เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) - 7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน

รายละเอียด

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

ผู้แต่ง

Raine Whitmore

เรื่องย่อ

ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี "กันต์"  เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลเกษตรกรที่เคยร่ำรวย แต่ตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหนี้สินมหาศาลจากการลงทุนที่ผิดพลาด วันหนึ่ง แม่ของเขาก็เดินมาพร้อมสีหน้าซีดเซียว "กันต์ ลูกต้องแต่งงาน" คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเขส

อีกฟากหนึ่งของเมือง "ภีม" ลูกชายคนเล็กของตระกูลวรวิทย์ วัย 24 ปี ร่างบางแต่สูง ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยโดนแดด ผมสีดำสนิทยาวถึงต้นคอ ดวงตาคู่สวยที่มักมองทุกอย่างด้วยความเย็นชา เขาคือทายาทของตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมุนไพรและยาแผนโบราณ คืนนั้น พ่อของภีมเรียกเขาเข้าไปคุยในห้องทำงาน "ภีม พ่อตัดสินใจแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานกับลูกชายของตระกูลนั้น" ภีมขมวดคิ้ว "อะไรกันครับ? ผมจะแต่งกับผู้ชายเนี่ยนะ? พ่อบ้าไปแล้ว!" เขาตะโกน พ่อของเขามองด้วยสายตาแข็งกร้าว "นี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่ง ถ้าลูกไม่ทำ ธุรกิจของเราจะเสียโอกาสใหญ่ ตระกูลนั้นมีที่ดินที่เราต้องการ ลูกต้องยอม"

สารบัญ

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-1 พันธนาการใต้เงาคลุม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-2 ผมเกลียดคุณจริงๆ NC,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-4 ความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-5 เพราะ...เราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เหรอ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-6 ความอบอุ่นจากเตาผิงและความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-8 คุณเปลี่ยนไปเยอะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-9 การเลือกทางของตัวเอง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-10 คุณก็อยากไม่ใช่เหรอ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-11 ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-12 ที่นี่คือบ้าน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-14 ผมอยากจะลองอะไรใหม่ๆกับคุณ (์NC หนักๆ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-15 ผมไม่อยากให้คุณไปไหน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-16 การต่อสู้เพื่อที่ดินกำลังจะถึงจุดสำคัญ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-17 ผมดีใจที่มีคุณอยู่ด้วย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-18 ระหว่างรอผลศาลก็หาอะไรทำดีกว่า (NC ดุเดือด),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-19 ทั้งสองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-21 หวังว่าจะได้ร่วมงานกัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-22 ผมอยากทำอะไรสนุกๆ รุกหนักไปไหม ( NC ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-23 ไร่ชากำลังเติบโต และการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-24 การต่อสู้ยังไม่จบ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-25 ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมดีใจที่มีคุณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-26 ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-27 อนาคตของหมู่บ้านเริ่มสว่างไสวขึ้น,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-28 สองเดือนนี่มันท้าทายจริงๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-29 ความท้าทายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-30 คุณ...ดุเกินไป (NC เร่าร้อนน),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-31 การแข่งขันและความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-32 ชาของเรามีจิตวิญญาณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-33 ร้านใหญ่ในเมืองจะชอบชาเราไหมนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-34 อุปสรรคเริ่มคลี่คลาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-35 คืนแห่งความสุข (จบบริบูรณ์ nc 20+)

เนื้อหา

7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ

ฝนตกหนักทั้งคืนจนถึงเช้าวันที่ห้า เสียงน้ำไหลเชี่ยวจากลำธารด้านหลังกระท่อมดังก้องเข้ามาผสมกับลมที่พัดกระหน่ำ กันต์ตื่นขึ้นมาก่อนตามเคย เขาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปเห็นน้ำสีขุ่นที่เริ่มเอ่อสูงขึ้นใกล้ขอบไร่ชา ดวงตาคู่คมของเขาขมวดแน่นด้วยความกังวล "แย่แล้ว" เขาพูดกับตัวเอง ก่อนจะหันไปปลุกภีม "ตื่นเร็ว ฝนหนักกว่าที่คิด"

ภีมลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย "อะไรกัน" เขาถาม กันต์ไม่รอช้า "น้ำเริ่มท่วม ต้องย้ายของขึ้นที่สูงกว่านี้" เขาพูดแล้วรีบเดินไปหยิบถุงข้าวสารและของใช้จำเป็นที่วางอยู่บนชั้นไม้ ภีมลุกขึ้นทันที ความง่วงหายไปจากใบหน้า เขารีบตามกันต์ไปช่วย

ทั้งสองยกของขึ้นไปวางบนคานไม้ใต้หลังคากระท่อม ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่น้ำไม่น่าจะถึง ฝนยังคงตกไม่หยุด เสียงน้ำไหลดังใกล้เข้ามาทุกที กันต์มองออกไปนอกหน้าต่าง "ถ้าน้ำขึ้นถึงกระท่อม เราต้องย้ายไปที่สูงกว่านี้" เขาพูด ภีมมองตาม "ที่สูงกว่านี้คือที่ไหน" เขาถาม

