ครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม - ตอนที่ 9 ของกินเล่น โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครอบครัวยากจนแทบอดตายแต่สามีก็วุ่นวายหาลูกมาเพิ่ม

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

หากใครคิดว่าการตายไปคือการได้พ้นทุกข์พิมพ์ลดาขอเรียนให้ทราบว่าทนใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเถิดเพราะชีวิตหลังความตายที่ได้พบเจออาจจะบัดซบยิ่งกว่าเก่าดูจากชีวิตของเธอเป็นตัวอย่างจากแต่เดิมที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำธรรมดาๆ แต่ชีวิตก็มามีอันถึงคราวซวยต้องมารับใช้หนี้นอกระบบที่พี่สาวแท้ๆ เป็นคนก่อแล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆไปไม่กลับมา เจ้าหนี้ก็ตามมาทวงอยู่ได้ทุกวันหาเงินมาจ่ายดอกวันละสองพันก็ยังไม่พอทำให้เธอตัดสินใจโดดน้ำตายให้มันจบๆ ไป ลากันทีชีวิตบัดซบซ้ำซาก

แต่ใครมันจะรู้ว่าจะมีชีวิตในโลกหน้าที่รออยู่จากผู้หญิงธรรมดาอายุยี่สิบปลายๆ กลับต้องมามีชีวิตใหม่สวมวิญญาณเข้าร่างเป็นมารดาของบุตรสี่คนและสามีอีกหนึ่งแต่เรื่องที่มันน่าตกใจไปมากกว่านั้นคือกุ้ยอิงฮวาคนนี้เคยมีสามีมาแล้วก่อนหน้านี้ถึงสองคนสามีแรกแก่ง่ายตายเร็วมาก สามีสองยังไม่แก่แต่ก็ชิงตายไปทิ้งมรดกไว้ให้เป็นลูกๆ ที่แสนรู้ความถึงสองคนส่วนสามีคนที่สามนั้นนางจัดการรวบตึงเอาไว้เพราะอยากให้ในครอบครัวมีผู้ชายช่วยปกป้องดูแลแต่อยู่มาไม่ทันไรเขาก็สร้างเรื่องไปอุ้มเด็กกลับมาบ้านให้นางเลี้ยงอีกแล้วหรืองานนี้ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

หมายเหตุ

นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

คำเตือน

              นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอาจทำให้คุณนักอ่านไม่สบายใจนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1.       ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2.       ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3.       หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 1 ตายแล้วเกิดใหม่,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 2 รับบทคุณแม่ลูกสี่,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 3 วิถีชาวบ้าน,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 4 หาลู่ทางทำอาชีพเสริม,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 5 ชีวิตแม่ค้า,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 6 ซื้อง่ายขายคล่อง,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 7 เจ้ามันก็แค่ฮูหยินตกอับ,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 8 ระราน,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 9 ของกินเล่น,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 10 ทาบทาม,สตรีผู้นี้มีลูกสี่สามีสาม-ตอนที่ 11 ลักพาตัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 เมษายน 68 ติดเหรียญถาวร 2 พฤษภาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 9 ของกินเล่น

การใช้ชีวิตในโลกใบที่ไม่คุ้นเคยสิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับผู้มาใหม่คือเรื่องอาหารการกินเพราะถึงแม้ว่าวัตถุดิบต่างๆ จะหามาได้โดยง่ายแต่มันก็ต้องนำมาปรุงเองไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนมหรือแม้แต่ของกินเล่นแก้ปากว่างโดยก่อนหน้านี้ก็เคยทำพวกมันทอดมันฉาบให้เด็กๆ กินกันไปแล้วในวันหยุดว่างๆ ครั้งนี้กุ้ยอิงฮวาจึงคิดอยากจะหาของกินเล่นอะไรสักอย่างมาทำกินกันดีไม่ดีหากว่ามันอร่อยนางก็จะทำขายเพิ่มไปเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าร้านแผงลอยเล็กๆ ของตนเองด้วย

ถึงแม้จะเป็นวันหยุดไม่ต้องไปขายข้าวแกงแต่ทั้งซุนคุนเล่อและกุ้ยอิงฮวาต่างก็ตื่นเช้ากันตามปกติมีแต่ลูกๆ ที่จะให้ตื่นสายหน่อยแม้พวกเขาจะไม่ได้ทำงานอะไรมากนักแต่การตื่นเช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางเข้าไปอำเภอทุกๆ วันเด็กๆ ก็คงจะอ่อนเพลียอยู่มิใช่น้อยเมื่อมีเวลาก็ให้พวกเขานอนหลับพักผ่อนไปนั่นแหละดีแล้ว

