วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ยวิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!
เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!
วิทยานั่งปั่นงานจนดึก กว่าจะตรวจทานและอัปโหลดงานเรียบร้อยก็เกือบเช้า ส่งทันอย่างเฉียดฉิว รุ่งเช้าเขาพยายามตื่นมาช่วยงานบ้าน แต่ยายวากะยืนยันให้เขาไปนอนพัก ชายหนุ่มหลับไปได้สองสามชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมา เขาอยากดื่มกาแฟตามความเคยชิน แต่ในเกมนี้จะมีกาแฟให้ดื่มหรือเปล่านะ
“มีสิ” ยายวากะเดินไปหยิบเมล็ดกาแฟคั่วที่บดเรียบร้อยมาให้ดู ส่งกลิ่นหอมอบอวลแม้จะยังไม่ได้ทำอะไร “เพิ่งบดเมื่อเช้านี้เอง ยายก็ต้องดื่มกาแฟเหมือนกัน”
ที่หมู่บ้านแห่งนี้จะใช้วิธีดริปในการดื่มกาแฟ คือการตักกาแฟคั่วบดลงไปบนกระดาษกรองแล้วรินน้ำร้อนให้ผ่านกระดาษกรองลงมาที่แก้วเบื้องล่าง
“รสชาติเยี่ยม” เขาอุทาน แทบจะไม่ผิดไปจากยี่ห้อประจำที่เขาคุ้นชิน
“ขอบคุณครับ”
มีอีเมลงานเข้ามาอีก เขาเปิดดู เป็นงานด่วนที่ต้องส่งภายในวันนี้ แต่มีปริมาณงานไม่มากนัก ไม่เกินชั่วโมงก็น่าจะทำเสร็จ วิทยาเลยคิดว่าจะนั่งคุยกับคุณยายต่ออีกสักหน่อย เขาถามถึงเรื่องราวของเกมนี้ให้ยายวากะอธิบาย ซึ่งคุณยายก็ได้เล่าไว้ดังนี้
โลกของเกม Alterwind นั้นจะประกอบไปด้วยสามทวีปใหญ่ที่มีเขตแดนระหว่างทวีปเป็นภูเขาสูง และมีอีกทวีปเล็กอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมหาสมุทรกั้นไว้ แต่ละทวีปจะมีเพียงประเทศเดียวที่มีชื่อเดียวกับทวีปนั้นๆ ประกอบด้วย
ทวีปไซฟาส มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย อยู่ทางตะวันตก ผู้ปกครองเป็นสภาที่เลือกตั้งมาจากประชาชน มีเมืองหลวงชื่อซลิฟิส ทวีปไซฟาสจะมีจุดเด่นด้านการค้าขายแลกเปลี่ยน
ทวีปอูรูล มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่า อยู่ทางตอนใต้ของทวีปลิโอเซน ผู้ปกครองคือราชาอารักษ์ หมู่บ้านบาร์คอมบ์อยู่ในทวีปนี้ เมืองหลวงคือยูเฟเรีย ทวีปอูรูลมีสินค้าส่งออกเป็นสินค้าเกษตรและอาหาร นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้านวัฒนธรรมการเต้นรำและการแสดงต่างๆ
ทวีปลิโอเซน มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหิมะ อยู่ทางตอนเหนือสุด ผู้ปกครองคือเจเรน็อกซ์ มีเมืองหลวงชื่อไซรอน ทวีปลิโอเซนเป็นทวีปปิดที่ไม่ค่อยมีข่าวสารออกมามากนัก ทว่ามีสินค้าส่งออกคือพลังงานเชื้อเพลิงที่ยานพาหนะส่วนใหญ่ของโลกต้องใช้
ส่วนทวีปขนาดเล็กนั้นมีนามว่า 0001 ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นทวีปที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสูงสุด ถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์จักรกล พวกเขาส่งออกอุปกรณ์ไฮเทค ทวีป 0001 ไม่มีผู้ปกครองที่ชัดเจน
