ภารกิจจากกลุ่มดาวมอบหมายให้เธอฟื้นฟูธรรมชาติในยุคหลังโลกล่มสลายกว่า 400 ปี ในยุคที่ขนาดพืชยังปลูกไม่ขึ้น น้ำดื่มยังต้องซื้อ มันไม่ยากเกินไปหรอกเพราะเธอมีระบบและมิติเกมทำฟาร์มเวทมนต์ไงล่ะ!!!

ฉันมีระบบเกมทำฟาร์มจากกลุ่มดาวในยุคโลกล่มสลาย - 1. จุดเริ่มต้น โดย เมฆสีรุ้ง/Skywriter @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ครอบครัว,ปลูกผัก,ข้ามเวลา,ผจญภัย,แฟนตาซี,ปลูกผัก,นางเอกเก่ง,วันสิ้นโลก,มิติวิเศษ,เกม,แม่มด,ทำฟาร์ม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฉันมีระบบเกมทำฟาร์มจากกลุ่มดาวในยุคโลกล่มสลาย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ครอบครัว,ปลูกผัก,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ปลูกผัก,นางเอกเก่ง,วันสิ้นโลก,มิติวิเศษ,เกม,แม่มด,ทำฟาร์ม

รายละเอียด

ฉันมีระบบเกมทำฟาร์มจากกลุ่มดาวในยุคโลกล่มสลาย โดย เมฆสีรุ้ง/Skywriter @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ภารกิจจากกลุ่มดาวมอบหมายให้เธอฟื้นฟูธรรมชาติในยุคหลังโลกล่มสลายกว่า 400 ปี ในยุคที่ขนาดพืชยังปลูกไม่ขึ้น น้ำดื่มยังต้องซื้อ มันไม่ยากเกินไปหรอกเพราะเธอมีระบบและมิติเกมทำฟาร์มเวทมนต์ไงล่ะ!!!

ผู้แต่ง

เมฆสีรุ้ง/Skywriter

เรื่องย่อ

อีฟหญิงสาวธรรมดาในยุคหลังโลมล่มสลายไม่มีอะไรให้มนุษย์ดูแล สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการเอาตัวรอดท่ามกลางความว่างเปล่า โลกที่มนุษย์ทำลายด้วยมือของพวกเขาเอง พื้นดินที่ขาดแร่ธาตุจนไม่ว่าปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 3 และ 4 ทำล้ายทุกสิ่งอย่างโรคที่สังหารชีวิตคนไปเกือบครึ่งโลก 


นี่คือโลกในยุคล่มสลายที่คนรุ่นก่อนทำล้ายด้วยมือของพวกเขาเองและเธอคือคนที่เกิดมาก็ต้องมารับผลกรรมในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำแม้แต่น้อย นี่คือปี ค.ศ 2524 ปีที่ไม่มีอะไรเลยประชากรเหลือรอดชีวิตเพียงน้อยนิด รังสีของแสงอาทิตย์ อากาศที่แปรปรวน ดินที่เพาะปลูกอะไรไม่ขึ้น สภาพแวดล้อมจากคนรุ่นก่อนที่ไม่ทิ้งอะไรเอาไว้ให้เลย ไม่มีประเทศมีแต่คำว่าเขตและเขต 


สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนยุคนี้คือน้ำ การทานน้ำคือการที่เราต้องซื้อ เนื้อสัตว์กลายเป็นสิ่งมีราคาแพง แม้แต่พืชหรือผลไม้เองก็เช่นกันทุกคนได้กินเพียงอาหารแปรรูป โรคมะเร็งไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป 


แต่อีฟหญิงสาวที่ต้องดูแลน้องชายที่อายุห่างกันเป็นสิบปีกลับถูดป้าสะไภ้วางแผนส่งพวกเธอไปใช้แรงงานที่อื่นหวังเพียงให้ครอบครัวตัวเองรอดและมีกินมีใช้จากรัฐบาล แต่แล้วยังไง


