วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย - 11 อีกทางเลือกของธุรกิจ โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล

รายละเอียด

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย โดย ราชาวาฬ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย

ผู้แต่ง

ราชาวาฬ

เรื่องย่อ

วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!

เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!

สารบัญ

ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-1 ที่ต่างโลกมีอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-2 Nomad Setup,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-3 เร็วหน่อยนะพี่ ผมต้องส่งงานก่อนบ่ายสอง,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-4 ทีมดี งานก็เดิน,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-5 การแปลมีไว้เพื่อให้สื่อถึงกัน,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-6 ไม่มีใครควรทำงานฟรี,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-7 บริการนอกอาณาเขต,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-8 พัฒนา เพิ่มความสามารถ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-9 มังกรศิลา,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-10 ความตายครั้งแรก,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-11 อีกทางเลือกของธุรกิจ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-12 เริ่มต้นธุรกิจ,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-13 Startup,ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ย-14 อาวุธใหม่

เนื้อหา

11 อีกทางเลือกของธุรกิจ

 

 

เมื่อเข้าใกล้เมืองยูเฟเรีย จะเห็นถนนที่ปูด้วยหินที่สกัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างเท่าถนนสองเลนในปัจจุบัน เรียบอย่างไม่น่าเชื่อ อาจจะกล่าวได้ว่าถนนนี้เรียบกว่าถนนของบางประเทศในปัจจุบัน และมียานพาหนะรูปร่างต่างๆ นานา ทั้งรถม้าที่คาดได้ว่าจะพบเห็นในเกมแฟนตาซี รถเทียมสัตว์แฟนตาซี และยานพาหนะรูปร่างประหลาดกว่านั้นอีกมากมายหลายแบบ รวมถึงยวดยานจากทวีป 0001 ที่ดูขัดสายตาเล็กน้อยเพราะมันดูราวกับมาจากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ทว่าไม่มีรถยนต์แบบปัจจุบันเลย ทั้งหมดมีผู้ที่น่าจะมีเลเวลและฐานะดีกว่าปาร์ตี้ของวิทยาเป็นผู้ขับขี่ ที่ไหล่ถนนเป็นทางสำหรับคนเดิน จะมีบาเรียป้องกันไม่ให้ยานพาหนะเข้ามาชนคนเดินถนนได้โดยเด็ดขาด จึงเรียกได้ว่าปลอดภัยมากทีเดียว

 

พวกวิทยาเดินลัดเลาะไปบนถนนตามเนินเขา ถึงแม้ว่าจะใกล้กับยูเฟเรียมากแล้ว แต่สำหรับคนเดินเท้าก็นับว่าไกลมากอยู่ดี พวกเขาเดินไปปะปนกับเพลเยอร์ที่เดินกันพลุกพล่าน แต่งกายในรูปแบบและสีสันต่างๆ ที่ดูแปลกตา ส่วนมอนสเตอร์นั้นไม่สามารถจะเข้ามาในบาเรียทางเท้านี้ได้ ถึงแม้ว่าจะทำให้เลเวลไม่เพิ่ม แต่ก็สบายดี

 

“นี่ก็มองเห็นยูเฟเรียมาได้ราวๆ สองชั่วโมงแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนจะไม่ใกล้ขึ้นเลย” วิทยาเริ่มบ่นหลังจากที่เดินกันมานานมาก และดื่มน้ำไปจนนับจำนวนครั้งไม่ได้

 

“ใกล้แล้วค่า” น้ำตอบอย่างร่าเริง

 

“คุณน้ำก็พูดแบบนี้ทุกที” ชายหนุ่มตัดพ้อ

 

“พอเดินไปถึงเมืองแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องเดินแล้วครับถ้าไม่อยาก ใช้ fast travel ได้แล้ว” เพลิงปลอบใจอีกคน เขาก็ดูไม่เหนื่อยแม้แต่น้อย

 

“เรื่องนั้นผมก็ทราบอยู่หรอกครับ แต่มันก็เหนื่อยอยู่ดีนี่นา” ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะบ่นเป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้เพื่อนๆ รำคาญ เพราะทุกคนใช้ fast travel ไปที่เมืองนี้ได้ทันที มีแต่เขาคนเดียวที่ต้องเดิน คนพวกนี้อุตส่าห์มาเดินเป็นเพื่อนเขาก็น่าขอบคุณมากแล้ว

 

“ถ้าคุณวิทย์ได้กลับไปโลกจริงก็ไปออกกำลังเยอะๆ ค่ะ จะได้ไม่เหนื่อยง่าย” น้ำแนะนำ “น้ำเป็นเทรนเนอร์ให้ได้นะ”

 

