เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) - 13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน

รายละเอียด

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

ผู้แต่ง

Raine Whitmore

เรื่องย่อ

ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี "กันต์"  เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลเกษตรกรที่เคยร่ำรวย แต่ตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหนี้สินมหาศาลจากการลงทุนที่ผิดพลาด วันหนึ่ง แม่ของเขาก็เดินมาพร้อมสีหน้าซีดเซียว "กันต์ ลูกต้องแต่งงาน" คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเขส

อีกฟากหนึ่งของเมือง "ภีม" ลูกชายคนเล็กของตระกูลวรวิทย์ วัย 24 ปี ร่างบางแต่สูง ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยโดนแดด ผมสีดำสนิทยาวถึงต้นคอ ดวงตาคู่สวยที่มักมองทุกอย่างด้วยความเย็นชา เขาคือทายาทของตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมุนไพรและยาแผนโบราณ คืนนั้น พ่อของภีมเรียกเขาเข้าไปคุยในห้องทำงาน "ภีม พ่อตัดสินใจแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานกับลูกชายของตระกูลนั้น" ภีมขมวดคิ้ว "อะไรกันครับ? ผมจะแต่งกับผู้ชายเนี่ยนะ? พ่อบ้าไปแล้ว!" เขาตะโกน พ่อของเขามองด้วยสายตาแข็งกร้าว "นี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่ง ถ้าลูกไม่ทำ ธุรกิจของเราจะเสียโอกาสใหญ่ ตระกูลนั้นมีที่ดินที่เราต้องการ ลูกต้องยอม"

สารบัญ

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-1 พันธนาการใต้เงาคลุม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-2 ผมเกลียดคุณจริงๆ NC,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-4 ความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-5 เพราะ...เราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เหรอ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-6 ความอบอุ่นจากเตาผิงและความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-8 คุณเปลี่ยนไปเยอะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-9 การเลือกทางของตัวเอง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-10 คุณก็อยากไม่ใช่เหรอ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-11 ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-12 ที่นี่คือบ้าน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-14 ผมอยากจะลองอะไรใหม่ๆกับคุณ (์NC หนักๆ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-15 ผมไม่อยากให้คุณไปไหน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-16 การต่อสู้เพื่อที่ดินกำลังจะถึงจุดสำคัญ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-17 ผมดีใจที่มีคุณอยู่ด้วย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-18 ระหว่างรอผลศาลก็หาอะไรทำดีกว่า (NC ดุเดือด),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-19 ทั้งสองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-21 หวังว่าจะได้ร่วมงานกัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-22 ผมอยากทำอะไรสนุกๆ รุกหนักไปไหม ( NC ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-23 ไร่ชากำลังเติบโต และการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-24 การต่อสู้ยังไม่จบ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-25 ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมดีใจที่มีคุณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-26 ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-27 อนาคตของหมู่บ้านเริ่มสว่างไสวขึ้น,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-28 สองเดือนนี่มันท้าทายจริงๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-29 ความท้าทายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-30 คุณ...ดุเกินไป (NC เร่าร้อนน),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-31 การแข่งขันและความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-32 ชาของเรามีจิตวิญญาณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-33 ร้านใหญ่ในเมืองจะชอบชาเราไหมนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-34 อุปสรรคเริ่มคลี่คลาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-35 คืนแห่งความสุข (จบบริบูรณ์ nc 20+)

เนื้อหา

13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม

เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความคึกคักที่ไม่เคยมีมาก่อนในไร่ชา กันต์ตื่นขึ้นมาก่อนตามปกติ เขาเดินไปที่หน้าต่างกระท่อม มองออกไปเห็นต้นกล้าชาที่เริ่มตั้งรากในแปลงด้านล่าง แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนใบไม้ที่ยังชุ่มฉ่ำจากน้ำค้าง ภีมตื่นตามมา เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองกันต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยพลัง "วันนี้เริ่มวางแผนสหกรณ์ใช่ไหม" เขาถาม

กันต์หันมามอง "ใช่" เขาตอบ "เราจะเรียกชาวบ้านมาคุยกันที่กระท่อม" ภีมพยักหน้า "ผมจะช่วยเขียนแผน" เขาพูด "ผมเคยเรียนเรื่องการจัดการมาบ้าง" กันต์ยิ้ม "ดี" เขาตอบ "ผมถนัดลงมือทำมากกว่าคิด คุณช่วยได้เยอะ"

แม่ของกันต์เดินออกมาจากมุมกระท่อม "วันนี้คนเยอะแน่ ลูกต้องเตรียมอะไรไว้ต้อนรับบ้าง" นางพูด กันต์พยักหน้า "ผมจะไปต้มน้ำร้อนและคั่วชา" เขาตอบ ภีมลุกขึ้น "ผมช่วยได้ครับ" เขาพูด แม่ของกันต์ยิ้ม "เจ้าภีมนี่ขยันจริงๆ" นางพูด ภีมหน้าแดง "ผมแค่อยากช่วย" เขาตอบ

