ครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม
จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสามครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม
หากใครคิดว่าการตายไปคือการได้พ้นทุกข์พิมพ์ลดาขอเรียนให้ทราบว่าทนใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเถิดเพราะชีวิตหลังความตายที่ได้พบเจออาจจะบัดซบยิ่งกว่าเก่าดูจากชีวิตของเธอเป็นตัวอย่างจากแต่เดิมที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำธรรมดาๆ แต่ชีวิตก็มามีอันถึงคราวซวยต้องมารับใช้หนี้นอกระบบที่พี่สาวแท้ๆ เป็นคนก่อแล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆไปไม่กลับมา เจ้าหนี้ก็ตามมาทวงอยู่ได้ทุกวันหาเงินมาจ่ายดอกวันละสองพันก็ยังไม่พอทำให้เธอตัดสินใจโดดน้ำตายให้มันจบๆ ไป ลากันทีชีวิตบัดซบซ้ำซาก
แต่ใครมันจะรู้ว่าจะมีชีวิตในโลกหน้าที่รออยู่จากผู้หญิงธรรมดาอายุยี่สิบปลายๆ กลับต้องมามีชีวิตใหม่สวมวิญญาณเข้าร่างเป็นมารดาของบุตรสี่คนและสามีอีกหนึ่งแต่เรื่องที่มันน่าตกใจไปมากกว่านั้นคือกุ้ยอิงฮวาคนนี้เคยมีสามีมาแล้วก่อนหน้านี้ถึงสองคนสามีแรกแก่ง่ายตายเร็วมาก สามีสองยังไม่แก่แต่ก็ชิงตายไปทิ้งมรดกไว้ให้เป็นลูกๆ ที่แสนรู้ความถึงสองคนส่วนสามีคนที่สามนั้นนางจัดการรวบตึงเอาไว้เพราะอยากให้ในครอบครัวมีผู้ชายช่วยปกป้องดูแลแต่อยู่มาไม่ทันไรเขาก็สร้างเรื่องไปอุ้มเด็กกลับมาบ้านให้นางเลี้ยงอีกแล้วหรืองานนี้ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
หมายเหตุ
นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอาจทำให้คุณนักอ่านไม่สบายใจนะคะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้
1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์
2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์
3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ
“ท่านแม่ ท่านแม่เจ้าขาตื่นมาหน่อยสิเจ้าคะ” เสียงความวุ่นวายรอบตัวทั้งเสียงเด็กผู้หญิงร้องเรียกที่มาพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ที่ขาพร้อมร้องไห้อยู่ที่ข้างหูประสานเข้ากับเสียงสะอื้นเล็กๆ ของใครอีกสักคนสลับกับเสียงร้องไห้จ้าของเด็กเล็กทำเอาคนที่รู้สึกตัวตื่นนานแล้วยิ่งนอนตัวเกร็งเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี กลัวก็กลัว ตกใจก็ตกใจว่าทำไมชีวิตหลังความตายมันถึงเป็นเช่นนี้
สิ่งที่พิมพ์ลดาจำได้แม่นยำคือวันนี้เธอถูกพวกทวงหนี้นอกระบบตามไปเก็บเงินถึงที่ทำงานเพราะเลยสิ้นเดือนมาสองวันแล้วแต่เธอกลับไม่มีเงินไปจ่ายให้ มันจะไปมีได้ยังไงในเมื่อทุกวันนี้มีค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายวันละหนึ่งพันบาทส่วนสิ้นเดือนนั้นเธอต้องจ่ายให้พวกมันอีกสองหมื่นแต่จ่ายมาเกือบปีต้นไม่ลดดอกไม่ยุบเลยแล้วจะไปหาเงินมาจากไหนได้ทันคนทำงานไม่ได้เป็นเครื่องปั๊มเงินเคลื่อนที่
