ครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม - ตอนที่ 8 ระราน โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

หากใครคิดว่าการตายไปคือการได้พ้นทุกข์พิมพ์ลดาขอเรียนให้ทราบว่าทนใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเถิดเพราะชีวิตหลังความตายที่ได้พบเจออาจจะบัดซบยิ่งกว่าเก่าดูจากชีวิตของเธอเป็นตัวอย่างจากแต่เดิมที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำธรรมดาๆ แต่ชีวิตก็มามีอันถึงคราวซวยต้องมารับใช้หนี้นอกระบบที่พี่สาวแท้ๆ เป็นคนก่อแล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆไปไม่กลับมา เจ้าหนี้ก็ตามมาทวงอยู่ได้ทุกวันหาเงินมาจ่ายดอกวันละสองพันก็ยังไม่พอทำให้เธอตัดสินใจโดดน้ำตายให้มันจบๆ ไป ลากันทีชีวิตบัดซบซ้ำซาก

แต่ใครมันจะรู้ว่าจะมีชีวิตในโลกหน้าที่รออยู่จากผู้หญิงธรรมดาอายุยี่สิบปลายๆ กลับต้องมามีชีวิตใหม่สวมวิญญาณเข้าร่างเป็นมารดาของบุตรสี่คนและสามีอีกหนึ่งแต่เรื่องที่มันน่าตกใจไปมากกว่านั้นคือกุ้ยอิงฮวาคนนี้เคยมีสามีมาแล้วก่อนหน้านี้ถึงสองคนสามีแรกแก่ง่ายตายเร็วมาก สามีสองยังไม่แก่แต่ก็ชิงตายไปทิ้งมรดกไว้ให้เป็นลูกๆ ที่แสนรู้ความถึงสองคนส่วนสามีคนที่สามนั้นนางจัดการรวบตึงเอาไว้เพราะอยากให้ในครอบครัวมีผู้ชายช่วยปกป้องดูแลแต่อยู่มาไม่ทันไรเขาก็สร้างเรื่องไปอุ้มเด็กกลับมาบ้านให้นางเลี้ยงอีกแล้วหรืองานนี้ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

หมายเหตุ

นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

คำเตือน

              นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอาจทำให้คุณนักอ่านไม่สบายใจนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1.       ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2.       ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3.       หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 1 ตายแล้วเกิดใหม่,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 2 รับบทคุณแม่ลูกสี่,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 3 วิถีชาวบ้าน,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 4 หาลู่ทางทำอาชีพเสริม,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 5 ชีวิตแม่ค้า,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 6 ซื้อง่ายขายคล่อง,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 7 เจ้ามันก็แค่ฮูหยินตกอับ,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 8 ระราน,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 9 ของกินเล่น,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 10 ทาบทาม,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 11 ลักพาตัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 2 พฤษภาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 8 ระราน

เถียนม่านหนิงหายไปให้ทุกคนสบายใจได้เพียงสองวันนางก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับแสดงงิ้วโรงใหญ่กล่าวหาว่ากุ้ยอิงฮวาเป็นสาเหตุให้วิญญาณของเถียนเหว่ยสามีของพวกนางไม่ไปสู่สุคติแต่ก็ถูกทั้งซุนคุนเล่อและกุ้ยอิงฮวาขับไล่และตอกกลับไปว่าเวลาผ่านไปเกือบจะสองปีหากคนตายไม่ไปสู่สุคติคงตามมาหักคอนางนานไปแล้วไม่จำเป็นต้องมาอ้อมโลกฟ้องฮูหยินเอกให้เสียเวลาอีกทั้งบ้านเกิดของคนสนิทนายท่านเถียนก็รู้จักเป็นอย่างดี

เรื่องนี้จึงจบลงตรงที่ท่านปู่เหมียวของเด็กๆ ตามเจ้าหน้าที่ทางการมาช่วยตัดสินและด้วยความรอบคอบของกุ้ยอิงฮวาที่นางพกหนังสือตัดขาดที่มีรอยนิ้วมือของฮูหยินเถียนม่านหนิงประทับเอาไว้ชัดเจนเรื่องนี้ฝั่งคนที่ตามมาระรานจึงต้องล่าถอยไปมิเช่นนั้นจะถูกทางการจับไปดำเนินคดีในฐานะที่เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหนังสือตัดขาด

“หากนางเข้ามาใกล้พวกเจ้าอีกก็แจ้งทางการไปเลยไม่ต้องรีรออย่าให้มาแตะต้องลูกๆ ของพวกเจ้าได้” ผู้อาวุโสเหมียวที่คอยอยู่เคียงข้างทั้งออกหน้าเป็นพยานและคอยให้กำลังใจกว่ากับสองสามีภรรยาหลังจากที่เรื่องราววุ่นวายของวันนี้สิ้นสุดลงไปได้เสียที

“ข้าเข้าใจแล้วขอรับครั้งหน้าข้าจะรีบแจ้งทางการเพื่อปกป้องครอบครัว” ซุนคุนเล่อรู้สึกเสียใจที่วันนี้สตรีผู้นั้นหาญกล้าถึงขนาดพุ่งมากระชากแขนเจ้าแฝดถึงหน้าร้านกว่าเขาจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นลูกก็มีรอยแดงที่แขนและร้องไห้จ้าอย่างน่าสงสารไปแล้ว เด็กกำลังเล่นกันอยู่ดีๆ ผู้ใหญ่ที่เถียงทำท่าจะแพ้แล้วเกิดพาลมาเล่นงานช่างเป็นพฤติกรรมที่แสนจะน่ารังเกียจเป็นที่สุด

“ใครจะไปรู้ว่านางจะกล้าทำร้ายเด็กที่ไม่มีทางสู้เล่าเจ้าคะท่านพี่เองก็ปกป้องดูแลพวกเราเต็มความสามารถแล้วอย่าได้รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของตนเองอีกเลยเสี่ยวอวี้กับเสี่ยวอิงปลอบท่านพ่อหน่อยสิ บอกเขาทีว่าพวกเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนที่เข้าใจความรู้สึกของซุนคุนเล่อมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นกุ้ยอิงฮวานางอยู่กับเขาเกือบตลอดเวลามาจะสองปีแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าเขาเสียใจเพียงไหนที่ลูกถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา

แม้จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแต่ก็ตั้งใจดูแลทะนุถนอมมาเป็นอย่างดีเมื่อมีคนมาทำร้ายมาทำให้เจ็บปวดหัวใจของคนเป็นบิดามารดาย่อมเจ็บปวดมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่าแน่นอนอยู่แล้ว

“ท่างพ่อเฉี่ยวอวี้ไม่เจะแย้วนะ” เจ้าแฝดพี่จูงมือน้องชายไปหาบิดาพร้อมกับเอาแก้มที่เป็นก้อนกลมๆ ของตนเองไปวางไว้ที่ขาของซุนคุนเล่อ

“เฉี่ยวอิงก็แขนแลน ท่างพ่อไม่ห่วนนะ” เจ้าแฝดน้องเองก็ทำตัวน่ารักไม่ต่างกันเดินไปหาบิดาแล้วก็กางแขนให้อุ้มในทันทีแล้วซุนคุนเล่อจะทำอะไรได้หากมิใช่การอุ้มลูกขึ้นมานั่งบนตักด้วยแขนคนละข้าง

“เรื่องข้าวของที่เสียหายอย่างไรแล้วปู่จะจ่ายให้เด็กๆ เองนะเพราะอาหารที่เหลืออยู่ก็ให้คนงานก็จัดการทำไปแจกจ่ายเป็นอาหารกลางวันไปหมดแล้ว อย่าปฏิเสธเลยเจ้าสองคนค้าขายสุจริตไม่ควรต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้”

เพราะเรื่องมาเกิดหลังจากเปิดร้านไปได้ไม่นานอาหารจึงยังเหลืออีกมากหากไม่นับผัดพริกแกงหนึ่งถาดที่กุ้ยอิงฮวาเอาเทราดหัวของฮูหยินเถียนไปกับข้าวอีกสองถาดและข้าวทั้งหม้อคนงานของร้านค้าข้าวจึงช่วยเก็บเอาไว้ให้แต่ก็เป็นผู้อาวุโสที่สั่งให้นำไปแบ่งกันกินก่อนที่จะเดินทางไปที่ว่าการอำเภอเพื่อสะสางเรื่องราวที่แสนจะวุ่นวาย