ทั้งสองเริ่มเตรียมของ กันต์จุดเตาคั่วชาเก่าๆ ที่วางอยู่นอกกระท่อม เขาสอนภีมวิธีคั่วใบชาให้หอม "ใส่ใบลงไปทีละน้อย คนให้ทั่ว" เขาอธิบาย ภีมทำตาม มือที่ยังไม่ชินขยับไม้พายอย่างระวัง "แบบนี้ไหม" เขาถาม กันต์มองแล้วพยักหน้า "ดีขึ้นทุกวัน" เขาตอบ

กลิ่นชาคั่วลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่นาน ลุงชัยและชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นมาถึงกระท่อม "กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลย" ลุงชัยพูดขณะเดินเข้ามา ตามมาด้วยชายหนุ่มและหญิงสาวจากหมู่บ้านล่าง รวมถึงผู้นำหมู่บ้านที่ชื่อ "พ่อใหญ่คำ" ชายวัยห้าสิบกว่าในชุดชาวบ้านเรียบง่าย

กันต์ทักทายทุกคน "ขอบคุณที่มาช่วยกันครับ" เขาพูด พ่อใหญ่คำพยักหน้า "ไร่ชาของตระกูลแกเป็นสมบัติของหมู่บ้าน ถ้าเราช่วยกัน มันจะกลับมาเหมือนเดิม" เขาตอบ ภีมยื่นถ้วยชาคั่วให้ "ลองชิมดูครับ" เขาพูด ชาวบ้านรับไปดื่ม ต่างพยักหน้าชื่นชม "หอมดีจริงๆ" หญิงสาวคนหนึ่งพูด


เมื่อทุกคนพร้อม กันต์เริ่มประชุม "ลุงชัยเสนอให้ตั้งสหกรณ์ชา" เขาพูด "ผมอยากฟังความเห็นทุกคน" ลุงชัยยกมือ "ถ้าเรารวมตัวกันทำไร่ชา เราจะได้ผลผลิตเยอะขึ้น และขายได้ราคาดี" เขาอธิบาย "ผมเคยเห็นที่อื่นทำมาแล้ว"

พ่อใหญ่คำพยักหน้า "น่าสนใจ แต่เราจะจัดการยังไง" เขาถาม ภีมก้าวออกมา "ผมมีไอเดียครับ" เขาพูด "เราควรแบ่งงานกันชัดเจน บางคนดูแลการปลูก บางคนดูแลการคั่วและแพ็คชา และเราควรหาตลาดในเมืองด้วย" ชาวบ้านมองภีมด้วยความสนใจ "เจ้าภีมรู้เรื่องพวกนี้จริงเหรอ" ชายหนุ่มคนหนึ่งถาม

"ผมเคยเรียนมาบ้าง" ภีมตอบ "และผมอยากช่วยให้ไร่นี้ยั่งยืน" กันต์มองภีม "คุณพูดได้ดี" เขาพูด ภีมยิ้ม "ผมแค่พยายาม" เขาตอบ ลุงชัยตบมือ "ถ้าภีมช่วยวางแผน ผมว่าเราทำได้" เขาพูด

การประชุมดำเนินต่อไป ชาวบ้านช่วยกันเสนอไอเดีย บางคนบอกว่ามีญาติในเมืองที่อาจช่วยหาตลาดได้ บางคนเสนอให้ทำชาแบบพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า กันต์ฟังอย่างตั้งใจ "ถ้าเราจะทำจริง ต้องลงทุนหน่อย" เขาพูด "แต่ผมไม่แน่ใจว่าเงินจะพอ"

ภีมเงียบไปครู่หนึ่ง "ผมมีเงินเก็บอยู่บ้าง" เขาพูด "ถ้าทุกคนเห็นด้วย ผมยินดีช่วย" ชาวบ้านมองภีมด้วยความแปลกใจ "เจ้าภีมจะลงทุนให้เหรอ" พ่อใหญ่คำถาม ภีมพยักหน้า "ผมอยากให้สหกรณ์นี้สำเร็จ" เขาตอบ

กันต์มองภีม "คุณไม่ต้องฝืน" เขาพูด ภีมส่ายหน้า "ผมไม่ฝืน" เขาตอบ "ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่จริงๆ" กันต์นิ่งไป "ขอบคุณ" เขาพูดเบาๆ ลุงชัยยิ้ม "ดูท่าเราจะมีสหกรณ์ชาได้จริงๆ" เขาพูด


ช่วงบ่าย กันต์และภีมพาชาวบ้านไปดูโรงคั่วชาเก่า "ถ้าเราจะทำสหกรณ์ ต้องซ่อมที่นี่" กันต์พูด ภีมมองไปรอบๆ "เราควรซื้อเครื่องคั่วใหม่ด้วย" เขาเสนอ "มันจะช่วยให้งานเร็วขึ้น" ชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือ "ผมรู้จักคนขายเครื่องในเมือง ผมจะไปถามให้" เขาพูด

พ่อใหญ่คำมองทั้งคู่ "กันต์ เจ้าภีมเข้ากันได้ดีจริงๆ" เขาพูด "ถ้ามีเขาอยู่ ไร่นี้คงไปได้ไกล" กันต์พยักหน้า "ผมก็หวังแบบนั้น" เขาตอบ ภีมหน้าแดง "ผมแค่ทำเท่าที่ทำได้" เขาพูด