มีหรือเธอจะยอด


ใครจะคิดว่าทันทีที่แอบขึ้นรถไฟออกนอกเขตไปใช้ชีวิตเป็นคนเร่รอนนอกเขตแดนจะได้รับพรจากกลุ่มดาวเป็นระบบมิติทำฟาร์มในโลกเวทมนต์แบบนี้


อาหาร น้ำ ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์


ต่อแต่นี้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว มิติที่เธอจะทำอะไรก็ได้ ปลูกพืชผักมากมาย น้ำที่กินได้ไม่จำกัด ผลไม้นานาชนิดที่ไม่เคยกินมาก่อน


เธอกับน้องจะต้องรอดในโลกยุคนี้ให้ได้ มาเปลี่ยนโลกนี้กันเถอะ


ว่าแต่ ไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าแอปเปิลนี้มันกินได้ใช่ไหม


ขนาดผลไม้ธรรมดาเรายังไม่เคยกิน แล้วนี่มีผลไม้เวทมนต์ด้วย!!


แฟนตาซีไปอีก!!!




"ผลดาวมณีจ้า ผลดาวมณี"


"ผลไม้จากมือแม่หมอคนนี้ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ผลไม้จากโลกเวทมนต์ราคาไม่แพงกว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ใครต้องการพลังงาน ป่วยขาดสารอาหาร ต้องการบำรุงร่างกายผลดาวมณีให้ได้ ซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอน"

สารบัญ

ฉันมีระบบเกมทำฟาร์มจากกลุ่มดาวในยุคโลกล่มสลาย-1. จุดเริ่มต้น,ฉันมีระบบเกมทำฟาร์มจากกลุ่มดาวในยุคโลกล่มสลาย-2. พรจากกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูใบไม้ผลิ

เนื้อหา

1. จุดเริ่มต้น

 


1.จุดเริ่มต้น


“เห็นแก่พระเจ้าเถอะ!”


เสียงขอร้องบนต่อฟ้าและโชคชะตาเปล่งออกมาจากริมฝีปากของป้าสะใภ้ที่กำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจผสมปนเปกันการด่าทออีกเล็กน้อย เอ่ยออกมาก่อนจะใช้สายตาของที่สามีของตนที่ไม่ค่อยได้กลับมาเท่าไรนักหวังเพียงให้สามีของตนคล้อยตามตนเหมือนเช่นทุกครั้ง


“ป้าอยากจะไล่ฉันออกจากบ้านเพื่อตัดปัญหา แต่มาบ่นเรื่องพระเจ้าเนี่ยนะ” อีฟผ่ายมือไปหาด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อว่าเรื่องพระเจ้าจะถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของป้าตนที่ไม่เคยสนใจเรื่องศาสนาเลยแม้แต่น้อย


“เอาน๊า...” ลุงแสดงสีหน้าคล้ำเครียด


“ลุงก็เห็นด้วยเหรอ ลุงเห็นด้วยที่จะส่งฉันกับน้องไปเขต 0 ให้รัฐบาลโขกสับ ทำงานงกๆ เอาเป็นเอาตายแลกอาหารประทังชีวิตใช่ไหม” เธอหันไปถามลุงแท้ๆ ของตนด้วยสีหน้าคาดหวังว่าครั้งนี้ลุงของเธอจะไม่เข้าข้างเมียของตัวเองเหมือนเช่นทุกครั้ง


เธอเป็นหลานของพวกเขานะ


“แกไม่เห็นเหรอว่าลุงแกเหนื่อยมากแค่ไหนที่ต้องหาเลี้ยงพวกแกพี่น้องสามคนเนี่ย เห็นใจกันหน่อยไม่ได้รึไง!”


