ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล - บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม

รายละเอียด

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

ผู้แต่ง

PinkyPaw

เรื่องย่อ

คำโปรย

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก

แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็

บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

หลังจากลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ปี ‘ลีน่า’ บังเอิญพบราชาปีศาจผู้เป็นอมตะ ‘อัมบรูส’ 

นางสมควรกลัวเขา สมควรรังเกียจและผลักไส ไปให้ไกลจากเขา

ทว่าเพราะเวทมนตร์ โชคชะตา และความหลงใหล ทำให้นางไม่อาจต่อต้านอำนาจรัก

ต่อให้รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกต้องห้าม หรือต่อให้เขาจะทำเรื่องโหดร้ายขนาดไหน 

แต่..ใจมันก็อดประหวัดถึงคนผู้นั้นไม่ได้จริง ๆ

...

คุยกับไรท์

สวัสดีทุกท่านค่ะ

ก่อนกดเข้าไปอ่าน เราอยากชวนคุยสักนิด ชี้แจงสักหน่อย 

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เราเขียนตอนที่รู้สึกคิดถึงอารมณ์รักโรแมนติก เหมือนตอนที่หัดเขียนนิยายเรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน 

ตอนนั้นเราเขียนด้วยความอยากปลดปล่อยจินตนาการตามประสาเด็ก ซึ่งรู้ว่าถึงพยายามยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางกลับไปมีความรู้สึกอันน่าคิดถึงแบบนั้นได้

แต่สุดท้ายก็แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา ถึงเป็นแนวเรียบง่าย เล่นกับความรักสุด classic ที่มีความแฟนตาซีแต่ไม่หวือหวา กระนั้นก็ยังพอเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปนานได้บ้าง

หวังใจว่าจะมีรี้ดสักคนที่หลงรักนิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกับเรา และหวังว่านิยายเรื่องนี้จะช่วยเป็นความผ่อนคลายของใครได้นะคะ

ปล. นิยายเรื่องนี้มี e-book แน่นอนค่ะ ไว้เปิดขายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีนะคะ

...

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ทั้งการฆ่า และการกระทำโหดร้ายทารุณอื่น ๆ ของตัวละคร 

ทั้งนี้ ผู้แต่งไม่มีเจตนาพาดพิงถึงเรื่องความเชื่อตามศาสนาใดทั้งสิ้น และไม่ได้อิงหลักกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของสังคมยุคไหนอย่างเฉพาะเจาะจง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากจินตนาการเพียงเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

...

นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

...

ช่องทางติดตามไรท์

tiktok : @itspinkypaw

X : @itspinkypaw

สารบัญ

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 0 แด่ท่าน,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 1 ข้าพบเจ้าแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 2 ท่านพ่อเข้มงวด กับเจ้านายใจดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 5 ลูกบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 6 พ่อบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 7 มอร์ทิส

เนื้อหา

บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ

“ป้าเมแกน”

เสียงเรียกนั้น ทำให้หญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้าน ก้มลงมาหาเด็กหญิงตัวเล็ก “อะไรหรือ ลีน่า”

“ข้าไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ” นางว่า เอานิ้วม้วนปอยผมเปียเล่นไปมา “ทำไมหน้าข้าไม่เหมือนท่านพ่อ”

“อ้อ..” ป้าเมแกนตอบรับน้อยคำ แววตาเลิ่กลั่ก “เจ้า..เหมือนแม่”

“แล้วท่านแม่ข้าไปไหน?”

“แม่เจ้าเสียไปตั้งแต่ตอนคลอดเจ้าออกมา ท่านลูอิสเลยเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว”

ลีน่าย่อมสงสัยเป็นธรรมดา นอกจากหน้าตาไม่มีแววคล้ายคลึงแล้ว แม้แต่สีผมหรือสีตาก็ยังนับว่าห่างไกลกับลักษณะของลูอิส

“พายบลูเบอร์รีเสร็จแล้ว” 

ป้าเมแกนเปลี่ยนเรื่องไป เรียกความสนใจจากอีกคนยามยกขนมหวานออกจากเตาอบ “น่ากินมาก!”

“เจ้าก็กินเยอะ ๆ หน่อย ผอมกะหร่องแบบนี้ไม่ดีนักหรอก”

“อื้อ!”