ในปัจจุบันไม่มีความขัดแย้งของทวีปต่างๆ ชัดเจนนัก อาจมีความระหองระแหงเล็กๆ น้อยๆ บ้าง แต่ปัญหาใหญ่ที่ผู้คนใน Alterwind ต้องเผชิญ คือประตูต่างมิติที่จะพามอนสเตอร์ดุร้ายเข้ามา เมื่อบวกกับสัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ที่นี่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่ใน Alterwind เป็นสถานที่อันตราย และหลายครั้งมอนสเตอร์ที่ผ่านประตูมิติ (หรือที่เรียกกันว่า “พอร์ทัล”) เข้ามาก็มีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ หรืออาจจะมากกว่า ด้วยเหตุนี้ชาว Alterwind จึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันขจัดภัยคุกคามเหล่านี้อยู่เสมอ รวมถึงเหล่านักผจญภัยต่างมิติที่มักจะเรียกตัวเองว่า เพลเยอร์ ด้วย
ถ้าอย่างนั้น เราเองก็น่าจะเข้ามาทางประตูมิติที่ว่านี้หรือเปล่า ไม่มั้ง ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าพวกมอนสเตอร์คือสิ่งที่มีอยู่จริงอย่างนั้นเหรอ ไม่น่าเป็นไปได้
“เมื่อกี้คุณยายพูดถึงเพลเยอร์ ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นเพลเยอร์เลยครับ”
“พวกเพลเยอร์ไม่ค่อยชอบมาที่นี่หรอก หีบสมบัติก็ไม่ค่อยมีให้พวกเขา มอนสเตอร์ก็ไม่ค่อยเก่งนัก เป็นเพราะพวกนักบวชกับท่านเทพคอยปกป้อง สัตว์ประหลาดต่างมิติถึงเข้ามาที่นี่ไม่ได้ เลยมีแต่สัตว์ป่าธรรมดา ยายก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพวกเขาไม่ค่อยชอบกัน”
ยายวากะพักจิบกาแฟนิดหน่อยก่อนพูดต่อ “แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเพลเยอร์คนหนึ่งที่ชอบมาที่นี่บ่อยๆ ตอนนี้หายหน้าไปสักพักแล้ว ยายว่าไม่นานพ่อหนุ่มก็จะได้เจอเขา”
หรือว่าเราจะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางกับเขาแล้ว วิทยาคิด เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยที่จะได้ทำอะไรที่เหมือนกับการเล่นเกมบ้าง แม้จะรู้ว่าต้องหาทางกลับบ้านเป็นอย่างแรกก็ตาม
ทันใดนั้นเสียงแอปส่งข้อความก็ดังขึ้น ประสิทธิ์โทรเข้ามานั่นเอง
“พอมีเวลาจะทำเควสต์เปิดเกมหรือยัง ถ้าไม่ทำแกจะใช้พวกสกิลไม่ได้นะ เดี๋ยวต้องออกเดินทางแล้วจะอยู่ลำบาก”
“เร็วหน่อยนะพี่ ผมต้องส่งงานก่อนบ่ายสอง”
“ตอนนี้กี่โมงนะ สิบเอ็ดโมง ไม่เกินบ่ายโมงน่าจะเสร็จมั้ง”
“ตอนนี้แกเข้าไปดูชื่อเซิร์ฟเวอร์ที่หน้าโปรไฟล์ มันจะมีบอกอยู่”
“เซิร์ฟเอเชียน่ะ”
“ว่าละ ฉันอยู่เซิร์ฟอเมริกา แต่เดี๋ยวจะเอา ID รองที่เซิร์ฟเอเชียเข้าไป”
“ไหนว่างานเยอะ เอาเวลาที่ไหนมาเล่นเกมแถมยังมี ID รอง แล้วสิบเอ็ดโมงเล่นเกมไม่ต้องดูร้านเหรอ”
“ไม่ต้องๆ วันนี้จ้างเด็กมาช่วย สบายหน่อย ฉันอยู่ที่โรงแรม”
…….