เมื่อชาวบ้านกลับลงหมู่บ้าน กันต์และภีมอยู่ที่โรงคั่วต่อ "คุณคิดยังไงกับวันนี้" กันต์ถาม ภีมยิ้ม "ผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง" เขาตอบ "และผมดีใจที่ได้ช่วย" กันต์มองเขา "ผมดีใจที่คุณอยู่ที่นี่" เขาพูด

ภีมเงียบไป "คุณพูดแบบนี้บ่อยๆ" เขาพูด กันต์ยิ้ม "เพราะมันจริง" เขาตอบ "คุณเปลี่ยนอะไรหลายอย่างที่นี่" ภีมมองกลับ "คุณก็เปลี่ยนผมเหมือนกัน" เขายอมรับ "ผมเคยคิดว่าชีวิตต้องอยู่ในเมือง แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าที่นี่คือที่ของผม"

กันต์วางมือบนไหล่เขา "ดีแล้ว" เขาพูด "เพราะผมไม่อยากให้คุณไปไหน" ภีมยิ้ม "ผมก็ไม่อยากไป" เขาตอบ


วันต่อมา กันต์และภีมเริ่มวางแผนอย่างจริงจัง ภีมเขียนโครงสร้างของสหกรณ์ลงในสมุดเก่าๆ ที่หามาได้ "เราจะแบ่งเป็นสามทีม" เขาพูด "ทีมปลูกชา ทีมผลิต และทีมขาย" กันต์มองด้วยความสนใจ "คุณเก่งเรื่องนี้จริงๆ" เขาพูด

"ผมแค่จำจากที่เคยเรียน" ภีมตอบ "แต่ผมอยากให้มันสำเร็จเพื่อคุณ" กันต์นิ่งไป "เพื่อผม" เขาถาม ภีมพยักหน้า "และเพื่อทุกคนที่นี่" เขาตอบ กันต์ยิ้ม "ถ้าคุณตั้งใจขนาดนี้ ผมจะไม่ยอมให้มันล้ม" เขาพูด

ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ลุงชัยวิ่งเข้ามาในกระท่อม "กันต์! มีปัญหา" เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก กันต์หันไปมอง "อะไรครับ" เขาถาม ลุงชัยหายใจหอบ "คนงานจากเมืองกลับมาอีก อ้างว่าพ่อของภีมเปลี่ยนใจ" เขาพูด

ภีมชะงัก "อะไรนะ" เขาถาม "ผมคุยกับพ่อชัดเจนแล้ว" กันต์มองเขา "บางทีเขาอาจจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ" เขาพูด ภีมกำหมัดแน่น "เดี๋ยวผมจะจัดการเอง" เขาพูดแล้วลุกขึ้น กันต์คว้าแขนเขา "เราจะไปด้วยกัน" เขาย้ำ

ทั้งสองรีบลงไปที่หมู่บ้านล่างพร้อมลุงชัย เห็นรถบรรทุกและคนงานกำลังเคลียร์ที่ดินอีกครั้ง ชายในชุดสูทคนเดิมยืนอยู่ "กลับมาทำอะไร" กันต์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชายคนนั้นยิ้ม "พ่อของภีมติดต่อมา บอกว่าเปลี่ยนใจ" เขาตอบ

ภีมก้าวออกมา "ผมจะคุยกับพ่อเอง" เขาพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ "พ่อ ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้" เขาถามทันทีที่สายต่อ พ่อของภีมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ "บริษัทนี้ยื่นข้อเสนอดีกว่า ฉันต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตระกูลของเรา"

"ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม" ภีมโต้ "ผมบอกแล้วว่าผมจะปกป้องที่ดินนี้" พ่อของเขาถอนหายใจ "ลูกดื้อเกินไปนะบางที เดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง" พ่อพูดแล้ววางสาย ภีมมองโทรศัพท์ด้วยความโกรธ "ผมจะไม่ยอม" เขาพูด

กันต์มองเขา "เราจะทำยังไง" เขาถาม ภีมมองกลับ "เราจะหาทางพิสูจน์ว่าที่ดินนี้เป็นของตระกูลคุณ" เขาตอบ "และผมจะทำให้พ่อรู้ว่าผมจริงจัง" กันต์พยักหน้า "ตกลง" เขาพูด "เราจะสู้ด้วยกัน"


คืนนั้น กันต์และภีมนั่งวางแผนที่กระท่อม "เราต้องหาเอกสารเพิ่มเติม" ภีมพูด "โฉนดอาจไม่พอ" กันต์พยักหน้า "ผมจะไปถามพ่อใหญ่คำ เขาอาจรู้เรื่องเก่าๆ" เขาตอบ ภีมมองเขา "ผมจะไปด้วย" เขาพูด กันต์ยิ้ม "ดี" เขาตอบ

ความท้าทายใหม่เริ่มต้นขึ้น แต่ความผูกพันของกันต์และภีมแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ท่ามกลางความไม่แน่นอน ไร่ชาคือสิ่งที่ทั้งคู่จะปกป้องด้วยกัน