“โอเคครับ ถ้าได้กลับไปนะ” อันที่จริงอาชีพฟรีแลนซ์นั่งโต๊ะก็ทำให้มีปัญหาสุขภาพอยู่บ้าง ทั้งออฟฟิศซินโดรม กรดไหลย้อน นอนไม่พอ สารพัดอาการต่าง ๆ ที่ชวนให้เกิดอุปสรรคในการทำงานไม่น้อย ถึงเขาจะยังไม่มีภาวะอ้วน แต่การฝึกนิสัยออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว

 

“ต้องอย่างนั้นสิคะ ตอนนี้ก็เดินต่อไปนะ จะได้ไปถึงยูเฟเรียเร็วๆ”

 

วิทยากัดฟันเดินไปกับเพื่อนๆ ทั้งสอง ส่วนประสิทธิ์นั้นหลังจากช่วยกำจัดพิงก็เวนอมแล้วก็ล็อกเอาต์ออกไปดูบอลต่อ โดยบอกว่าเป็นแมทช์สำคัญที่พลาดไม่ได้ เวลาผ่านไปพอสมควร ประตูเมืองยูเฟเรียก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า มันเป็นประตูไม้คู่หนาขนาดมหึมา ด้านข้างมีเทวรูปข้างละองค์ มีหน้าตาน่าเกรงขาม ถือกระบองขนาดใหญ่ในมือ เพลิงบอกว่านั่นคือยักษาผู้คุ้มครองยูเฟเรียแห่งนี้ ถัดจากประตูเมืองก็เป็นกำแพงเมืองที่ทำจากปูนสีครีมรายล้อมไปรอบเมืองยูเฟเรียที่มีอาณาเขตสุดสายตา

 

ประตูเมืองจะเปิดไว้อยู่ตลอดเวลายกเว้นจะมีศึกสงคราม ทหารยามจะสับเปลี่ยนเวรยามกันเข้ามาตรวจคนและยานพาหนะเข้าเมือง โดยปกติคนส่วนใหญ่ก็จะเข้าเมืองกันได้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยูเฟเรียเป็นเมืองที่มีจุดเด่นด้านการค้าขายด้วยจึงไม่มีความเข้มงวดมากนัก แน่นอนว่าพวกวิทยาก็เข้าเมืองได้โดยไม่ติดขัดใดๆ

 

ภายในเมืองค่อนข้างจอแจ มีร้านอาหารข้างทางที่ขายอาหารหลากหลายจากหลายวัฒนธรรม มีตั้งแต่ขนมปังแบบยุโรปไปจนถึงอาหารเอเชีย ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่ว พวกวิทยาไปซื้อเคบับมาจากร้านข้างทางที่มีคนต่อคิวกันมาก ถือเดินกินอย่างเอร็ดอร่อย สักพักน้ำก็เอะอะอย่างตื่นเต้นแล้วชี้ไปที่ร้านชานมไข่มุก หญิงสาวรีบไปซื้อมาดื่มเพราะเจอของกินที่ถูกใจ

 

“เกมเสมือนจริงนี่มันดีมากเลย รับรสได้แต่กินยังไงก็ไม่มีทางอ้วน” น้ำพูดกลางกินเคบับกับชานมไข่มุกอย่างรวดเร็ว “ถ้าเป็นโลกจริงน้ำไม่กล้ากินขนาดนี้นะ”

 

“แถมในเกมเรายังเป็นคนมีเงินอีกด้วย อาจจะไม่รวยมากแต่ก็ไม่กรอบเหมือนชีวิตจริง”

 

“ก็คุณน้ำเอาเงินไปเติมเกมเยอะหรือเปล่าอะ ชุดคุณน้ำก็หลายตังค์อยู่นะ” เพลิงแซว ส่วนน้ำหน้าแดงทำแก้มป่อง “ก็ไม่ได้เติมเยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ!”

 

“อ่า แล้วเราจะไปสืบข่าวที่ไหนครับ” วิทยาเริ่มใจร้อนหลังจากที่ผ่านมายาวนาน ในที่สุดก็มาถึงยูเฟเรีย

 

“เดี๋ยวเราจะไปหาเพื่อนของผม เขาเป็นสายข่าว” เพลิงบอกก่อนจะออกเดินนำ แต่ไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงโต้เถียงกันดังขึ้น

 

“พวกฉันสู้มอนจนคนในตี้ตายไปหลายคนกว่าจะได้ไอเท็มนี้มา แล้วแกจะให้ราคาแค่นี้เหรอ” เสียงของเพลเยอร์ที่โมโหจัด เขากำหมัดไว้แน่น เพลเยอร์คนนี้ยืนอยู่หน้าช่องกระจกของร้านค้าที่เขียนป้ายว่า “รับซื้อไอเท็ม ให้ราคาดี”

 