แม้วันนี้จะไม่ได้ขายของแต่การไปจัดการเรื่องราววุ่นวายยังที่ว่าการอำเภอนั้นก็เสียเวลาไปไม่ใช่น้อยทำเอากุ้ยอิงฮวาเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาจนไม่อยากทำอะไรอีกแล้วในวันนี้และเหมือนจะเป็นโชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดร้านนางจึงชวนทั้งสามีและเด็กๆ ไปเล่นน้ำกันที่ลำธารหลังบ้านเพราะว่ามันไม่ใช่ลำธารที่มีความลึกหรือว่าไหลเชี่ยวจึงค่อนข้างที่จะปลอดภัย

ทันทีที่กลับถึงบ้านซุนคุนเล่อจัดการนำจานชามหม้อไหไปทำความสะอาดตรงลำธารนั่นแหละส่วนกุ้ยอิงฮวาก็พาลูกๆ รวมถึงตัวเองผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเก่าที่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะขาดหรือพังไปอีกทั้งนางยังเลือกใส่เป็นชุดกางเกงที่เอาไว้สำหรับทำงานในสวนเพื่อความคล่องตัวในการเล่นน้ำแม้ตัวเองจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม

“ท่างพ่อเยามาแย้วขอยับ” เสี่ยวอวี้ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำแต่ไม่ชอบอาบน้ำวิ่งหน้าตั้งมาหาบิดาที่กำลังจะเก็บเครื่องครัวกลับเข้าไปในบ้านจนซุนคุนเล่อต้องวางของในมือลงเพื่อกางแขนหยุดบุตรชายที่วิ่งตึกตักเข้ามาหาไม่ต่างจากลูกขนุนกลิ้งหลุนๆ

“รับได้แล้วเจ้าตัวป่วนน้อยของพอ” หลังจากกอดลูกแฝดคนโตจงพอใจแล้วก็ต้องรีบหันไปรับลูกขนุนลูกที่สองที่ตั้งท่าจะกลิ้งมาหาดูแล้วก็รู้ว่าเจ้าแฝดน้องกำลังเลียนแบบพฤติกรรมของคนพี่

“ข้าเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ท่านพี่ในห้องนะเจ้าคะ” ถึงจะมีห้องส่วนตัวแยกกันคนละหนึ่งห้องแต่เป็นกุ้ยอิงฮวาที่สามารถเข้าออกทุกห้องในบ้านได้เพราะส่วนมากนางจะเป็นคนที่จัดการเรื่องทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ทุกๆ คนอยู่แล้วแม้ก่อนหน้านี้ซุนคุนเล่อจะทำเองแต่เพราะงานของเขามีมากแล้วแค่ซักเสื้อผ้าเพิ่มมาอีกไม่กี่ตัวจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย

“เช่นนั้นพี่จะรีบเอาของไปเก็บแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าอย่าเพิ่งพาเด็กๆ ลงน้ำนะเดี๋ยวจะจับพวกเขาไม่ทัน” แม้จะรู้ว่าภรรยาต้องดูแลลูกๆ เป็นอย่างดีแต่ความไวของเด็กเล็กก็ไม่สามารถจะประมาทได้เช่นกัน

มารดาและบุตรอีกสีคนทำตามคำสั่งของบิดาอย่างเคร่งครัดด้วยการนั่งกันอยู่ริมลำธารให้ปลายเท้าแตะน้ำเย็นๆ และชวนกันชี้ชวนดูปลาที่ว่ายน้ำผ่านมาเพียงเท่านั้นซึ่งเรื่องเล็กๆ เพียงเท่านี้แต่เด็กๆ ก็มีความสุขมากแล้วสังเกตได้จากสีหน้าของแต่ละคนที่มีรอยยิ้มกวางประทับอยู่

“ท่างพ่อมาแย้ว ท่างพ่อมาเยวๆ เยย” แม้บิดาจะหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บข้าวของไม่นานแต่สำหรับเด็กน้องวัยเพียงไม่กี่หนาวมันกลับยาวนานมากเหลือเกินแต่เพราะเมื่อท่านแม่และท่านพ่อให้คำสัญญาแล้วเจ้าก้อนแป้งจำได้ว่าพวกท่านไม่เคยที่จะผิดคำพูดจึงนั่งรอด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังแต่ก็ยังคอยหันหลังไปมองยังตัวบ้านอยู่บ่อยๆ

