วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย - 7 บริการนอกอาณาเขต โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล

รายละเอียด

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย

ผู้แต่ง

ราชาวาฬ

เรื่องย่อ

วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!

เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!

สารบัญ

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-1 ที่ต่างโลกมีอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-2 Nomad Setup,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-3 เร็วหน่อยนะพี่ ผมต้องส่งงานก่อนบ่ายสอง,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-4 ทีมดี งานก็เดิน,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-5 การแปลมีไว้เพื่อให้สื่อถึงกัน,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-6 ไม่มีใครควรทำงานฟรี,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-7 บริการนอกอาณาเขต,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-8 พัฒนา เพิ่มความสามารถ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-9 มังกรศิลา,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-10 ความตายครั้งแรก,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-11 อีกทางเลือกของธุรกิจ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-12 เริ่มต้นธุรกิจ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-13 Startup,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-14 อาวุธใหม่

เนื้อหา

7 บริการนอกอาณาเขต

 

 

ไม่ต้องห่วงพวกข้าหรอก ถึงไม่มีเรื่องวันนี้เจ้าเซิร์ดมันก็หาเรื่องคนไปตลอดนั่นแหละ ดาร์สบอกเมื่อวิทยาถามด้วยความเป็นห่วง พวกเจ้าไปผจญภัยให้สบายใจเถอะ

 

ว่าแต่มันค่อนข้างแปลกนะที่เจ้าพูดภาษาของพวกข้าได้ ข้าไม่เคยเจอเพลเยอร์แบบเจ้ามาก่อนเลย

 

“ผมก็เพิ่งทำได้เมื่อเร็วๆ นี้แหละครับ” วิทยาตอบเขินๆ พร้อมเอื้อมมือเกาที่หลังคอไปด้วย

 

ถ้ามีคนสื่อสารกับพวกเราได้ ไม่แน่ว่าเพลเยอร์กับพวกเราก็อาจจะอยู่ร่วมกันได้ดีกว่านี้

 

นักแปลหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เพลเยอร์ที่เข้ามาเล่นในเกมก็ต้องทำร้ายมอนสเตอร์เป็นเรื่องปกติ เพื่อหาไอเท็มและค่าประสบการณ์ต่างๆ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็นึกถึงเกมที่เคยเล่นสมัยก่อน เกมนั้นหากไม่ทำร้ายมอนสเตอร์เลยและเล่นไปจนจบได้ จะมีเรื่องราวอีกแบบที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่เขาไม่แน่ใจว่า Alterwind จะทำแบบนั้นได้หรือเปล่า อย่างเรื่องไอเท็ม ถ้าไม่ได้วินด์คริสตัลในวันนี้ เขากับน้ำก็อาจจะต้องแพ้ให้กับพวกเซิร์ดก็ได้

 

หลังจากที่ใช้สกิลตั้งแคมป์และคราฟต์ไอเท็มต่างๆ ที่จำเป็นในถ้ำแล้ว เพลเยอร์ทั้งสองก็นอนพักผ่อนจนรุ่งเช้าจึงได้บอกลาดาร์สเพื่อเดินทางต่อ ก่อนออกเดินทางวิทยาเช็คอีเมลอีกครั้ง ไม่มีงานใหม่เข้ามา ทำให้เขาออกเดินทางได้อย่างสบายใจ

 

“ก่อนหน้านี้ผมชอบทำงานแต่ที่บ้าน ไม่นึกว่าการได้มาทำงานในที่ต่างๆ แม้แต่ในป่าก็สนุกไปอีกแบบ” เขาพูดกับวารินขณะก้าวเดินกันไปในป่า ขณะนี้ไม่มีมอนสเตอร์หรือสัตว์ป่ามากนัก

 

“ฉันว่าคุณคงเป็นพวกชอบความแน่นอน เหมือนแฟนเก่าฉันน่ะค่ะ แต่เราเลิกกันไปแล้วเพราะเขาไม่ยอมอะไรสักอย่าง” น้ำเล่าอย่างสบายๆ วิทยาเดาว่าคงเป็นเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นนานมาแล้ว

 

“เดี๋ยวนี้คนทำงานเป็นดิจิตอลโนแมด (นักพเนจร ทำงานดิจิตอล) กันเยอะ ทำงานผ่านเน็ตจะทำที่ไหนก็ได้แล้ว แต่คุณนี่ถือได้ว่าสุดยอดเลยนะคะ เพราะทำงานจากในเกมเลย” น้ำหัวเราะคิกคัก

 

“ทำงานจากในเกม ใช้ชีวิตอยู่ในเกม เวลาคุณน้ำหรืออายูมิล็อกเอาต์ออกไปผมก็เหงาเหมือนกันนะครับ เพราะผมล็อกเอาต์ไม่ได้ แถมผมก็ไม่ได้สู้เก่งอะไร บางทีก็กลัวเหมือนกันถ้ามีพวกมอนมา” วิทยาพูดอย่างน่าสงสาร “แล้วอีกอย่าง ถึงจะยังคุยกับพวกเพื่อนในโลกจริงได้ แต่ไปหา ไปนัดกินข้าวดูหนังกันไม่ได้ผมก็เซ็งเหมือนกัน”