วิทยามองลอดช่องเล็กๆ นั้นเข้าไปเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผอมสวมแว่นตาข้างเดียวรูปวงกลม ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตตัวในสีขาว เขามองลอดแว่นมายังเพลเยอร์ด้วยสายตาเย้ยหยัน

 

“ผงผีเสื้อไดมอนด์ดัสต์ คิดว่าผมต้องให้คุณเท่าไหร่เหรอ”

 

“อัตราการรับซื้อของเรามีมาตรฐาน เราไม่กดราคาแน่นอน” เขายกนิ้วชี้มือขวาที่อยู่ในถุงมือสีขาวขึ้น เรียกหน้าจอข้อมูลมาให้เพลเยอร์ดู “เปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่ง จะเห็นว่าเราให้ราคามากกว่าด้วยซ้ำ”

“ฮึ่ม” มือของเพลเยอร์จับไปที่ด้ามดาบสีดำที่เหน็บอยู่บริเวณเอว

 

“ขอเตือนว่าถ้าคิดจะใช้กำลัง คุณจะไม่ได้แม้แต่รีนาร์เดียว แล้วยังจะโดนโทษแบนอีกด้วย” พนักงานคนเดิมกล่าวเรียบๆ โดยปราศจากความกลัว

 

“ก็ได้ๆ! แค่ยอมเอาราคานี้ก็พอแล้วใช่ไหม” เขาเอื้อมมือมากระชากเงินในถุงผ้าที่พนักงานเพิ่งใส่ถุงยื่นให้ แล้วรีบเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์

 

“ที่นี่คือโรงรับซื้อไอเท็มน่ะครับ เราจะเอาไอเท็มที่ได้จากมอนสเตอร์มาขายได้ นอกจากโรงรับซื้อพวกนี้แล้วก็ยังสามารถขายกับเพลเยอร์โดยตรงได้เหมือนกัน แต่จะนิยมเอามาขายให้โรงรับซื้อมากกว่า เพราะมีราคาที่ได้มาตรฐานกว่า” เพลิงอธิบาย “นอกจากนี้ถ้าเราขาดไอเท็ม เราก็มาหาซื้อได้เหมือนกัน เขาก็จะเอากำไร… เยอะเลย”

 

น้ำพยักหน้ารับ “ค่อนข้างแพงเลยล่ะค่ะ แต่บางทีก็จำเป็น เพราะไอเท็มบางอย่างดร็อปยากมาก แถมมอนบางตัวก็สู้ยาก”

 

อย่างนี้ถ้าเราไปซื้อมาจากมอนโดยตรงก็อาจจะถูกกว่าแถมไม่ต้องสู้หรือเปล่านะ วิทยาคิด ไว้อยู่กันเองค่อยปรึกษาก็แล้วกัน

 

“เดี๋ยวเราต้องเลี้ยวซ้ายตรงตรอกนี้ครับ” เพลิงบอก เขาออกมาเดินนำอีกครั้ง “เพื่อนผมคนนี้น่ะ ถ้าบอกแล้วอย่าแปลกใจกันนะ เขาเป็นคนของทวีป 0001”

 

“โอ้โห ฉันไม่เคยมีเพื่อนเป็นคน 0001 เหมือนกันค่ะ” น้ำอุทาน ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีจุดเด่นที่ AI ของ NPC ที่ฉลาดจนเป็นเพื่อนกับเพลเยอร์ได้ และมีการโต้ตอบอย่างอิสระ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครได้ทำความรู้จักกับพวกจักรกลมากนัก พวกเขาค่อนข้างจะลึกลับทีเดียว

 

“เขาขายข่าวอยู่ในเมืองนี้มานานแล้ว แต่ตอนที่ผมไปเจอเขาคือตอนอยู่กับตี้เก่า เราไปเจอเขาพลังงานหมดอยู่ในดันเจี้ยนที่ไซฟาส ช่วยเขาไว้ตอนนั้น ก็เลยได้ลดราคาค่าข่าวมาจนถึงตอนนี้” เพลิงเล่ายิ้มๆ พลางนำพาพรรคพวกผ่านตรอกซอกซอยที่ซับซ้อน พวกเขามาหยุดยืนอยู่หน้าตึกแถวคูหาเดียวแห่งหนึ่ง

 

“ขึ้นข้างบนครับ” พูดจบเพลิงก็เดินขึ้นบันไดที่มีแต่ของระเกะระกะขึ้นไปชั้นสอง ที่สุดบันไดมีประตูเหล็กขึ้นสนิมอยู่ เขาเลื่อนบานเลื่อนเล็กๆ แล้วมองดูภายในห้อง เมื่อพบว่ามีคนอยู่ในห้อง เพลิงก็เอ่ยรหัสออกมา “B1U4”

 