“ท่าทางจะต้องอดทนรอมากๆ เลยใช่หรือไม่เจ้าก้อนแป้งของพ่อ มาๆ จับมือพ่อให้แน่นๆ” ซุนคุนเล่อจับมือเจ้าก้อนแป้งอายุน้อยที่สุดในบ้านลงมาในลำธารก่อนเป็นคนแรกจากนั้นจึงช่วยพาบุตรสาวคนโตลงมาเพื่อช่วยดูแลน้องส่วนลำดับต่อไปก็เป็นคิวของเจ้าก้อนแป้งคนพี่ที่จับมือกันลงมาพร้อมกับพี่ชายคนรอง

“เดี๋ยวข้าลงไปเองเจ้าค่ะท่านพี่ไปดูลูกๆ ก่อนเถิด” ในตอนนี้มีเพียงกุ้ยอิงฮวาผู้เดียวที่นั่งอยู่ริมลำธารแต่นางกลับไม่ได้รีบจะลงน้ำเพราะว่านั่งมองปลาอยู่เพลินๆ มันก็เกิดอยากจะจับปลาขึ้นมาเสียอย่างนั้นนางจึงคิดจะนั่งดูลูกๆ อยู่บนฝั่งแล้วค่อยลงน้ำไปจับปลาเลยทีเดียว

เสียงหัวเราะที่แสนจะร่าเริงของเด็กๆ ทำเอามารดาที่จิตใจขุ่นมัวมาตลอดครึ่งวันเบิกบานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งเห็นคนที่ตนเองดูแลและรักมาไม่ต่างจากบุตรในอุทรมีความสุข มีเสียงหัวเราะแล้วกุ้ยอิงฮวาก็ยิ่งไม่อยากให้มีผู้ใดหรืออะไรที่มาทำร้ายพวกเขาได้เลย

“ท่างแม่มาเย่งน้ำกานเถอะ” เจ้าแฝดที่กวักมือเรียกมารดาหยอยๆ เช่นนั้นแล้วกุ้ยอิงฮวาจึงไม่อยากจะขัดใจบุตรชายรีบเอาตัวลงมาในน้ำที่ลึกไม่ถึงครึ่งแข้งเพราะสามีเลือกบริเวณที่น้ำค่อนข้างตื้นเพื่อความปลอดภัยแต่ถ้าหากจะเดินขึ้นไปตามลำธารอีกนิดน้ำก็จะลึกตนเกือบถึงเอวของนางพอดีและมันเป็นบริเวณที่ไปจับปลาอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้นางพาลูกมาบริเวณน้ำตื้นที่มักจะใช้ซักผ้าหรือล้างจาน

การเล่นน้ำของเด็กๆ ก็แค่วักน้ำสาดใส่กันไปมาแต่ก็มีบ้างที่บิดาจะสอนว่ายน้ำด้วยการจับมือเด็กๆ เอาไว้ทีละคนจากนั้นก็ให้พวกเขาลอยตัวเตะขาเป็นที่สนุกสนานเป็นที่สุด

“แม่อยากจับปลาเย็นนี้เราจะกินอะไรกันดีเด็กๆ” เมื่อเล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็ได้เวลาแล้วที่จะทำตามความตั้งใจของตัวเองตั้งแต่แรกแต่ก็ต้องถามลูกๆ ก่อนจะได้จับมาพอดีกับการทำอาหาร

“ปาท่อด” เจ้าแฝดพูดออกมาแทบจะพร้อมกันว่าอยากกินปลาทอดเพราะท่านแม่ทำได้อร่อยยิ่งนัก

“ลูกกินแบบน้องๆ ได้ขอรับท่านแม่” คนที่ตามใจน้องไม่แพ้ใครเลยหันมาตอบเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำตามของมารดาส่วนทางด้านพี่สาวคนโตก็พยักหน้าว่าเห็นด้วยเช่นกัน