 

“นั่นสินะคะ น้ำหวังว่าคุณจะได้กลับบ้านเร็วๆ นะ” วิทยาพยักหน้า ทั้งสองก้าวเดินไปต่ออีกระยะโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก

 

“เฮ้อ ยูเฟเรียนี่มันไกลจริงๆ น้า” ในที่สุดน้ำก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“แต่เราก็มาได้ประมาณหนึ่งในสามแล้วนะครับ” วิทยาตอบ เขาเปิดแผนที่ในเกมดูไปด้วย “เดี๋ยวจะมีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ นี้ หรือเราจะแวะพักที่นั่นกันก่อน”

 

“ก็ดีนะคะ เบื่อตั้งแคมป์เหมือนกัน” น้ำเห็นด้วย

 

หมู่บ้านนี้มีชื่อว่าเคลด์ ถึงแม้เมื่อดูในแผนที่จะดูไม่ไกลนัก แต่เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่บนเนินเขา การเดินขึ้นไปจึงทำให้รู้สึกเหนื่อยใช่เล่น ในโลกแห่งความเป็นจริงน้ำมีงานอดิเรกเป็นการเล่นกีฬาต่างๆ รวมถึงการวิ่งเทรล (วิ่งในแหล่งธรรมชาติ เช่น ป่า ภูเขา ฯลฯ) จึงทำให้เธอไม่เหนื่อยมากนัก ตรงกันข้ามกับวิทยา หญิงสาวต้องหยุดรอเขาบ่อยๆ

 

“ใกล้จะถึงแล้วค่ะ” น้ำให้กำลังใจอย่างร่าเริง มือขวาชี้ไปยังแสงไฟจากหมู่บ้าน

 

“คุณน้ำบอกว่าใกล้มาสามครั้งแล้ว” วิทยาใช้มือปาดเหงื่อบนใบหน้า เกมนี้จะสมจริงไปถึงไหน ไม่ต้องทำความรู้สึกเหนื่อยแบบสมจริงมาให้ก็ได้มั้ง

 

“คราวนี้ใกล้จริงๆ แล้วค่า เอ้า เดินต่อ” ไม่รอให้ชายหนุ่มเถียงอีก วารินกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปข้างหน้า วิทยาได้แต่เสียดายที่เขาไม่ค่อยได้ออกกำลังกายในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะดูทิวทัศน์สองข้างทางก็จัดได้ว่าสวยงามดีอยู่

 

อย่างไรก็ตาม อีกสองชั่วโมงต่อมาทั้งสองก็มาถึงหมู่บ้านเคลด์ หลังจากให้วิทยาพักจนหายเหนื่อยและนวดตัวเองเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้ว พวกเขาก็เริ่มเดินสำรวจกัน หมู่บ้านนี้จะมีลานรูปวงกลมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ซึ่งชาวบ้านจะมาตั้งร้านเพื่อขายของต่างๆ ในลานนี้ ตลอดจนมีการแสดงและการละเล่นท้องถิ่น ด้านนอกของลานจะเป็นบ้านของชาวบ้าน ซึ่งมีอยู่ไม่กี่หลัง ในหมู่บ้านนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งก็เหมือนโรงแรมตามเกมทั่วไป เมื่อทั้งสองคนไปจองห้องแล้ว พวกเขาก็ออกมาเดินชมตลาดที่ลานกว้างกันต่อ

 

“เสียงอะไรน่ะ?!” น้ำอุทานเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น มันคือเสียงแก้วแตกและเสียงหวีดร้อง ทั้งสองวิ่งไปที่จุดกำเนิดเสียงนั้น

 

ที่แห่งนั้นคือร้านอาหาร พื้นที่กลางแจ้งมีจานและแก้วตกแตกอยู่ เศษอาหารกระจายไปทั่ว เพลเยอร์ทั้งสองคนมองเห็นสิ่งที่คล้ายหลุมดำแต่มีสีม่วงเข้ม และมีขอบที่ไม่ชัดเจน และมีมอนสเตอร์เดินออกมาจากสิ่งนั้น พวกเขาบอกให้ลูกค้าของร้านอาหารรีบหนีไป

 

“มันคือพอร์ทัลของพวกมอนสเตอร์”* น้ำพูดขึ้น ซึ่งหมายถึงประตูมิติที่พวกมอนสเตอร์จะออกมา “แต่ปกติในพื้นที่อาศัยจะไม่มีพอร์ทัลเกิดขึ้นนี่คะ” สงสัยไปตอนนี้ก็ใช่ที่ น้ำยกปืนพกทั้งสองเล็งยิงไปที่ฝูงมอนสเตอร์ทันที พวกมันต่างพากันล้มตาย เนื่องด้วยเป็นมอนสเตอร์ที่มีระดับไม่สูงนัก

 

