ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล - บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม

รายละเอียด

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

ผู้แต่ง

PinkyPaw

เรื่องย่อ

คำโปรย

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก

แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็

บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

หลังจากลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ปี ‘ลีน่า’ บังเอิญพบราชาปีศาจผู้เป็นอมตะ ‘อัมบรูส’ 

นางสมควรกลัวเขา สมควรรังเกียจและผลักไส ไปให้ไกลจากเขา

ทว่าเพราะเวทมนตร์ โชคชะตา และความหลงใหล ทำให้นางไม่อาจต่อต้านอำนาจรัก

ต่อให้รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกต้องห้าม หรือต่อให้เขาจะทำเรื่องโหดร้ายขนาดไหน 

แต่..ใจมันก็อดประหวัดถึงคนผู้นั้นไม่ได้จริง ๆ

...

คุยกับไรท์

สวัสดีทุกท่านค่ะ

ก่อนกดเข้าไปอ่าน เราอยากชวนคุยสักนิด ชี้แจงสักหน่อย 

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เราเขียนตอนที่รู้สึกคิดถึงอารมณ์รักโรแมนติก เหมือนตอนที่หัดเขียนนิยายเรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน 

ตอนนั้นเราเขียนด้วยความอยากปลดปล่อยจินตนาการตามประสาเด็ก ซึ่งรู้ว่าถึงพยายามยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางกลับไปมีความรู้สึกอันน่าคิดถึงแบบนั้นได้

แต่สุดท้ายก็แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา ถึงเป็นแนวเรียบง่าย เล่นกับความรักสุด classic ที่มีความแฟนตาซีแต่ไม่หวือหวา กระนั้นก็ยังพอเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปนานได้บ้าง

หวังใจว่าจะมีรี้ดสักคนที่หลงรักนิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกับเรา และหวังว่านิยายเรื่องนี้จะช่วยเป็นความผ่อนคลายของใครได้นะคะ

ปล. นิยายเรื่องนี้มี e-book แน่นอนค่ะ ไว้เปิดขายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีนะคะ

...

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ทั้งการฆ่า และการกระทำโหดร้ายทารุณอื่น ๆ ของตัวละคร 

ทั้งนี้ ผู้แต่งไม่มีเจตนาพาดพิงถึงเรื่องความเชื่อตามศาสนาใดทั้งสิ้น และไม่ได้อิงหลักกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของสังคมยุคไหนอย่างเฉพาะเจาะจง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากจินตนาการเพียงเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

...

นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

...

ช่องทางติดตามไรท์

tiktok : @itspinkypaw

X : @itspinkypaw

สารบัญ

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 0 แด่ท่าน,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 1 ข้าพบเจ้าแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 2 ท่านพ่อเข้มงวด กับเจ้านายใจดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 5 ลูกบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 6 พ่อบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 7 มอร์ทิส

เนื้อหา

บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด

ความเงียบคั่นบทสนทนายาวนานเท่าไรไม่ทราบ

ในที่สุด ลูอิสก็เอ่ยคำถามเสียงเข้ม

“ลูกเปิดฝาโลงออกหรือไม่”

“อื้อ” เด็กน้อยพยักหน้ารับ ไม่กล้าโกหก “ข้างในมีผู้ชายคนหนึ่ง เขาดูดีมาก ดูดีจนลูกอยากรู้ว่าเขาเป็นใครเลยเจ้าค่ะ”

ฟังอย่างนั้น ลูอิสถึงกับเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนล้า

ความใคร่รู้ของเด็กวัยนี้จะไม่หายไปหากไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน เรื่องนี้เขาก็พอจะเข้าใจ

แต่ที่น่ารำคาญคือ.. ทำไมถึงได้ซนขนาดนี้!

“พ่อผิดเองที่ไม่ได้บอกแต่แรก”

เขาเอามือลูบหน้าลูบตา ไม่รู้จะว่าอย่างไรต่อเลย

ขณะนั้น ลีน่าเพียงจ้องมองตาแป๋ว

“แล้วสรุปว่าเขาเป็นใครหรือเจ้าคะ”

“เขา…คือท่านอัมบรูส เจ้าของปราสาทนี้เองแหละ”

ลูอิสคงจนใจ หากไม่ให้คำตอบ เดี๋ยววันหนึ่งเด็กคนนี้คงหาเรื่องนำภัยมาให้อีก

“นายท่านชอบนอนในโลงหรือ?” เด็กน้อยขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “เขามีรสนิยมอย่างนั้นเอง”

“เดี๋ยว ๆ รสนิยมอย่างนั้นคืออย่างไหน ลูกคงไม่คิดอะไรแปลก ๆ ใช่หรือไม่”