“เจ้าสองคนนี่ตามใจน้องเก่งเสียจริงเอาเป็นว่าแม่จะทำปลาทอดขมิ้น น้ำแกงกระดูกปลาแล้วก็ผัดผักอีกอย่างหนึ่งก็แล้วกันนะกินปลาทอดแล้วก็ต้องกินผักด้วย” แม้จะบอกว่าลูกๆ ตามใจน้องเก่งแต่ตัวของกุ้ยอิงฮวาเองก็ไม่ต่างจากกันแต่นางก็เลือกที่เอาใจทุกๆ คนในครอบครัว

ฝาแฝดชอบปลาทอดนางก็ทำปลาทอดขมิ้นให้ส่วนบุตรชายบุตรสาวนั้นชอบกินผัดผักที่ใส่เห็ดหอมไม่ว่าจะเป็นแบบสดหรือแบบแห้งนางก็จะทำให้พวกเขาส่วนของซุนคุนเล่อนั้นชอบน้ำแกงกระดูกปลาที่นางปรุงรสให้เปรี้ยว เค็ม เผ็ดคล้ายกับรสต้มยำนางจึงมักจะเลือกทำน้ำแกงรสกลางๆ แล้วนำมาปรุงเพิ่มสำหรับผู้ใหญ่เพียงเท่านี้ก็สามารถอร่อยได้ครบทุกคนในครอบครัวแล้ว

การจับปลาในวันนี้ไม่ได้ใช้เวลามากนักเพราะสองสามีภรรยาช่วยกันอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่จับปลาไปจนถึงการทำความสะอาดโดยในตอนนี้ลูกๆ พากันไปอาบน้ำแล้วเพราะพี่ๆ สามารถช่วยดูแลน้องๆ แทนบิดามารดาได้เป็นอย่างดี

ปลาทอดขมิ้นของกุ้ยอิงฮวานั้นจะหั่นปลาเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อป้องกันก้างไปในตัวอีกทั้งนางก็ไม่ได้ใส่ขมิ้นลงไปมากเนื่องจากกลัวว่าเด็กๆ จะเผ็ดจนเกินไปนางหมักปลาคลุกเคล้ากับขมิ้นและเกลือทิ้งเอาไว้จากนั้นก็ไปเตรียมผัก เห็ดและฟองเต้าหู้แต่ระหว่างนี้ซุนคุนเล่อก็ไปติดเตานอกบ้านเพื่อหุงข้าวรอเพราะนางจะต้องใช้ทั้งสองเตาในครัวเพื่อต้มน้ำแกงและปรุงอาหารจานอื่นเพื่อความรวดเร็วว่องไว

“อร่อยจังเลยเจ้าค่ะท่านแม่” เถียนซานเซินยิ้มหวานเมื่อได้ชิมเห็ดหอมในผัดผักกับข้าวจานโปรดของตัวเองส่วนน้องชายแม้จะไม่ได้พูดอะไรแต่แววตาที่เป็นประกายของเขากับพูดแทนทุกอย่างออกมาจนหมดสิ้นแล้ว

“อู้ ปากอบๆ ฟู่ๆ” ส่วนเจ้าฝาแฝดจอมกินเก่งของบ้านต่างก็ตื่นเต้นกับเนื้อปลาที่ทอดจนเหลืองกรอบแต่ก็ไม่ลืมที่จะเป่าให้คลายความร้อนก่อนรับประทานตามที่ท่านแม่ได้สอนเอาไว้

“น้ำแกงของท่านพี่เจ้าค่ะข้าปรุงรสให้ตามที่ท่านชอบแล้ว” ทุกคนจะมีน้ำแกงส่วนตัวเป็นชามเล็กๆ ซึ่งของเด็กๆ จะมีรสอ่อนๆ เปรี้ยวเค็มและโรยต้นหอมเท่านั้นส่วนของผู้ใหญ่จะปรุงรสจัดกว่ามาด้วยการเพิ่มพริกสดบุบลงไปเมื่อเนื้อพริกเจอกับความร้อนก็ส่งกลิ่นเฉพาะตัวกำจายออกมายิ่งทำให้อยากอาหารเพิ่มขึ้น

“ขอบใจเจ้ามากอิงเอ๋อร์”