“เจ้าจะทำกับข้าวเพิ่มอย่างนั้นหรืออิงเอ๋อร์” สามีเอ่ยถามเมื่อภรรยาหันไปจัดการผัดต่างๆ ที่นางเตรียมไว้แม่ว่ากับข้าวมื้อเช้าที่ประกอบไปด้วยน้ำแกงไข่และผัดผักใส่เนื้อปลาทอดจากปลาที่จับมาเมื่อวานเสร็จไปแล้วเรียบร้อยโดยปกติแล้วทั้งครอบครัวของเขาจะทำกับข้าวมื้อละสองอย่างมีจานผัดและน้ำแกงแม้แต่ตอนที่ขัดสนก็ยังพยายามที่จะแบ่งวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงอาหารให้พอดีเพื่อที่เด็กๆ จะได้กินอิ่ม

“ข้าตั้งใจจะทำของว่างเพิ่มเอาไว้ให้ท่านพี่และเด็กๆ ได้ลองชิมหากว่ามันอร่อยข้าก็จะทำขายไปด้วยเลยในตอนนี้เราพอจะมีลูกค้าประจำแล้วอีกอย่างบนรถเข็นก็ยังพอมีพื้นที่ว่างสามารถนำลังถึงไม้ไผ่ไปวางได้เจ้าค่ะ” กุ้ยอิงฮวาหันมาอธิบายอย่างจริงจังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่ตนเองมีอย่างเต็มเปี่ยม

“เช่นนั้นให้พี่ช่วยเถอะนะมีอะไรต้องทำบ้าง” ตอนนี้ยังพอมีเวลาฟ้ายังไม่สว่างซุนคุนเล่อจึงตั้งใจจะช่วยภรรยาอยู่ในครัวก่อนหลังจากนั้นเขาค่อยปลีกตัวขึ้นเขาไปล่าสัตว์เผื่อว่าจะได้ไก่หรือไม่ก็กระต่ายติดไม้ติดมือกลับมาแต่ถึงวันไหนไม่ได้ขึ้นเขาไปในบ้านก็ยังมีไก่ป่าเลี้ยงไว้หลายตัวเขาสามารถจับมาเชือดเอาเนื้อให้ภรรยาเอาไปทำอาหารขายได้อยู่แล้ว

“ท่านพี่เพียงหั่นมันเทศและหน่อไม้ให้เป็นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ เตรียมเอาไว้ก็พอแล้วเจ้าค่ะข้าตั้งใจจะทำขนมกุยช่ายนึ่งถึงชื่อจะเป็นขนมแต่มันเป็นของว่างไส้ผักต่างๆ ห่อแป้งนึ่งและต้องกินกับน้ำจิ้มรสชาติเค็มหวานมีรสเปรี้ยวและเผ็ดติดปลายลิ้นเล็กน้อยเท่านั้น” กระเทียมที่จะเจียวโรยหน้าขนมสวยๆ นั้นกุ้ยอิงฮวาเตรียมเอาไว้แล้วในตอนนี้นางกำลังหั่นใบกุยช่ายให้เป็นท่อนสั้นจึงแบ่งผักอีกสองชนิดไปให้ซุนคุนเล่อทำเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาไปเตรียมแป้งห่อขนม

“ข้าตั้งใจทำให้เยอะหน่อยเพราะว่าจะนำไปฝากที่ลุงผู้นำหมู่บ้านและครอบครัวลูกๆ ของเขาด้วยที่ผ่านมาหากไม่ได้ครอบครัวอู่ช่วยเหลือก็คงจะแย่” ในบางครั้งที่ซุนคุนเล่อต้องขึ้นเขาแบบค้างคืนก็จะได้ครอบครัวของอู่เต๋อมาแวะเวียนอยู่เป็นเพื่อนแม้จะแค่ครั้งสองครั้งแต่กุ้ยอิงฮวาก็นับว่าเป็นบุญคุณ