“ตอนนี้ยังไม่เป็นไร แต่พวกระดับสูงกว่านี้ออกมาพวกเราคงแย่แน่” น้ำพูดขณะที่วิทยาใช้สกิลแปลภาษาเผื่อพวกมอนสเตอร์จะพูดว่าพวกมันออกมาได้อย่างไร ทว่ามีแต่เสียงขู่คำรามเท่านั้น ในที่สุดเขาก็ตกที่นั่งต้องรับบทสนับสนุนหญิงสาวตามเคย แต่ตอนนี้มีดลมที่เพิ่งได้รับทำให้เขามีฝีมือในการต่อสู้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก

 

“เดือนนี้เกิดเหตุแบบนี้ครั้งที่สองแล้ว” เสียงแหบห้าวดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสองคน เมื่อหันกลับไปดู พวกเขาเห็นชายร่างสูงใหญ่ ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวดำแดง ผมสีแดง เขาสวมเกราะหนังที่เปิดเผยเนื้อหนังส่วนใหญ่ทับบนกางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะหูคีบ ในมือทั้งสองข้างมีขวานสั้นสองคมขนาดใหญ่ ที่คมของขวานเปล่งแสงสีส้มด้วยความร้อน และนั่นคงเป็นพลังจากธาตุไฟ

 

“มันเป็นเพราะเสาเวทย์คุ้มครองน่าจะเสื่อมพลังลงน่ะ” ชายผู้นี้พูดไปด้วยใช้ขวานฟาดฟันไปด้วย พวกมอนสเตอร์ต่างร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด บางตัวกระโจนเข้าโจมตีเขาได้บ้าง แต่ชายร่างใหญ่แทบไม่รู้สึก

 

“เดี๋ยวเราสามคนช่วยกันยันไว้ก่อน นักบวชน่าจะมาถึงเร็วๆ นี้แหละ” แม้จะมีร่างกายที่ใหญ่โต แต่ความเร็วของเขาไม่ได้ด้อยกว่าใคร

 

“อ้อ ผมชื่ออัคคีนะ เรียกสั้น ๆ ว่าเพลิงก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชายหนุ่มนามเพลิงยังใช้ขวานฟันไม่หยุด แม้ว่ามอนสเตอร์จะไม่ได้เก่งอะไร แต่เมื่อพวกมันมีจำนวนมาก เขาก็เริ่มเหนื่อย รวมถึงวิทยากับน้ำด้วย

 

“ไม่หมดซะที” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเหนื่อยล้า ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

 

“ขอโทษพอดีผลึกที่ประจุพลังมันหมด ต้องเสียเวลาทำใหม่”

 

“ลูเช่!” วิทยาอุทาน “มาถึงนี่เลยเรอะ”

 

“นอกอาณาเขตของเทพพฤกษาไปรัศมี 100 กิโลเมตร นักบวชต้องตั้งเสาเวทย์ในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์เข้ามา” เขาถอดผลึกอันเก่าออกและใส่อันใหม่เข้าไป พอร์ทัลก็ดับลง พร้อมกับที่เพลเยอร์ทั้งสามจัดการกับมอนสเตอร์ที่เหลืออยู่จนหมด

 

“ถ้าพ้นรัศมีนี้ไปแล้ว ก็จะเป็นอาณาเขตของเทพองค์อื่นแล้ว ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะจัดการกันยังไง”

 

“พวกเจ้าต้องระวังตัวกันเองแล้ว” กล่าวจบนักบวชหนุ่มก็ใช้ fast travel เดินทางกลับอารามอย่างรวดเร็ว

 

“พวก NPC ใช้ fast travel ได้ด้วยเหรอ” วิทยาถามขึ้น ปกติเกมอื่นๆ ผู้ที่จะใช้ระบบนี้ได้มีแต่เพลเยอร์

“เปล่าๆ มีแต่นักบวชของมหาพฤกษาที่ใช้ได้น่ะ เพราะพวกเขาต้องคอยไปเปลี่ยนแบตเสาเวทย์ สงสัยอันที่แล้วอาจจะประจุพลังมาไม่มาก แบตเลยหมดเร็ว” เพลิงกล่าวติดตลก

 

“ว่าแต่พวกคุณจะไปไหนกัน ผมไม่ค่อยเห็นใครมาที่หมู่บ้านเคลด์เท่าไหร่”

 

“พวกเรากำลังจะไปยูเฟเรีย เพราะผมจะหาทางกลับบ้าน” วิทยาตอบและอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เพลิงฟัง เจ้าตัวทำตาโตอย่างประหลาดใจเมื่อได้รับรู้

 

“มันมีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอครับเนี่ย เหมือนพวกไลท์โนเวลหรือการ์ตูนแนวต่างโลกเลย”

 

“ผมรู้จักคนที่ยูเฟเรียอยู่คนนึง อาจจะพอมีข่าวสารที่จะช่วยคุณได้”

 

ผมก็จะไปที่ยูเฟเรียอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวรุ่งเช้าไปด้วยกันเลย พวกเรามาร่วมปาร์ตี้ชั่วคราวกันไปก่อนดีไหม” ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะตอบอะไร เพลิงก็เรียกหน้าจอขึ้นมากดเพิ่มเพื่อนและเพิ่มสมาชิกปาร์ตี้ให้เสร็จสรรพ ทั้งสองจึงกดตกลง