“คุณก็พอเถอะ”


“พอ ทำไมต้องพอลูกของฉันต้องกินต้องใช้นะ แอนโทนีเองก็ต้องเข้าโรงเรียนฉันจะมีปัญญาเลี้ยงดูพวกมันพี่น้องได้ยังไงแค่นี้พวกเราก็จะเอาตัวเองไม่รอดอยู่แล้ว”


ป้านาร่าพูดจบก็พร่างชี้นิ้วให้มองรอบๆ บ้านว่ามันเล็กมากแค่ไหนห้องเล็กๆ ห้องเดียวอัดกันอยู่ถึง 7 คน ในใจของนางพยายามหาวิธีไล่ปลิงทั้งสามตัวที่เธอต้องดูแลเลี้ยงดูออกไปให้พ้นจากครอบครัวของพวกเธอการที่ต้องมาดูแลหลานสามคนมันยากมากสำหรับยุคสมัยนี้


ไหนจะต้องส่งเสียลูกสาววัย 18 กับลูกชายคนเล็กวัย 11 ปีอีก จะมีปัญญาเลี้ยงดูเด็กอีกสามคนได้ยังไง


แค่ดูแลมาจนถึงทุกวันนี้ก็นับว่ามากเกินพอแล้ว


“ที่ฉันทำก็เพื่อแกกับน้องของแกนะ ที่นั้นมีทั้งที่นอน อาหารก็ฟรีไม่ดีหรือไงแค่แลกกับการทำงานนิดๆ หน่อยๆ ดีจะตายไป”


ในที่สุดอีฟก็ยอมแพ้กับความพยายามเรียกสิทธิที่ควรได้รับจากครอบครัวของคุณลุง ในวันที่โลกไม่เหมือนในอดีตปีนี้คือปี ค.ศ 2524 เป็นยุคของการเอาตัวรอดไปวันๆ มันคือยุคหลังโลกล่มสลายที่ไม่มีอะไรเหลือไว้เลยนับตั้งแต่ปี ค.ศ 2046 หลังสงครามโลกครั้งที่ 4 จบลงพร้อมการสูญเสียอีกมากมายหลายชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด


สิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าได้ทำลงไปส่งผลกระทบมาถึงคนรุ่นหลังเพียงเพราะความโลภและความต้องการที่ไม่จบไม่สิ้นกลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันปะทุและในที่สุดมันก็ปะทุจนได้ จากสงครามโลกครั้งที่ 3 ลากยาวกลายมาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 4 เพราะภาวะโลกร้อน น้ำแข็งเริ่มละลาย โรคระบาดที่ฆ่าชีวิตผู้คนไปกว่า 30% และการแย่งชิงทรัพยากรทำให้เกิดสงครามขึ้นและในที่สุดโลกของเราก็ทนไม่ไหว


มลภาวะที่ไม่ดี รังสียูวีจากแสงแดดทำล้ายทุกสิ่งทุกอย่างแม้ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของผู้คนน้ำกลายเป็นสิ่งที่ต้องซื้อขาย พืชผักกลายเป็นสิ่งหายากสำหรับยุคสมัยนี้เพราะแม้แต่ดินก็ไม่สามารถปลูกอะไรขึ้นได้ และเพราะความสูญเสียที่มากเกินไปจนมาบัดนี้ประชากรจากแต่เดิมที่มีจนล้นมาตอนนี้ประชากรทั้งหมดบนโลกเหลือเพียง 40% ของทั้งหมดเท่านั้น


พ่อของเธอแต่ก่อนทำอาชีพขนส่งให้กับรัฐเพื่อส่งอาหารและอื่นๆ ไปยังแต่ละเขตเพราะหลังจากเกิดวันที่โลกล่มสลายในปี 2046


ประเทศก็ไม่ถูกเรียกว่าประเทศอีกต่อไป


กลายเป็นเขตแต่ละเขตที่ผู้รอดชีวิตจับกลุ่มจนกลายเป็นเมืองหนึ่งเมือง แต่ละเขตจะตั้งอยู่บริเวณที่มีความปลอดภัยสูงแต่แลกกับความแออัดเหล่าผู้มีอำนาจหรือที่เรียกว่ารัฐได้มีการตั้งกฎขึ้นมาว่าห้ามให้ประชากรแต่ละเขตข้ามเขตแดนกันถ้าไม่ได้รับอนุญาต