“ดีแล้วล่ะอยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ต้องพึ่งพาอาศัยมีน้ำใจต่อกันไว้มันก็ไม่เสียหาย” คนดีๆ ก็มีอยู่เยอะแต่คนไม่ดีโดยเฉพาะปากก็ไม่น้อยเห็นได้จากตอนที่เขาบอกผู้นำหมู่บ้านว่าจะรับเจ้าแฝดมาดูแลเองบางคนก็ค่อนขอดว่าบ้านซุนทุกวันนี้เงินยังไม่พอจะกินจะใช้ยังหน้าใหญ่ใจโตรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าแต่คนพวกนั้นหารู้ไม่ว่าหากเขาไม่มีเงินเก็บสำรองเอาไว้จะกล้าเอาอีกสองชีวิตมาลำบากลำบนด้วยกันอย่างนั้นหรือ

ผลจากการเชื่อฟังภรรยาเป็นอย่างดีแม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้ว่าเขามีเงินซุกซ่อนอยู่ในบ้านเป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ช่วยคัดกรองมิตรสหายและเพื่อนบ้านดีๆ ให้ครอบครัวของซุนคุนเล่อได้เหมือนกัน

เด็กๆ ตื่นมาแล้วหลังจากจัดเก็บที่นอนก็พากันไปล้างหน้าล้างตาโดยที่ไม่ต้องให้ใครสั่งหลังจากที่รับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วซุนคุนเล่อก็เตรียมตัวเข้าป่าล่าสัตว์ส่วนกุ้ยอิงฮวาก็จะช่วยดูแลให้เด็กๆ คัดตัวอักษรและท่องตำรากันสักเล็กน้อยเพราะสามีของนางไม่เคยเลยที่จะลืมซื้อกระดาษมาติดบ้านไว้ลูกๆ จึงได้ศึกษาเล่าเรียนกันอย่างต่อเนื่อง

แม้แต่ตัวของกุ้ยอิงฮวาที่แต่เดิมอ่านเขียนไม่คล่องแต่พอมีวิญญาณของพิมพ์ลดามาอยู่ในร่างด้วยความที่เป็นคนหัวไวมาแต่เดิมเมื่อได้เห็นตัวอักษรและได้อ่านไปพร้อมเซินเอ๋อร์และเสี่ยวซูพัฒนาการทางด้านการศึกษาของมารดาผู้นี้ก็มีดีมากยิ่งขึ้นไปทีละเล็กทีละน้อย

“ท่างแม่ทำไย” เจ้าตัวเล็กเสี่ยวอิงน้องน้อยของบ้านเดินดุ๊กๆ ดิ๊กๆ เข้ามาหามารดาที่นั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ที่แคร่หน้าบ้านในขณะที่พี่สาวและพี่ชายกำลังคัดอักษรพร้อมเล่นกันกับตนเองและพี่ชายฝาแฝดไปพร้อมๆ กัน

“แม่กำลังเตรียมทำของว่างให้เจ้าและพี่ๆ กินน่ะเสี่ยวอิงอยากช่วยแม่ทำหรือไม่” กุ้ยอิงฮวาไม่เคยห้ามความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ เลยสักครั้งแม้รู้ว่าหากพวกเขาช่วยทำมันจะต้องเลอะเทอะแล้วอย่างไรเล่าแค่เพียงเก็บกวาดก็สะอาดดังเดิมแล้ว

“อา” เด็กน้อยคล้ายจะกล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อกุ้ยอิงฮวายื่นเศษแป้งก้อนเล็กๆ ให้เขาก็แบมือมารับไว้แต่โดยดี

“แม่อยากได้คนช่วยปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ หากเสี่ยวอิงทำได้แม่จะพาเจ้าไปล้างมือให้สะอาดแล้วมาช่วยทำขนมด้วยกัน” มารดาวางมือจากงานที่ทำจากนั้นก็จ้องมองไปที่บุตรชายคนเล็กด้วยสายตาเอื้อเอ็นดู

“ท่านแม่ลูกคัดอักษรเสร็จกันแล้วเจ้าค่ะเดี๋ยวเราจะพาน้องๆ ไปล้างมือให้สะอาดแล้วมาช่วยท่านแม่เอง” เป็นเซินเอ๋อร์พี่สาวที่แสนรู้ความมารับน้องน้อยไปจากมารดาหลังจากที่เด็กๆ หายกันไปสักพักก็กลับมาพร้อมมือที่ล้างจนสะอาดอีกทั้งผมยาวๆ ขอพวกเขาก็ถูกมัดรวบขึ้นไปจนหมดด้วยจำได้ดีในคำที่มารดาเคยสอนเอาไว้ว่าการทำของกินไม่ว่าจะกินกันเองหรือค้าขายคนทำจะต้องทำตัวเองให้สะอาดก่อนเป็นอันดับแรก