แต่หากจะถามว่าแล้วทำไมถึงได้เป็นหนี้พิมพ์ลดาเองก็ตอบไม่ได้เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เธอก่อไอ้หนี้ก้อนนี้มันเกิดจากที่พี่สาวตัวดีลูกรักลูกล้างลูกผลาญของแม่ขโมยเอกสารประจำตัวที่มีอยู่ติดบ้านเอาไปแอบกู้เงินนอกระบบมาสองแสนบาท
สาบานเลยว่าตอนแรกที่รู้เข้าถึงกับลมออกหูเลิกงานแล้วก็รีบพุ่งตัวกลับบ้านมาดหมายว่าจะกลับไปฆ่าอีพี่สาวคนนี้ให้ตายไม่ก็ต้องเอาเลือดหัวมันออกมาแต่ก็เป็นมารดาที่ออกหน้าปกป้องบอกว่าเป็นพี่น้องต้องช่วยเหลือกันในเมื่อเรื่องมันเกิดมาแล้วแถมยังช่วยกันต่อรองเสร็จสรรพให้เธอช่วยพี่สาวเดือนละห้าพันบาทซึ่งไอ้คนต้นเรื่องก็ทำตัวดีได้เพียงแค่สองเดือนพอเข้าเดือนที่สามพิมพ์เดือนก็หนีหายไปกับสามีคนใหม่ทิ้งให้พิมพ์ลดากับแม่แก่ๆ ต้องมาทนทุกข์ใจใช้หนี้แทนทั้งต้นทั้งดอก
“เป็นยังไงล่ะลูกสาวคนดีของแม่สุดท้ายมันก็สร้างหนี้ทิ้งไว้ให้หนูอีกจนได้มันใช่เรื่องไหมกับเงินตั้งขนาดนี้” หนักๆ เข้าก็จำเป็นต้องพูดกับมารดาแต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือนอกจากแม่จะไม่เห็นใจแล้วยังด่าเธอว่าเป็นคนแล้งน้ำใจไม่เอาพี่ไม่เอาน้องไม่รู้จักช่วยเหลือคนในครอบครัว
ลำพังตัวพิมพ์ลดาเองแม้จะไม่มีครอบครัวแต่เธอก็ดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในบ้านลำพังเงินเดือนพนักงานบริษัทเพียงสองหมื่นกว่าบาทมันก็พอมีพอกินกันสองปากท้องไม่ได้ลำบากอะไรแต่พอมีหนี้ก้อนนี้เธอก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังเริ่มทำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดต่างๆ เพื่อเอาเงินมาหมุนทั้งๆ ที่รู้ตัวดีว่ายืมเงินให้เป็นหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ในระหว่างที่นั่งรถสองแถวกลับบ้านนั้นเส้นทางที่ต้องใช้ประจำจะต้องผ่านแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลผ่านหลายจังหวัดซึ่งเธอก็เห็นผู้คนมากมายยืนตกปลาอยู่บนสะพานพลันหัวสมองก็คิดอะไรบางอย่างได้จึงรีบลุกไปกดกริ่งให้รถหยุดก่อนที่จะถึงป้ายที่เคยลงประจำ
“ทำไมลงตรงนี้ล่ะยังไม่ถึงบ้านเลยนี่นา” ลุงคนขับรถสองแถวเอ่ยถามหญิงสาวที่เป็นผู้โดยสารของตนเองมานานปีด้วยความสงสัยเพราะบ้านของเธออยู่เกือบจะสุดท่ารถแต่นี่ยังเดินทางมาได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ
“หนูนัดเพื่อนมาหาอะไรกินแถวน่ะลุง ขอบคุณนะคะ” พิมพ์ลดาจ่ายค่าโดยสารแล้วกล่าวขอบคุณคุณลุงคนขับรถสองแถวเช่นที่เคยทำจากนั้นก็หันหลังเดินขึ้นกลับไปบนสะพานอย่างไม่มีลังเลจนที่ถึงจุดที่คิดว่าเหมาะสมทั้งไม่มีคนตกปลาอยู่ใกล้และไม่มีใครเดินสวนหรือเดินตามมาข้างหลังหญิงสาวจึงปีนราวกั้นสะพานแล้วกระโดดลงไปในทันทีจะว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็ว่าได้แต่เธอมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกที่จะทำลงไปนั้นมันเป็นหนทางที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความทุกข์กายทุกข์ใจและครอบครัวเส็งเคร็งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