ร่างกายของประสิทธิ์ในเกมเป็นเด็กหญิงอายุประมาณสิบปี สวมชุดกระโปรงสีขาว สวมหมวกเบเร่ต์ และถือคทาสั้นที่มีอัญมณีทรงกลมติดอยู่ที่ปลาย
“มองอะไรเล่า” เขาถามอย่างฉุนๆ เสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นเสียงสาวน้อยด้วย
“ID รองฉันเป็นฮีลเลอร์ไง แกจะได้ไม่ตาย”
“อมยิ้มอะไรอีกเล่า ไปขึ้นรถ”
“ขับไปที่อารามที่แกไปทำบททดสอบนะ เควสต์คือแกจะต้องไปผ่านดันเจี้ยนในห้องๆ นึงของอาราม ปราบบอสง่ายๆ ตัวนึงก็ผ่านแล้ว ก็จะใช้สกิลพื้นฐานได้”
“ถ้าจำไม่ผิดตอนเปิดแอคเคาท์จะได้อาวุธเริ่มต้นมา เป็นมีดมั้ง เรียกออกมาซิ” วิทยาทำตามอย่างว่าง่าย
“ดีมาก ตอนนี้เก็บไปก่อน ถือตอนนั่งรถมันอันตราย”
“ท่าทางของเด็กผู้หญิงที่สั่งโน่นสั่งนี่นี่มันดูแก่แดดดีจังนะ” วิทยาหัวเราะไม่หยุด
“ถ้าแกแซวอีกฉันจะเอาคทาเคาะหัวแก”
คนเป็นน้องกลั้นขำอย่างสุดชีวิต
…….
ลูเช่กำลังกวาดใบไม้อยู่หน้าอารามขณะที่พวกเขาไปถึง
“ลืมอะไรเหรอ” นักบวชหนุ่มถามงงๆ ก่อนที่ประสิทธิ์จะอธิบายสาเหตุที่มา
“อ๋อ จะมาเข้ารับการทดสอบจุดเริ่มต้น ทั้งสองคนเดินตามมา เดี๋ยวฉันจะพาไปที่ห้องรับการทดสอบ”
ห้องนั้นดูเรียบง่าย ลูเช่ไขกุญแจดอกใหญ่เพื่อเปิดมัน
“ไม่มีใครมาเข้ารับการทดสอบที่นี่นานแล้ว ส่วนใหญ่พวกเพลเยอร์จะไปที่อารามใกล้ๆ ยูเฟเรีย” เขาบอกเรียบๆ “ทั้งสองคนเตรียมอาวุธให้พร้อมนะ”
เมื่อเข้ามาในห้องรับการทดสอบ มันเปลี่ยนเป็นอีกมิติหนึ่งที่มีทางเดินเป็นแผ่นหินยาวไกล สองข้างทางมีต้นไม้ขึ้นอยู่เป็นระยะๆ
“ตอนนี้จะเป็นช่วงเดินรอโหลดวัตถุ มีอะไรจะถามหรือเปล่า” ประสิทธิ์พูดขึ้นด้วยเสียงสาวน้อยของเขา
“พี่มีชื่อในเกมหรือเปล่า ที่ไม่ใช่ประสิทธิ์น่ะ”
“มี แต่ฉันจะไม่บอกแก”
“อะ ต่อไปมันจะมีหมัดมาต่อยแกจากผนังทั้งสามด้าน แกต้องหลบให้ถูก ไม่งั้นจะตกลงไปในเหว ต้องกลับมาเริ่มใหม่ เดี๋ยวมันจะขึ้นนับถอยหลัง 3 2 1 ไปเลย”
ปกติแล้ววิทยาไม่ค่อยมีทักษะทางกายที่ดีนัก แม้จะเป็นในเกมที่เขามีร่างกายแข็งแรงกว่าโลกจริง เขาก็ยังควบคุมร่างกายตนเองไม่ค่อยจะถนัด แต่ด้วยความช่วยเหลือของประสิทธิ์ที่คอยบอกว่าต้องหลบตอนไหน ทั้งผลักทั้งดึงจนชายหนุ่มจึงผ่านขั้นตอนนี้มาได้อย่างทุลักทุเล
“แฮ่กๆ” เขาหอบ “ไม่นึกว่าจะเหนื่อยขนาดนี้”
“อย่าเพิ่งหอบ ต้องไปต่ออีก”
เบื้องหน้าของพวกเขาเป็นทางน้ำยาวเหยียด มองลงไปเห็นเหรียญสีทองลอยอยู่ตามจุดต่างๆ
“แกต้องลงไปเก็บให้ได้อย่างน้อย 50 เหรียญ”
วิทยาถอนหายใจ
“พักก่อนไม่ได้เหรอ ยังเหนื่อยอยู่เลย”
“ก็ได้ประมาณนาทีหนึ่งมั้ง เดี๋ยวกำแพงหนามก็จะไล่บี้แกมา”