เสี่ยวซูได้รับหน้าที่สอนน้องแฝดให้ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ ส่วนกุ้ยอิงฮวากับบุตรสาวคนโตนั้นรับหน้าที่แผ่แป้งและใส่ไส้ห่อให้เป็นลูกกลมๆ เอาไว้เตรียมนำไปนึ่งให้สุก

มือเล็กๆ ของเด็กน้อยทำงานกันอย่างขยันขันแข็งอีกทั้งยังไม่ค่อยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วเช่นเคยที่กุ้ยอิงฮวาคิดว่าพวกเขาน่าจะจำมาจากที่นางเคยสอนจึงทำให้คิดได้ว่าหลังจากนี้นางน่าจะต้องไปซื้อผ้ามาตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัยเอาไว้ใส่กันในเวลาทำอาหารจะได้มีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ให้ฟังกันไปเพลินๆ หู

“รอแม่นึ่งขนมสุกพวกเจ้าก็จะได้กินกันแต่ก่อนหน้านั้นต้องเอาขนมไปส่งให้บ้านท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านกับท่านย่าจิวขายเต้าหู้ก่อนเข้าใจหรือไม่” มีสองครอบครัวที่ช่วยเหลือดูแลคนบ้านนี้มาตลอดเมื่อกุ้ยอิงฮวาทำอาหารหรือขนมอะไรจึงไม่ลืมที่จะแบ่งปันไปให้อยู่เสมอ

“ได้เจ้าค่ะท่านแม่ข้าจะพาน้องไปส่งขนมให้ท่านปู่กับท่านยายเอง” ระหว่างรอขนมสุกพี่ๆ ก็พาน้องออกไปเล่นกันตามประสาแต่จู่ๆ เสี่ยวอวี้ก็อยากไปดูลูกเจี๊ยบที่เพิ่งฟักออกมาจากไข่เมื่อไม่นานมานี้แต่เสี่ยวอิงไม่อยากไปเพราะอยากเล่นอยู่ที่หน้าบ้านพี่ๆ เลยต้องแยกกันไปเพื่อตามใจน้องๆ

 

“อ้าวเด็กๆ มีอะไรหรือเปล่ามาถึงนี่ได้” เนื่องจากเรือนของท่านปู่อู่ซึ่งเป็นผู้นำหมู่บ้านอยู่ค่อนมาทางด้านหน้าของหมู่บ้านแต่ก็เดินมาได้ไม่ทันเหนื่อยแต่ท่านย่าอู่ที่มาเปิดประตูบ้านให้ก็ตกใจเมื่อเห็นเซินเอ๋อร์จูงมือน้องแฝดหนึ่งคนมาหาถึงที่เรือนในเวลานี้

“มิได้มีเรื่องอะไรเจ้าค่ะท่านย่าแค่ท่านแม่ให้เซินเอ๋อร์กับน้องเอาของว่างมาฝากเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เลยเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็เข้ามานั่งรอกันก่อนเดี๋ยวย่าไปล้างปิ่นโตมาคืนให้ มาๆ นั่งตรงนี้เลยกินขนมรอไปก่อนนะ” ท่านย่ารีบเข้าไปถ่ายขนมออกจากปิ่นโตแล้วก็เป็นท่านปู่ที่เอาขนมมาให้เด็กๆ นั่งกินกันแต่เถียนซานเซินก็รับมาหนึ่งชิ้นแล้วแบ่งกินกับน้องเท่านั้น

“มารดาเจ้าทำของอร่อยอีกแล้วอย่างนั้นเหรือเซินเอ๋อร์” ท่านปู่ถามตามประสาด้วยตัวเองก็ถูกใจในรสมือของมารดาเด็กๆ อยู่ไม่น้อย

“ท่านแม่เพิ่งซ้อมมือทำของว่างเจ้าค่ะมันชื่อว่าขนมกุยช่ายเป็นแป้งนึ่งไส้ผักต่างๆ กินกับน้ำจิ้ม พวกเราเองก็ยังไม่ได้กินเลยเจ้าค่ะแต่มั่นใจว่ามันจะต้องอร่อยเพราะท่านแม่เป็นคนทำ” เด็กหญิงพูดอธิบายอย่างไม่ขัดเขินอีกทั้งนางยังมีแต่ความภาคภูมิใจในยามที่กล่าวถึงมารดาที่เลี้ยงดูนางมาหลายปี