สิ้นสุดกันทีสำหรับชีวิตที่แสนบัดซบกี่ครั้งกี่หนแล้วที่พิมพ์ลดาต้องแก้ไขในความผิดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นมาทั้งเรื่องที่แม่ติดการพนันจนเกือบจะขายสมบัติชิ้นเดียวที่ตัวเองมีทำให้ทุกคนในบ้านไร้ที่ซุกหัวนอน ไหนจะพี่สาวคนโตที่ขยันก่อหนี้ก่อสินเพราะชอบเอาตัวไปพัวพันกับผู้ชายให้เขาปอกลอกและที่ร้ายที่สุดคือน้องชายคนสุดท้องที่ติดคุกในคดียาเสพติดนอกจากเธอจะต้องช่วยหาเงินมาวิ่งเต้นเรื่องคดีแล้วทุกวันนี้ยังต้องช่วยเหลือเลี้ยงดูหลานชายและหลานสาวอีกสองคนอันเป็นผลผลิตของคนที่มันไม่มีความรับผิดชอบ
แต่ทำไมหลังจากตายแล้วพิมพ์ลดาถึงได้มาอยู่ตรงนี้มาอยู่ในที่ที่คนพูดจากันภาษาแปลกๆ แต่เธอกลับเข้าใจได้เป็นอย่างดีแม้ว่าบรรยากาศรอบตัวที่ยังไม่กล้าลืมตาขึ้นมาดูมันจะมีความวุ่นวายอยู่มากก็ตาม
ระหว่างที่กำลังแกล้งนอนนิ่งเพื่อหาทางเอาตัวรอดอยู่นั้นในหัวของพิมพ์ลดาก็พลันมีภาพเหตุการณ์ต่างๆ ย้อนกลับเข้ามาในหัวแต่ภาพจะเป็นเหมือนย้อนกลับไล่ตั้งแต่เหตุการณ์ล่าสุดก่อนที่พิมพ์ลดาจะเข้ามาในร่างนี้สาเหตุที่ทำให้หญิงสาวเจ้าของร่างผู้มีชื่อว่ากุ้ยอิงฮวาต้องโมโหถึงกับเป็นลมหงายหลังลงหัวฟาดกับหินหน้าลานหน้าบ้านจนสิ้นใจคือการที่สามีที่เข้าป่าไปล่าสัตว์กลับลงมาพร้อมเด็กฝาแฝดที่ผอมโซจนเหลือแต่หัวโตๆ ถึงสองคน
ฐานะของที่บ้านก็ใช่ว่าจะสู้ดีแม้จะไม่ถึงขนาดอดมื้อกินมื้อแต่ใช่ว่าจะมีเหลือกินเหลือใช้ทุกวันนี้อาหารหลักยังคงเป็นข้าวกับแป้งส่วนกับข้าวนั้นส่วนมากก็จะมีแต่ผัดผักที่สามารถปลูกได้เองนานๆ ครั้งจึงจะมีเนื้อสัตว์มาให้กินบ้างถ้าสามีขึ้นเขาไปล่าสัตว์แต่ส่วนมากก็จะเอาไปขายให้ร้านขายเนื้อเสียหมดเพราะต้องการเงินมาใช้ซื้อเสื้อผ้าและผ้าห่มใช้กันในตอนหน้าหนาวแต่ถึงสามีจะหาเนื้อสัตว์มาได้มากทั้งสองคนสามีภรรยาก็มักจะเก็บไว้ให้เด็กสองคนในบ้านได้กินกันก่อนแม้ตัวเองอดบ้างอิ่มบ้างก็ไม่เป็นไร
หลังจากนั้นภาพในหัวก็ย้อนกลับไปถึงวันที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านที่สร้างจากไม้และดินเล็กๆ หลังนี้กุ้ยอิงฮวาผ่านเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของลูกผู้หญิงคือการแต่งงานครั้งที่สอง ครั้งที่หนึ่งซึ่งเจ้าของร่างไม่เคยได้สุขสมหวังในชีวิตครอบครัวเอาเสียเลย
กุ้ยอิงฮวาแต่งงานครั้งแรกเมื่อตอนมีอายุได้สิบเจ็ดปีหากจะเรียกว่าแต่งงานคงจะไม่ถูกนักหากจะเรียกว่าเป็นการถูกขายมาจะถูกต้องกว่าเพราะพ่อแม่ของเธอที่มีลูกเยอะลูกดกเป็นแม่หมูตั้งใจขายบุตรสาวที่โตพอใช้งานได้ให้กับพ่อเฒ่าเหอเศรษฐีชราในหมู่บ้านใกล้เคียงที่แม้จะแก่ชราแต่ทว่ายังมีความมักมากในกาม ในคืนวันแต่งงานระหว่างที่เจ้าบ่าวรุ่นตากำลังจะพยายามเข้าหอแค่เปิดผ้าไปเห็นหน้าอกเต่งตึงของภรรยาวัยกำดัดก็หงายหลังล้มตึงสิ้นใจตายไปต่อหน้าต่อตาทำให้อิงฮวาถูกส่งกลับบ้านทันทีที่จัดพิธีศพของสามีเสร็จสิ้น