ไม่ทันขาดคำก็มีเสียงครืนดังมาจากด้านหลัง กำแพงหินที่เต็มไปด้วยหนามเหล็กซึ่งดูจะหนัก กลับเคลื่อนที่ได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองคนต้องรีบกระโดดลงไปในน้ำ
ลำพังเคลื่อนไหวอยู่บนบกก็ลำบากจะแย่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการดำผุดดำว่ายเก็บเหรียญในน้ำ แม้จะได้เวทมนตร์จากสาวน้อยที่เป็นพี่ชาย แต่ก็เล่นเอาวิทยาเหน็ดเหนื่อยแทบจะสิ้นสติ เมื่อครบห้าสิบเหรียญเขารีบขึ้นมานั่งหอบหายใจที่ปลายทางน้ำ
“ไม่เห็นมีมอนสเตอร์เลยมาตั้งไกล” เขาเอ่ย เสื้อผ้าแห้งอย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์
“อยากเจอต้องได้เจอ” ประสิทธิ์กลั้นหัวเราะพร้อมกระชับคทาในมืออย่างมั่นคง วิทยาจับมีดเริ่มต้นเกมไว้แน่น พวกเขาได้พบกับอสูรหน้าตาเหมือนรูปร่างเรขาคณิต มันมีทั้งรูปแบบลูกบาศก์ สามเหลี่ยม ทรงกลม และทรงกระบอก ทั้งหมดมีปากที่เต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ท่าทางดุร้ายพร้อมงับทุกคนที่เข้าใกล้
“ลุยเลย!” สิ้นเสียงพี่ชาย วิทยาก็พยายามต่อสู้กับอสูรเรขาคณิตทั้งๆ ที่ร่างกายสั่นด้วยความกลัว เขายังไม่หายเหนื่อยจากการใช้แรงต่อสู้กับด่านที่ผ่านมา และยังต้องใช้มีดเล็กๆ ที่แทบจะไม่ช่วยอะไรสู้กับมันอีก
“แกไม่ตายหรอก” คทาเรืองแสงวาบ “ฉันแจกให้แกทั้งบัพทั้งฮีล”
“แต่โดนกัดมันก็เจ็บนะ” เขาตะโกนตอบ เจ็บจนน้ำตาคลอ ใช้มีดฟันไปมั่วๆ ถ้าใครมาเห็นคงดูไม่ใกล้เคียงกับผู้กล้าในตำนานแม้แต่น้อย
ในที่สุดก็จัดการพวกอสูรได้แล้ว นั่นทำให้บอสปรากฏตัวขึ้น มันคือก้อนลูกบาศก์ที่มีหนามแหลมอยู่รอบทิศทาง และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แม้วิทยาจะได้บัพความเร็วจากประสิทธิ์มาแล้วแต่ก็พลาดถูกโจมตีหลายครั้ง หากเป็นชีวิตจริงก็อาจสิ้นลมไปแล้ว แต่เพราะได้รับการฮีลอย่างต่อเนื่องถึงต่อสู้จนปราบบอสได้อย่างทุลักทุเล
เมื่อบอสหายไปก็ปรากฏประตูทางออกเบื้องหน้า บาดแผลต่างๆ ของวิทยาเริ่มหายไปตามผลของเวทมนตร์รักษา คราบเลือดบนเสื้อผ้าก็เริ่มจางลงเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีหีบสมบัติให้เป็นรางวัลด้วย มีเสื้อผ้าชุดใหม่กับอาวุธที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย และเงินในเกมปริมาณไม่มาก
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาถามพี่ชาย ทั้งที่ตัวเองก็เรียกหน้าจอในเกมมาดูได้ตลอด
“เฮ้ย จะบ่ายสองแล้ว?!”
“ไหนบอกว่าไม่นานไง!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างโมโห รีบคว้ากุญแจรถวิ่งออกไปทันที สวนกับลูเช่ที่เพิ่งจะทำเครื่องดื่มฟื้นกำลังมาให้ ประสิทธิ์หันไปหัวเราะแหะๆ
“แล้วกลับมารับสกิลด้วยล่ะ” นักบวชตะโกนไล่หลัง เขาไม่เคยเจอเพลเยอร์แบบนี้มาก่อนเลย