ลีน่ารับส่วนแบ่งของตัวเองซึ่งดูจะเยอะที่สุดมา สีหน้านางชื่นบานยิ่งกว่าเดิม ตอนที่ได้ตักเข้าปากคำโต

สมแล้วที่เมแกนเป็นแม่ครัวมือหนึ่งของปราสาทนี้ 

“จะว่าไป ข้ากินขนมในเวลาทำงานอย่างนี้ได้หรือ?”

เพราะอยู่ในวัยกำลังขี้สงสัย ลีน่าถึงได้มีคำถามได้ตลอดเวลา

ตอนนี้นางเองก็สวมชุดแม่บ้านเหมือนเมแกนและข้ารับใช้คนอื่น ๆ คงเกรงว่าหากเจ้านายรู้เข้าแล้วจะโดนตำหนิ

“ถึงจะเป็นข้ารับใช้ แต่เจ้ายังเด็ก นายท่านคงไม่ถือสาถ้าเจ้าจะพักมากกว่าคนอื่นสักหน่อย”

ป้าเมแกนก็ยังตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจเหมือนเดิม ลีน่าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

แต่ช่างเถิด ได้พักเยอะก็ดี เพราะต่อจากนี้นางจะไปถูพื้นที่ชั้นสาม ต้องตักตวงอาหารสะสมเรี่ยวแรงเข้าไว้

ถึงเวลาลงมือแล้ว!

ในใจเด็กน้อยฮึกเหิม ในมือทั้งสองข้างคือไม้ถูพื้นที่ยาวกว่าความสูงของนาง และถังน้ำที่ขอบกว้างกว่ารอบเอว

ชั้นสามนี้เป็นอาณาบริเวณอันเงียบสงัด เมื่อเทียบกับชั้นหนึ่งและชั้นสอง 

ทุกย่างก้าวบนพื้นเย็น ดูราวกับลีน่าเดินอยู่ในปราสาทร้างอย่างนั้น

“ข้าไม่กลัวหรอก”

ในที่สุดก็มีเสียงคั่นความเงียบ ถึงมันจะเป็นเสียงของนางเพียงคนเดียวก็เถอะ

และนั่นก็เป็นคำโกหกที่นางเฝ้ากล่อมจิตตัวเอง ไม่ให้ใจประหวั่นกับความวังเวง

ผ้าถูพื้นชื้นแฉะลากไปตามทาง ถึงต่อให้กลัวอย่างไรก็ยังพิถีพิถัน เพื่อไม่ให้เหลือฝุ่นผงแม้สักเม็ด

ปราสาทของเจ้านายใจดี จะให้สกปรกไม่ได้เด็ดขาด!

ทุกวันตั้งแต่เริ่มตื่นนอนจนถึงดึกดื่น ลีน่าตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายทุกอย่าง ด้วยหวังว่าจะตอบแทนบุญคุณเจ้านายพ่อเท่าที่ตัวเองจะทำได้

แต่ปราสาทนี่…มันจะใหญ่ไปไหม?

ถูไปถูมาก็เริ่มอยากพักสักหน่อย นางหาที่นั่งหลบมุม ผ่อนลมหายใจเอ้อระเหยชั่วครู่

เอ๋?…ไม่ใช่ห้องนั้น มันต้องปิดประตูให้สนิทหรอกหรือ

 ห้องที่ว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่นั่งของนาง เห็นบานประตูเปิดแง้มเพียงนิดเดียว เด็กน้อยก็ตั้งใจจะเดินไปปิดให้ด้วยความหวังดี

แต่ดวงตาเจ้ากรรมคู่นี้ ดันแอบส่องเข้าไปภายในตามสัญชาตญาณอันซุกซน

ทำไมในห้องนั้นถึงมีโลงศพ?

บริเวณชั้นสามนี้มืดมิด แต่ในยามกลางวันก็ไม่ได้มืดสนิท แสงที่ลอดผ่านเข้าไปออกจะสลัวสักหน่อย พอให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ดั่งเงาอันเลือนราง

นางเห็นไม่ผิด ข้างในนั้นมีโลงศพอยู่

ขณะนั้นทั้งร่างเล็กรู้สึกหนาวยะเยือก ขนลุกชันไปหมด

แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นมันท่วมท้นไปหน่อย มือที่สั่นเทาอยู่น้อย ๆ จึงผลักบานประตูให้แง้มกว้างขึ้น

ระยะห่างของนางกับวัตถุตรงกลางห้องค่อย ๆ ร่นเข้าจนหดสั้น เหลือเพียงเอื้อมมือก็เปิดมันออกได้