มีเสียงปลดล็อกประตู ชายร่างใหญ่เปิดประตูนั้นออก มีเสียงเอียดอาดของประตูขึ้นสนิม

 

ทั้งสามต้องตกตะลึงกับสภาพภายในห้องที่มีอะไหล่และข้าวของต่างๆ เต็มไปหมด จนยากที่จะหาทางเดินเข้าไปภายใน ตรงกลางห้องมีโต๊ะเหล็กขนาดใหญ่ที่มีของกองอยู่เต็มเช่นกัน รวมถึงหน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่ที่กำลังแสดงข้อมูลตัวเลขจำนวนมากอยู่

 

เจ้าของห้องเป็นหุ่นโดรนรูปวงรีสีขาว มีกล้องเดียวอยู่ตรงกลางลำตัว มีแขนกลเล็กๆ สี่ข้าง บินได้ เขาลอยไปมาอย่างน่าเวียนหัว ดูเหมือนว่าจะทำอะไรอยู่ตลอดเวลา

 

“ไงโอวี่” เพลิงไปจับมือเล็กๆ ของโอวี่ไว้ข้างหนึ่ง

 

“เบาๆ เดี๋ยวมันหัก ว่าไง ไม่ได้มานานเลยนะ แล้วอีกสองคนเป็นใครน่ะ ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน” หุ่นโดรนพูดยาวเหยียด

 

“นี่ตี้ชั่วคราวของผมน่ะ พอดีอยากจะขอให้โอวี่ช่วยหน่อย”

 

“เรื่องอะไรล่ะ แต่จะเรื่องอะไรฉันก็ทำให้ได้อยู่แล้ว แน่นอนว่าราคาไม่ถูกนะ” หุ่นสีขาวโอ่อย่างน่าหมั่นไส้

 

วิทยาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

 

“เรื่องแบบนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย คนจากโลกจริงเข้ามาในนี้โดยตรง”

 

“แต่บอกว่าแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น ก็แสดงว่า…”

 

“ใช่ เคยมีคนเข้ามาแบบนี้แล้วเหมือนกัน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไซฟาส แฝงตัวเป็นเพลเยอร์ระดับสูง ข้อมูลอย่างอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีน้อยมาก อะ โอนมาได้แล้ว”

 

“โอ้โห ลดหรือยังเนี่ย” เพลิงตกใจกับจำนวนเงินที่ต้องจ่าย “แบบนี้มันปล้นกันชัดๆ”

“ลดแล้วสิ ถึงฉันจะคิดเงิน “แพง” (มันทำสองนิ้วเป็นรูปเครื่องหมายคำพูดด้วย) แต่ก็ไม่เคยผิดคำพูดนะ บอกว่าจะลดให้ตลอดไปก็ต้องเป็นแบบนั้น”

 

“เฮ้อ โอนแล้วครับๆ” เพลิงส่งสลิปให้หุ่นโดรนดู “คุณวิทย์กับคุณน้ำจ่ายมาด้วย แทบหมดตัว โอ้โห”

ทั้งสองคนโอนเงินในเกมให้กับเพลิงแล้ววิทยาถึงนึกอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

 

“คุณโอวี่ พอจะทราบไหมว่าผมพอจะหาแบตเตอรี่ของรถยนต์ในโลกจริงได้ที่ไหนครับ”

 

“ไม่เป็นไรนะทั้งสองคน เดี๋ยวค่าข่าวเรื่องนี้ผมจ่ายเอง” วิทยายกมือห้ามอีกสองคนไว้ก่อน

 

“ในโลกนี้น่ะคงไม่มีหรอก แต่ถ้าพาฉันไปดูรถของจริง ฉันว่าน่าจะประดิษฐ์ให้ได้ แล้วพวกนายก็ต้องไปหาวัตถุดิบที่จำเป็น แล้วก็เตรียมค่าจ้างให้ด้วย บอกไว้ก่อนนะว่าแพงกว่าค่าข่าว”

 

“ไปไซฟาสนี่ยานพาหนะมันจำเป็นซะด้วยสิ” เพลิงกล่าว “แต่ถ้าจะหารถแบบอื่นก็น่าจะแพงกว่าค่าประดิษฐ์ของโอวี่น่ะ”

 

“เฮ้อ ก็มีแต่จะต้องจ่ายล่ะนะ” วิทยาถอนหายใจ “ตอนที่อยู่ร้านรับซื้อไอเท็ม ผมปิ๊งไอเดียธุรกิจพอดี เดี๋ยวคืนนี้เล่าให้ฟัง อย่าเพิ่งล็อกเอาต์กันนะ เดี๋ยวไปคุยกันที่โรงแรม”

 

ทั้งสองตอบตกลง จากนั้นบอกลาโอวี่ แล้วพากันเดินไปที่โรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ นั้น