และเพราะมีเงินใช้จ่ายที่ได้มาจากงานแต่งงานครั้งนั้นเรื่องพาบุตรสาวไปเร่ขายพ่อแม่จึงเว้นไปได้สักระยะแต่สุดท้ายก็เอากุ้ยอิงฮวาออกมาเร่ขายไม่ต่างจากหมูหมาจนมาพบเถียนเหว่ยสามีคนที่สองที่สงสารจึงเมตตารับมาเป็นภรรยารองให้มาช่วยเลี้ยงลูกหญิงชายที่เกิดจากภรรยารองคนก่อนที่เสียชีวิตหลังจากการคลอดลูกชายคนเล็กได้เพียงสองปีเพราะฮูหยินเอกไม่ค่อยชอบเด็กจึงไม่ค่อยสนใจจะช่วยดูและเท่าไรนัก
ชีวิตของกุ้ยอิงฮวาเหมือนจะดีขึ้นมาแต่ก็ชั่วระยะเวลาหนึ่งนางใช้ชีวิตสะดวกสบายอยู่ในเรือนของสามีที่เป็นพ่อค้าหน้าที่ในแต่ละวันที่ต้องทำคือดูแลความเป็นอยู่ของบุตรสาวและบุตรชายของสามีที่เกิดจากภรรยารองผู้ล่วงลับซึ่งตัวนางนั้นก็เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดีเพราะผ่านการช่วยบิดามารดาเลี้ยงดูน้องสาวน้องชายมาแล้วหลายคน
แต่ระยะเวลาสามปีที่มีความสุขมันก็สั้นนักสุดท้ายแล้วเรื่องร้ายก็มาเยือนเมื่อสามีออกเดินทางไปค้าขายแต่ได้กลับมาเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจเหตุเพราะโจรป่าดักปล้นเอาระหว่างทางคนที่รอดชีวิตกลับมามีเพียงคนสนิทที่มีสภาพย่ำแย่บาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังเอาตัวเองปกป้องร่างที่เย็นเยียบของนายท่านเถียนเหว่ยกลับมาส่งครอบครัวได้พร้อมกับคนงานที่รอดชีวิตกลับมาด้วยกันไม่ถึงห้าคน
“เซินเอ๋อร์เจ้าอย่าเพิ่งไปรบกวนแม่เจ้าเลยให้นางนอนพักไปก่อนพ่อดูแผลที่หัวให้นางแล้วไม่ได้เป็นอะไรมากอย่าได้ตกใจไปน้องๆ จะเสียขวัญ” เป็นซุนคุนเล่อที่ปลอบลูกสาวคนโตไม่ให้ร้องไห้รบกวนมารดาแต่เรื่องแผลที่ศีรษะนั้นเขาจำเป็นต้องโกหกเพราะไม่อยากให้เด็กๆ หวาดกลัวหรือว่าใจเสียไปมากกว่านี้เซินเอ๋อร์กับเสี่ยวซูที่รู้ความแล้วกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวทำเอาเจ้าก้อนแป้งที่ยังพูดไม่ค่อยจะรู้ฟังร้องไห้โยเยตามกันเข้าไปอีกหากปล่อยไว้เช่นนี้คงไม่ดีแน่
“ท่านพ่อส่งน้องมาให้ข้าช่วยดูก็ได้เจ้าค่ะพวกเขาร้องไห้ขนาดนั้นถ้าไม่หิวก็ต้องขับถ่ายเป็นแน่” หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเล็กๆ ของตนเองด้วยหลังมือแล้วเถียนซานเซินวัยเจ็ดหนาวก็ช่วยเช็ดน้ำตาให้น้องชายเถียนซานซูจากนั้นก็รีบไปดูเจ้าก้อนแป้งในอ้อมกอดของท่านพ่อ
เด็กสองคนหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะแต่หน้าเล็กๆ กับหัวโตๆ เพราะร่างกายผ่ายผอมนั้นทำให้พวกเขามีหน้าตาน่าเกลียดเป็นอย่างมากไม่เห็นอวบขาวเหมือนเจ้าก้อนแป้งคนอื่นๆ ที่เคยพบเจอในหมู่บ้านเลยแม้แต่น้อย
“พวกเขาขับถ่ายจริงๆ ด้วย เซินเอ๋อร์เจ้าช่วยพ่อเลี้ยงน้องได้หรือไม่” เมื่อเปิดกางเกงที่เด็กสองคนสวมออกดูก็พบกับของเสียที่ร่างกายขับออกมาจนเลอะเทอะนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่สบายตัวจนร้องไห้โยเยออกมา