แล้วเรื่องอะไรจะไม่เปิดเล่า…

ในหีบมักมีสมบัติ ในโลงก็ย่อมมีศพ

แต่เหตุใดศพนี้..ถึงงดงามกว่าสมบัติ

ชายผู้นี้เป็นใครไม่ทราบ ร่างของเขาสูงยาว เรือนผมสยายเป็นสีเงิน เงางามดุจผ้าไหม ผิวกายต่อให้ขาวซีดแต่ก็เนียนละเอียดราวกับเป็นรูปสลักที่ช่างฝีมือตั้งใจเกลาทุกอณู  เปลือกตาของเขาล้อมด้วยแพขนตายาว ชวนให้สงสัยว่ามันซ่อนอัญมณีงดงามขนาดไหนเอาไว้

ร่างที่นอนอยู่นี้ ดูช่างเจิดจ้าในความมืด ดั่งจันทราเต็มดวงลอยโดดเด่นกลางฟ้า

ยิ่งมองก็ยิ่งน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งอยากเข้าใกล้ 

ยามหลับยังสง่าผ่าเผยขนาดนี้ แล้วยามตื่นขึ้นมาเล่า จะสง่าน่ามองขนาดไหน

ชื่นชมความงามอยู่พักหนึ่ง ลีน่าถึงพึ่งรู้สึกตัวว่านางอยู่ตรงนี้นานเกินไป เกรงจะถูพื้นไม่เสร็จก่อนเวลาอาหารค่ำ จึงรีบปิดฝาโลงไว้ดังเดิมแล้วจากมา

“โชคดีที่ไม่มีใครเห็นว่าข้าแอบอู้งาน”

นางถอนหายใจโล่งอก ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ

เวลาผ่านไป มื้อค่ำของเด็กน้อยไม่ได้กินรวมกับพวกพ่อบ้านแม่บ้าน แต่มานั่งอยู่ในห้องนอนกับลูอิส

มองเขากลืนเนื้อไก่แบบฝืดคอ ผิดกับตัวเองที่กินอย่างเอร็ดอร่อย ลีน่าอดมีคำถามไม่ได้

“ท่านพ่อไม่ชอบกินไก่หรือเจ้าคะ”

“เรียกว่าเกลียดก็ได้” ลูอิสเผลอตอบจากใจจริง

“แล้วท่านพ่อชอบกินอะไรเจ้าคะ?”

“เนื้อ..” คำตอบของคนฝั่งตรงข้ามฟังติดขัดเล็กน้อย ก่อนที่สายตาของเขาจะเบนไปนอกหน้าต่าง “เนื้อวัว”

“เนื้อวัวไม่น่าแพงสำหรับคนในปราสาทนี้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ”

“อย่างไรก็แพงสำหรับคนใช้”

ลูอิสดำรงตำแหน่งหัวหน้าพ่อบ้าน ตอนแรกลีน่าเห็นคนรับใช้คนอื่นเคารพเขา ก็คิดว่าน่าจะได้ค่าตอบแทนสูงเสียอีก

“ถ้าอย่างนั้น ไว้ลูกได้เงินแล้วจะเอามารวมกับของท่านพ่อ เราจะได้มีเงินพอซื้อเนื้อวัวให้ท่านกินบ้าง”

ความใสซื่อของนาง ช่างสมกับเป็นเด็กห้าขวบจริง ๆ

“เด็กดี” ลูอิสชม ยื่นมือลูบศีรษะเล็กเบา ๆ

“จริงสิท่านพ่อ วันนี้ลูกไปถูพื้นที่ชั้นสาม เจอของน่าสนใจด้วยเจ้าค่ะ”

“หืม?”

แต่พอนางบอก มือใหญ่ก็ชะงักไปทันที

“ลูกเจออะไร” น้ำเสียงของลูอิสเคร่งเครียด แววตาของเขาฉายความหวั่นใจเล็กน้อย

ลีน่ามองออกว่าพ่อดูไม่พอใจ นางถึงได้พูดตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“โลงศพเจ้าค่ะ”

และนั่นคงเป็นคำตอบที่พ่อไม่อยากได้ยินเท่าไร ส้อมในมือถึงกับร่วงผล็อยกระทบจาน เหมือนกล้ามเนื้อเขาอ่อนแรงขึ้นมาฉับพลัน

เป็นเรื่องแล้ว..