“ดี ดี มารดาและบิดาเจ้าขยันทำมาหากินพวกเจ้าก็ดูเอาไว้และทำตามนะต่อไปครอบครัวจะต้องเจริญรุ่งเรืองไม่มีทางลำบากอย่างแน่นอน”

นั่งคุยกับท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านได้ไม่นานท่านย่าก็นำปิ่นโตที่ล้างสะอาดออกมาคืนให้อีกทั้งยังมีไข่ไก่ใส่มาด้วยถึงหกฟองซึ่งเด็กหญิงทำท่าจะปฏิเสธเพราะนางนำอาหารมาให้เฉยๆ ไม่ได้มาขอแลกสิ่งของแต่ท่านย่าก็บอกว่าไข่ไก่ที่เรือนมีเยอะให้เอาไปช่วยแบ่งๆ กันกินเด็กหญิงจึงกล่าวขอบคุณและจูงมือน้องชายกลับไปบ้านด้วยความระมัดระวัง

ขนมของกุยช่ายของท่านแม่อร่อยยิ่งนักเวลาที่กินเปล่าๆ ก็มีรสชาติหวานเค็มอ่อนๆ แต่เมื่อราดน้ำจิ้มที่ทำมาจากซีอิ๊วลงไปเล็กน้อยก็ช่วยทำชูรสให้ดีขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ได้ไข่มาจากท่านย่าอู่เดี๋ยวแม่จะลองทำกุยช่ายตอกไข่ให้พวกเจ้ากินด้วยดีหรือไม่ขนมกุยช่ายนี้หากว่านำไปทอดให้ด้านนอกกรอบใส่ไข่เข้าไปสักฟองเติมถั่วงอกกับต้นหอมก็จะยิ่งอร่อยเพิ่มมากขึ้น” กุ้ยอิงฮวานำเสนออาหารที่ดัดแปลงมาจากขนมกุยช่ายธรรมดาๆ แม้อันที่จริงจะใช้ขนมกุยช่ายแบบที่ผสมผักไปกับแป้งจะทำได้อร่อยกว่าแต่สามารถใช้ขนมกุยช่ายแบบห่อไส้อย่างที่ทำอยู่นี้ได้เช่นกัน

เด็กๆ กินขนมกุยช่ายอิ่มแทนอาหารกลางวันไปแล้วกุ้ยอิงฮวาจึงไม่จำเป็นต้องทำกับข้าวในช่วงบ่ายที่พวกเขาเข้านอนกลางวันนางจึงเดินไปสำรวจแปลงผักหลังบ้านและจัดเก็บผักต่างๆ ตามรายการอาหารที่ได้กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

กุ้ยอิงฮวาจะเขียนรายการอาหารคราวเดียวออกมาหกวันและพยายามเกลี่ยให้มีรายการซ้ำกันให้น้อยที่สุดโดยนางจะทำแบบนี้ไว้สักสามสี่ชุดจากนั้นก็แค่เลือกหยิบใบรายการอาหารสักชุดมาเพียงเท่านี้กับข้าวที่ขายในแต่ละวันมันก็จะไม่ซ้ำกันจนมากเกินไปทำให้คนกินไม่เบื่อ

พรุ่งนี้นางจะต้องทำเต้าหู้พะโล้ ผัดผักรวมใส่เนื้อไก่และผัดมันฝรั่งหั่นเส้นและพริกสดผักที่ต้องเก็บก็เลือกเอาได้ตามใจมีผักอันไหนโตได้ขนาดก็เก็บมาได้เลยไม่ต้องคิดมากใส่ผักเยอะหลากสีสันอีกทั้งยังเป็นผัดที่เก็บมาแบบสดใหม่รับรองว่ามีรสหวานจากธรรมชาติจนแทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่ม

และสิ่งที่นางจะต้องทำอีกอย่างคือขนมกุยช่ายที่มั่นใจเต็มสิบส่วนแล้วมันมีรสชาติอร่อยไม่ต่างจากที่พิมพ์ลดาเคยช่วยย่าทำขายในชีวิตก่อนโดยนางก็เพิ่งรู้ในตอนนี้ว่าการถูกส่งไปอยู่บ้านย่าที่ต่างจังหวัดทุกๆ ปิดเทอมนั้นมันสามารถนำประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยได้เรียนรู้มาสร้างประโยชน์สร้างรายได้ให้นางในวันนี้