“ย่อมได้เจ้าค่ะท่านพ่อแต่จะต้มน้ำตอนนี้คงไม่ทันแล้วข้าจะล้างตัวพวกเขาด้วยน้ำเย็นไปก่อนตอนนี้น้ำในโอ่งหลังบ้านตากแดดอยู่น่าจะอุ่นใช้ได้ เสี่ยวซูเจ้าไปหาชุดเก่าๆ ของตัวเองมาให้พี่ยืมหน่อยได้หรือไม่” ถ้าจำไม่ผิดตอนที่ย้ายออกมาจากบ้านของบิดาแท้ๆ มารดาของพวกเขาโกยเสื้อผ้ามาหมดทั้งใหม่เก่าจึงน่าจะยังมีเสื้อผ้าที่เด็กสองคนนี้พอจะใส่ได้อยู่
ซุนคุนเล่อช่วยบุตรสาวอุ้มเด็กแฝดไปอาบน้ำล้างตัวกันที่หลังบ้านในระหว่างที่บุตรชายคนเล็กที่วันนี้ได้เลื่อนขึ้นเป็นพี่รองวิ่งหาเสื้อผ้ามาให้น้องๆ ได้ผลัดเปลี่ยน
เจ้าเด็กแฝดทำท่าขัดขืนเล็กน้อยเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับน้ำแต่เป็นเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นเพราะน้ำที่อุ่นเล็กน้อยเพราะตากแดดทำให้ร่างกายของพวกเขาเย็นสบายไม่รู้สึกเหนอะหนะเช่นเมื่อครู่จึงเริ่มที่จะอารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ
พิมพ์ลดาที่หลงมาอยู่ผิดที่นอนหลับตาฟังความเคลื่อนไหวรอบตัวอยู่เงียบๆ โดยเธอรู้สึกตัวตลอดไม่ว่าจะเป็นตอนที่เด็กๆ มาร้องไห้อยู่ข้างตัว ตอนที่ถูกอุ้มขึ้นมาจากพื้นหรือแม้แต่ตอนที่แผลบนหัวถูกทำความสะอาดและโปะยาสมุนไพรแต่ที่ไม่กล้าลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะยังรับความจริงไม่ไหวมันน่าเหลือเชื่อเกินไปหากตัวเองที่ตั้งใจฆ่าตัวตายจะได้โผล่มาเกิดใหม่ที่อีกมิติหนึ่งเหมือนกับในนิยายที่เคยอ่านผ่านตา
การเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ ที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนจะหาความสุขที่ไหนได้นอกจากนิยายออนไลน์ที่อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาแม้ชีวิตจริงคนในครอบครัวจะทำให้ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่คุณนักเขียนคนโปรดกับตัวละครในนิยายไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจ
“อิงเอ๋อร์ได้โปรดเถิดหากเจ้ารู้สึกตัวแล้วก็ช่วยตื่นขึ้นมาต่อว่าหรือว่าทุบตีพี่ก็ได้อย่านอนนิ่งให้เด็กๆ ต้องใจเสียเช่นนี้เลย” หลังจากจับเจ้าแฝดอาบน้ำต้มข้าวป้อนให้กินจนอิ่มแล้วซุนคุนเล่อก็รีบเข้ามาดูภรรยายังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงแต่เขารู้แล้วว่านางรู้สึกตัวแล้วด้วยจังหวะของการหายใจเพราะตัวเขาก็พอจะมีวิชาติดตัวอยู่บ้างเล็กน้อย
“เด็กสองคนนั้นน่าสงสารยิ่งนักหากข้าไม่เก็บเขามาก็มีแต่จะถูกทิ้งให้เป็นอาหารสัตว์ป่าเมื่อพบเจอเขาแล้วข้าก็ทำใจทิ้งไว้ไม่ลงจริงๆ” ซุนคุนเล่อแม้จะเป็นชายร่างกายสูงใหญ่ดูดุดันแต่จิตใจของเขานั้นกลับอ่อนโยนเป็นอย่างมากจึงไม่แปลกที่เขาจะเก็บเด็กสองคนกลับมาบ้านแล้วยังไม่ลืมรับผิดชอบหน้าที่ที่จะต้องหาของป่ากลับมาบ้านด้วยก็กลายเป็นว่าวันนี้เขาได้ทั้งเด็กแฝดไก่ป่าและไข่ของมันกลับบ้านมาด้วยกัน
“ท่านพี่ดูแลพวกเขาไปก่อนเถิดตอนนี้ข้าปวดหัวมากแล้ววันพรุ่งนี้เราค่อยมาว่ากัน” พิมพ์ลดาลืมตาขึ้นมาพยายามพูดออกมาให้ดูปกติที่สุดเท่าที่จะจำได้จากนั้นจึงหลับตาลงนอนอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้า