ผู้เป็นพ่อต้องรีบหยุดไว้ ก่อนจินตนาการของเด็กน้อยจะไหลไปไกลกว่าเดิม

“ก็รสนิยมชอบเลียนแบบศพอย่างไรล่ะเจ้าคะ” ลีน่าว่า กอดอกครุ่นคิดเลียนแบบพวกผู้ใหญ่ “แทนที่จะบอกว่าข้าแปลก ต้องบอกว่านายท่านนั่นแหละที่แปลก”

“ไปกันใหญ่แล้ว”

ลูอิสแทบจะเอาหัวทุ่มโต๊ะ รู้สึกปวดหนึบที่ขมับทั้งสองข้างจนต้องเอามือกุมไว้

แต่ช่างเถอะ ก็ยังดีกว่ารู้ความจริง

“นายท่านเป็นโรคแพ้แสง นอนเตียงธรรมดาไม่ได้ และต้องใช้ชีวิตเฉพาะตอนกลางคืน”

เขาว่าไป ลีน่าถึงเปลี่ยนมาเบิกตาโต “เป็นอย่างนั้นเอง ลูกผิดไปแล้วที่ว่านายท่าน”

ทำไมสีหน้าของมนุษย์ถึงเปลี่ยนเร็วนัก หรือมันเป็นแค่กับเด็กคนนี้กันนะ

ลูอิสเริ่มจะสงสัยขึ้นมาบ้าง แต่เพียงไม่นานก็ละทิ้งไป 

“ห้ามเข้าไปเล่นซนในห้องนั้นอีก นายท่านไม่ชอบให้ใครรบกวน”

เขากำชับ ลูกสาวคนดีก็ไม่กล้าขัด “ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

รับทราบ.. แต่ไม่ทราบจะทำตามได้หรือไม่

วันรุ่งขึ้น ลีน่าถึงได้ถือไม้ถูพื้นกับถังน้ำ เดินขึ้นชั้นสามมาอีก

“ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้”

ลูอิสคงมีลางสังหรณ์แม่นยำเกินไป เขาถึงได้ขึ้นมาดักรอ

แล้วก็ต้องทำหน้าเข้ม แผ่รังสีอำมหิตขู่ขวัญเด็กน้อย “ทำไมไม่เชื่อฟังพ่อ”

“ลูกเปล่าไม่เชื่อฟังนะเจ้าคะ” ลีน่ารีบแก้ตัว “แค่ไม่อยากให้หน้าห้องของนายท่านมีฝุ่นเขรอะสกปรก กลัวนายท่านจะเป็นภูมิแพ้”

“ไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลยเจ้าเด็กดื้อ”

คนขายาวก้าวเข้ามาเร็วดุจสายลมกระโชก วูบเดียวก็คว้าร่างเล็กขึ้นมาอุ้มในท่าแบกกระสอบข้าวสาร

“เปล่าสักหน่อย! ท่านพ่อใส่ร้ายชัด ๆ ปล่อยลูกนะท่านพ่อ!!”

แต่เด็กคนนี้ฤทธิ์น้อยเสียเมื่อไร นางทั้งดีดทั้งดิ้น ทำเอาลูอิสลำบากยื้อยุดอยู่นาน

ก่อนที่ทั้งคู่จะต้องหยุดลงพร้อมกัน เมื่อมีเสียงเปิดประตูคั่นกลางในจังหวะนั้น

“จะเอะอะกันอีกนานหรือไม่”

เสียงเย็นแหบแห้งนั้นเป็นของคนในโลงที่ไม่อาจนอนอย่างเป็นสุข 

เมื่อได้เห็นร่างสูงซึ่งเมื่อวานจินตนาการถึงการได้พบเขายามตื่นจากฝัน ลีน่าก็เข้าใจได้ทันที ว่าอย่างไหนถึงสมควรเรียก ‘บุรุษรูปงาม’  

ถึงเสื้อผ้าของเขาจะเป็นเพียงชุดนอนแขนยาวสีขาวเรียบง่าย กับกางเกงสีดำธรรมดา แต่นี่ก็ไม่อาจลดทอนเสน่ห์อันเหลือร้ายได้เลย

และนัยน์ตาสีเงินคู่นั้นก็ช่างตราตรึง ถึงขนาดทำให้เด็กห้าขวบจ้องด้วยความหลงใหลได้ตั้งนานสองนาน

ท่านดูเหมือน..ไม่มีอยู่จริง

“ท่าน..หล่อมาก”

ด้วยความซื่อ ลีน่าเผลอหลุดปากชมอย่างไม่รู้จักคำว่ายางอาย

“เดี๋ยวเถอะ!”