"กระท่อมเก่าบนเขา" กันต์ตอบ "มันทรุดโทรม แต่ยังใช้หลบภัยได้" ภีมพยักหน้า "แล้วเราจะไปยังไง" เขาถาม กันต์หยิบเสื้อกันฝนเก่าๆ สองตัวจากตะกร้ามายื่นให้ "ใส่นี่ เดี๋ยวผมพาไป" เขาพูด

เมื่อเตรียมของเสร็จ กันต์และภีมสวมเสื้อกันฝนแล้วเดินฝ่าฝนออกจากกระท่อม น้ำเริ่มเอ่อเข้ามาที่พื้นรอบตัวบ้าน โคลนเลนลื่นไหลไปตามร่องน้ำที่กันต์ขุดไว้ กันต์เดินนำด้วยฝีเท้ามั่นคง ขณะที่ภีมตามหลังอย่างระวัง "อย่าห่างจากผม" กันต์ตะโกนผ่านเสียงฝน ภีมพยักหน้า เขาจับแขนกันต์ไว้แน่นเพื่อไม่ให้ลื่น

เส้นทางขึ้นเขาเต็มไปด้วยโคลนและหินลื่น กันต์ใช้ไม้เท้าค้ำยัน ขณะที่ภีมพยายามก้าวตามอย่างยากลำบาก "ทำไมมันยากแบบนี้" ภีมบ่น กันต์หันมามอง "ถ้าคุณล้ม ผมจะแบกคุณเอง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ภีมหน้าแดง "ไม่ต้อง!" เขาโต้ แต่ก็ตั้งใจเดินต่อ

หลังจากใช้เวลานานเกือบชั่วโมง ทั้งสองก็ถึงกระท่อมเก่าบนเขา มันเป็นกระท่อมไม้ที่ผุพัง หลังคามีรอยรั่วบางจุด แต่ยังคงทนฝนได้ กันต์ผลักประตูไม้ที่ผุกร่อนเข้าไป ภายในเต็มไปด้วยฝุ่นและกลิ่นอับชื้น "ที่นี่แหละ" เขาพูด ภีมมองไปรอบๆ "มันดู...น่ากลัว" เขายอมรับ

"ดีกว่าโดนน้ำท่วม" กันต์ตอบ เขาวางของที่แบกมาลงแล้วเริ่มกวาดพื้นด้วยไม้กวาดเก่าๆ ที่วางทิ้งไว้ ภีมเดินไปช่วย "เราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน" เขาถาม กันต์ส่ายหน้า "จนกว่าฝนจะหยุดและน้ำลด" เขาตอบ

ขณะที่ทั้งสองจัดกระท่อมให้พออยู่ได้ เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก กันต์หยุดมือ หันไปมองที่ประตู "ใครมาได้" เขาพูดกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปเปิดประตู เห็นลุงชัยยืนอยู่หน้าประตู ตัวเปียกปอนจากฝน "กันต์! ดีที่เจอ" ลุงชัยพูดด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบ

"ลุงมาทำอะไรที่นี่" กันต์ถาม ลุงชัยถอนหายใจ "ฉันมาจากหมู่บ้านล่าง น้ำท่วมหนักมาก บ้านแม่แกถูกน้ำพัดไปครึ่งหลังแล้ว" คำพูดนั้นทำให้กันต์ชะงัก "อะไรนะ" เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่น ภีมมองกันต์ด้วยความตกใจ "แล้วแม่ผมล่ะ" กันต์ถามต่อ

"ปลอดภัย" ลุงชัยตอบ "ตอนนี้อยู่ที่ศูนย์พักพิงในหมู่บ้าน แต่พ่อแก...อาการไม่ดี" กันต์กำหมัดแน่น "ผมต้องไปหาท่าน" เขาพูดแล้วรีบหยิบเสื้อกันฝน ภีมคว้าแขนเขาไว้ "เดี๋ยว! ฝนยังหนักอยู่ คุณจะไปยังไง" เขาถาม

"ผมต้องไป" กันต์ตอบ "พ่อผมป่วยหนัก ถ้าผมไม่ไป ท่านอาจจะ..." เขาหยุดพูด ดวงตาแดงก่ำด้วยความกังวล ลุงชัยวางมือบนไหล่กันต์ "ใจเย็นๆ ลูก น้ำยังลงไม่ได้ ทางลงเขาถูกตัดขาดแล้ว" กันต์ทรุดนั่งลง "ผมควรอยู่กับท่าน" เขาพูดเบาๆ

ภีมมองกันต์ด้วยความเห็นใจ "คุณทำอะไรไม่ได้ตอนนี้" เขาพูด "รอให้ฝนหยุดก่อน ผมจะไปกับคุณ" กันต์หันมามอง "คุณไม่ต้องไป" เขาตอบ ภีมส่ายหน้า "ผมจะไป คุณไม่ควรไปคนเดียว" ลุงชัยมองทั้งคู่แล้วยิ้ม "ดูท่าทางเมียแกจะห่วงแกมากนะ กันต์"

