกถึงความโกรธที่ยังคุกรุ่น แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มสงสัยว่ากันต์ที่ดูหยาบกระด้างคนนี้มีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง


วันนั้น กันต์ตัดสินใจพาภีมออกไปดูไร่ชาที่อยู่ไม่ไกลจากกระท่อม เขาต้องการให้ภีมเข้าใจชีวิตของเขาบ้าง แม้จะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากให้ภีมรู้ก็ตาม "ตามผมมา" เขาพูด ภีมลังเล แต่สุดท้ายก็เดินตามไป

ไร่ชาเขียวขจีทอดยาวไปตามไหล่เขา กลิ่นใบชาสดลอยมาในอากาศ กันต์หยิบตะกร้าใบหนึ่งยื่นให้ภีม "ช่วยผมเก็บใบชาหน่อย" เขาพูด ภีมมองตะกร้าด้วยสายตาไม่เชื่อ "ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้" เขาบอก กันต์ยักไหล่ "ก็ลองดู คุณจะได้รู้ว่าชีวิตผมมันไม่ใช่แค่ตื่นมากินข้าว"

ภีมจำใจรับตะกร้ามา เขาค่อยๆ เดินตามกันต์ไปที่ต้นชา กันต์สอนเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เลือกใบอ่อนๆ สีเขียวอ่อน เด็ดเบาๆ อย่าดึงแรง" ภีมพยายามทำตาม แต่ใบชาที่เขาเด็ดส่วนใหญ่ขาดครึ่ง กันต์มองแล้วส่ายหน้า "คุณนี่มันใช้การไม่ได้จริงๆ"

"ก็บอกแล้วว่าฉันไม่เคยทำ!" ภีมโต้กลับ กันต์เดินเข้าไปใกล้ จับมือของภีมแล้วช่วยเด็ดใบชาให้ดู "แบบนี้" เขาพูด มือหยาบกร้านของกันต์สัมผัสกับมือเรียบเนียนของภีม ภีมชะงัก รู้สึกถึงความร้อนที่ลามขึ้นมาบนหน้า "ปล่อยมือฉัน" เขาพูดเบาๆ กันต์มองหน้าเขาครู่หนึ่งก่อนจะปล่อย "ทำเองแล้วกัน"

ทั้งสองใช้เวลาอยู่ในไร่ชานานหลายชั่วโมง ภีมเริ่มชินกับการเด็ดใบชา แม้จะยังไม่คล่องเท่ากันต์ แต่เขาก็รู้สึกถึงความสงบแปลกๆ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในเมือง กันต์มองภีมที่ตั้งใจทำงานเงียบๆ แล้วรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในใจที่เขาไม่กล้าจะกำหนดชื่อ

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ กันต์พาภีมกลับมาที่กระท่อม "วันนี้คุณทำได้ดีกว่าที่ผมคิด" เขาพูด ภีมมองกันต์ด้วยสายตาแปลกๆ "อย่ามาชมฉัน ฉันไม่ได้ทำเพื่อคุณ" เขาตอบ กันต์ยิ้ม "ผมไม่ได้บอกว่าคุณทำเพื่อผม"

คืนนั้น ทั้งคู่นั่งอยู่หน้าเตาผิงอีกครั้ง กันต์หยิบใบชาที่เก็บมาวันนี้มาคั่วในกระทะเก่าๆ กลิ่นหอมของชาคั่วลอยฟุ้ง ภีมมองการทำงานของกันต์เงียบๆ "คุณทำแบบนี้ทุกวันเหรอ" เขาถาม กันต์พยักหน้า "ตั้งแต่พ่อป่วย ผมต้องดูแลไร่คนเดียว"

ภีมเงียบไป เขาเริ่มเห็นกันต์ในมุมที่ต่างออกไป จากชายหยาบกระด้างที่เขาเกลียด กลายเป็นคนที่แบกรับอะไรไว้มากกว่าที่เขาคิด "แล้วคุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ" เขาถาม กันต์หยุดมือ มองไปที่กองไฟ "เหนื่อย แต่ผมไม่มีทางเลือก"

คำพูดนั้นทำให้ภีมรู้สึกถึงความเหมือนกันระหว่างเขากับกันต์ ทั้งคู่ต่างถูกบังคับให้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการ แต่กันต์เลือกที่จะสู้ ในขณะที่เขาพยายามหนี "บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก" ภีมพูดเบาๆ กันต์หันมามอง "อะไร" ภีมส่ายหน้า "เปล่า"

คืนนั้น ทั้งคู่นอนแยกกันคนละมุมของกระท่อม แต่ความรู้สึกในใจของทั้งสองเริ่มเปลี่ยนไปช้าๆ โดยที่ไม่มีใครกล้าจะพูดออกมา