เป็นลูอิสที่ปรามเสียงดังกว่าเก่า ก่อนจะจับให้ลูกสาวคุกเข่าลงกับพื้น “เจ้าเด็กแก่แดดเอ๊ย พ่อสอนให้ลูกเป็นคนไม่รู้จักมารยาทเช่นนี้หรือ ขอโทษนายท่านเดี๋ยวนี้”

“ลูกอาจเสียมารยาท แต่คำชมที่ลูกมีให้นายท่านมาจากความจริงใจ..โอ๊ย!”

ก่อนที่นางจะพูดไปมากกว่านี้ ลูอิสก็จัดการเขกกะโหลกไปหนึ่งทีเป็นการลงโทษ

สองพ่อลูก คนหนึ่งเจ้าระเบียบ อีกคนชอบแหกกฎ นี่นับเป็นคู่ปรับที่เหมาะสมกันจริง ๆ

ขณะนั้น อัมบรูสมองพวกเขา นิ่งงันไร้คำพูด เพียงไล่สายตาไปยังเด็กที่ตอนนี้ถูกบังคับให้ก้มหัวอยู่แทบเท้า

“ทำไมใส่ชุดแม่บ้าน?”

คำถามนี้เขาส่งไปให้ลูอิส โดยที่สายตายังไม่ละไปจากที่เดิม

“เอ่อ…ก็นางเป็นลูกสาวข้า” ลูอิสตอบตะกุกตะกัก 

เขาคงกลัวว่าเจ้านายจะระเบิดความโกรธเกรี้ยว จากการถูกปลุกในยามสมควรนอนเช่นนี้

โชคดีที่ปราสาทแมฮ์โลตั้งอยู่ในจุดอับแสง รอบด้านทุกทิศล้อมด้วยป่าเขาต้นไม้ขึ้นรกครึ้ม 

ยิ่งเป็นบริเวณชั้นสามแห่งนี้ ซึ่งถูกออกแบบให้แทบไม่มีหน้าต่าง ก็ยิ่งไม่ต้องถามหาความสว่างไสวใด ๆ ถึงไม่ใช่ยามราตรี อัมบรูสก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว

แต่กระนั้นก็เถอะ ผู้ไวต่อแสงก็ยังรู้สึกอ่อนกำลังท่ามกลางทิวากาลอยู่ดี

อึก..

ลูอิสเผลอกลืนน้ำลายเสียงดังทีเดียว เพราะความเงียบนี้ทำให้รู้สึกอึดอัดขึ้นทุกขณะที่เวลาเดินไป

นายท่านหนอนายท่าน จะว่าอะไรสักหน่อยก็ไม่ได้ ลูอิสคนนี้ยินดีโดนบาทหลวงสวดมนต์ชำระล้างเสีย ดีกว่าโดนท่านเข่นฆ่าด้วยสายตาเช่นนี้

ในใจหัวหน้าพ่อบ้านร่ำร้อง แต่ภายนอกเขายืนตัวแข็งทื่อราวกับรูปปั้น

เจ้านายเองก็เช่นกัน เขายืนทื่ออยู่นาน มีเพียงแพขนตาสีขาวดั่งปีกผีเสื้อที่ขยับอย่างเชื่องช้า

“มองข้าสิเด็กน้อย”

เขาสั่ง ลีน่าก็ทำตามอย่างว่าง่าย นางยืนขึ้นเต็มความสูงบ้าง แม้จะสูงอยู่แค่ระดับหน้าขาของชายหนุ่มก็ตาม

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”

“ท่านคือท่านอัมบรูส แมฮ์โล เป็นเจ้านายใจดีของท่านพ่อ แล้วก็เป็นเจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวยเจ้าค่ะ”

คำตอบฉะฉานนั้นมาจากการสูญเสียความทรงจำ

หากนางนึกเรื่องก่อนหน้านี้ออก คงไม่มองเขาด้วยแววตาเช่นนี้ และคงไม่คิดจะกล่าวชื่นชมเขาเช่นนี้

อัมบรูสยังยืนนิ่งต่อไปอีกครู่ สุดท้ายก็มีรอยยิ้มที่มุมปากเพียงชั่วสั้น ๆ

“ถึงหน้าตาจะมอมแมมไปสักหน่อย แต่เด็กฉลาดขนาดนี้ ไม่สมควรใส่ชุดคนทำความสะอาดหรอกนะลูอิส”

อ้าว..ที่โกรธ ไม่ใช่เรื่องถูกปลุกหรอกหรือ?

ลูอิสรู้ตัวช้าไปนิด แต่ไม่สายที่เขาจะรีบตอบรับอย่างเห็นดีเห็นงาม

“นายท่านกล่าวถูกแล้ว”

เขาค้อมกายลงต่ำ โดยที่ลีน่าได้เพียงมอง ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่สองคนหมายถึงอะไร

แต่นายท่านชมข้าด้วย…แสดงว่าข้าเป็นเด็กดีใช่หรือไม่