"ผมไม่ใช่เมียเขา!" ภีมโต้ทันที หน้าแดงก่ำ กันต์มองภีมแล้วยิ้มบางๆ "ขอบคุณ" เขาพูดเบาๆ ภีมชะงัก "อะไร" เขาถาม "ที่บอกว่าจะไปด้วย" กันต์ตอบ ภีมก้มหน้า "ไม่ต้องคิดมาก" เขาพูด

ลุงชัยตัดสินใจพักที่กระท่อมกับทั้งคู่จนกว่าฝนจะเบาลง เขาเล่าให้ฟังว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักกว่าที่เคยเป็นมา "หมู่บ้านล่างจมไปครึ่งนึงแล้ว ชาวบ้านต้องอพยพขึ้นที่สูง" เขาพูด กันต์นั่งฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ไร่ผมคงเสียหายเยอะ" เขาพูด

"อย่าคิดมาก" ลุงชัยปลอบ "รอฝนหยุดก่อน ค่อยลงไปดู" ภีมมองกันต์ "ผมจะช่วยคุณซ่อมแซม" เขาพูด กันต์หันมามอง "คุณไม่ต้องลำบาก" เขาตอบ ภีมยิ้ม "ผมอยากทำ" เขายืนยัน

คืนนั้น ฝนยังคงตกไม่หยุด กันต์นั่งมองเพดานกระท่อมด้วยความกังวล ภีมเดินมานั่งข้างๆ "คุณนอนเถอะ เดี๋ยวผมเฝ้าให้" เขาพูด กันต์ส่ายหน้า "ผมนอนไม่หลับ" เขายอมรับ ภีมมองเขา "ผมเข้าใจ คุณเป็นห่วงพ่อแม่" เขาพูด

"คุณเคยเป็นแบบนี้ไหม" กันต์ถาม ภีมเงียบไป "ไม่ค่อย" เขาตอบ "ผมกับพ่อแม่ไม่สนิทกัน แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมคงกังวลเหมือนกัน" กันต์มองหน้าเขา "บางทีคุณควรกลับไปคุยกับท่าน หลังจากนี้" เขาพูด

"ผมคิดเหมือนกัน" ภีมยอมรับ "แต่ตอนนี้ ผมอยากช่วยคุณก่อน" กันต์มองรอยยิ้มเล็กๆ บนหน้าภีม "ทำไมคุณถึงอยากช่วยผม" เขาถาม ภีมเงียบไปครู่หนึ่ง "เพราะ...ผมเริ่มรู้สึกว่าคุณไม่ใช่คนแย่" เขาตอบ

กันต์นิ่ง เขามองไปที่กองไฟที่ลุงชัยก่อไว้ "ผมก็เริ่มรู้สึกว่าคุณไม่ใช่แค่คนในเมืองที่เอาแต่ใจ" เขาพูด ภีมยิ้ม "ดีแล้ว" เขาตอบ

เช้าวันต่อมา ฝนเริ่มเบาลง แต่ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม ลุงชัยตัดสินใจกลับลงเขาเพื่อไปดูสถานการณ์ 

"ฉันจะกลับมาบอกข่าว" เขาพูดก่อนจะจากไป กันต์และภีมอยู่ที่กระท่อมเก่าต่อ ทั้งสองช่วยกันซ่อมรอยรั่วบนหลังคาด้วยไม้และใบตองที่กันต์หามาจากป่าใกล้ๆ

"คุณเก่งเรื่องซ่อมจริงๆ" ภีมพูดขณะยื่นใบตองให้ กันต์ยิ้ม "ถ้าผมไม่เก่ง กระท่อมคงพังไปนานแล้ว" เขาตอบ ภีมมองท่าทางนั้น "ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณถึงรักที่นี่" เขาพูด

"ผมไม่ได้รัก" กันต์ตอบ "ผมแค่ไม่มีที่ไป" ภีมมองเขา "แต่คุณดูแลมันดีมาก" เขาแย้ง กันต์หยุดมือ "บางที...ผมอาจจะรักมันโดยไม่รู้ตัว" เขายอมรับ ภีมยิ้ม "ผมว่าใช่"

เมื่อซ่อมหลังคาเสร็จ กันต์พาภีมไปดูวิวจากหน้าผาใกล้กระท่อม แม้ฝนจะยังพรำอยู่ แต่ทิวทัศน์ของหุบเขาที่ถูกน้ำท่วมบางส่วนก็ยังสวยงามในแบบที่แปลกตา "ถ้าฝนหยุด ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมไหม" ภีมถาม

"ไม่แน่" กันต์ตอบ "แต่เราจะทำให้มันดีขึ้นได้" ภีมมองเขา "เรางั้นเหรอ" เขาถาม กันต์พยักหน้า "ถ้าคุณยังอยู่ ผมจะให้คุณช่วย" ภีมยิ้มกว้าง "ตกลง"

ทั้งสองยืนมองทิวทัศน์ด้วยกัน ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเกลียดชังค่อยๆ กลายเป็นความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ แม้จะยังไม่กล้าพูดออกมาดังๆ