ทุกสิ่งอย่างจะถูกส่งมาด้วยรถไฟไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร หรืออื่นๆ ทุกคนต้องทำงานเพื่อดำรงชีวิตไม่ว่าครอบครัวจะใหญ่แค่ไหนก็ต้องอัดกันอยู่ในห้องเพียงห้องเดียว ทำให้หนึ่งห้องอาจมีครอบครัวอยู่กันเป็นสิบคนก็นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา


พ่อของเธอคือน้องชายของลุงที่ตายเพราะเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ท่านเสียตอนเธออายุแค่ 12 ปีก่อนแม่ของเธอจะคลอดน้องชายฝาแฝดออกมา


หลังจากพ่อตายเธอก็ต้องทำงานนับแต่นั้นเพราะที่นี่การเรียนหนังสือถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง ปกติคนที่สอนหรือสิ่งที่เรียกว่าครูก็นับว่ามีน้อยสำหรับเขตที่ไม่มีอะไรเช่นเขตที่เธออยู่ ก็แค่การจับกลุ่มกันเรียนโดยมีใครคนหนึ่งที่มีความรู้หน่อยสอนอ่านเขียนแค่นั้นก็นับว่าดีแล้ว


แต่หลังจากแม่คลอดน้องได้ไม่นานก็ต้องมาตายจากไปด้วยโรคมลภาระ มันคือโรคที่คนยุคนี้เข้าใจดีและเป็นกันมากกลายเป็นว่าสิ่งที่เรียกว่าโรคมะเร็งไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว โรคมลภาวะเป็นโรคที่เกิดจากทุกๆ สิ่งรอบตัวตั้งแต่อากาศ ยันน้ำดื่มและอื่นๆ ไม่เพียงพอหรือมีมลภาวะมากเกินไปจนร่างกายปรับตัวไม่ทัน


ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่แปรปรวนจนไม่มีสิ่งที่เรียกว่าฤดูกาล รังสียูวี พายุ อุณหภูมิ โรคภัย อาหารการกินและอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้แม่ของเธอลาโลกนี้ไปหลังจากน้องอายุได้เพียงแค่ 4 ปีนับแต่นั้นป้ากับลุงก็อาสาที่จะดูแลพี่น้องทั้งสามคนรวมถึงเธอด้วย เพราะที่ทำงานของพ่อมีประกันแต่ใครจะคิดว่าป้าของเธอจะดูแลเหมือนพวกเธอเป็นเพียงผู้อยู่อาศัย


รัฐบาลออกนโยบายรับสมัครประชาชนทั่วไปในแต่ละเขตเพื่อให้ทำงานให้กับตนแลกอาหารและน้ำกับที่อยู่อาศัย โดยสิ่งเหล่านี้จะแลกกับการทำงานให้กับรัฐไม่มีเงินหรือค่าตอบแทนให้มันถูกเรียกว่าเขต 0 เป็นเขตที่ผู้กระทำผิดและคนอื่นๆ ถูกนำไปใช้แรงงานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งน้ำ ขุดเหมือง หรือทำงานด้านอื่นๆ


แต่เพราะประชาชนไม่มีใครกล้าพอที่จะสมัครเข้าร่วม ยิ่งมีข่าวลือว่าเขต 0 เป็นเขตอันตรายที่รัฐบาลใช้แรงงานไม่หยุดพัก ยังไม่รวมกับผู้กระทำผิดเองก็ถูกนำมาใช้แรงงานที่นี่ด้วยเช่นกัน กลายเป็นว่ารัฐบาลต้องใช้ไม้แข็ง


นั่นคืออะไรนะเหรอ ก็คือการออกคำสั่งให้แต่ละเขตต้องส่งประชากรตามที่กำหนดเพื่อนำไปยังเขต 0 ยังไงล่ะ


และหนึ่งในนั้นก็คือเธอกับน้องชายฝาแฝดของเธออีกสองคน


 


อีฟกับน้องชายอีกสองคนของเธอถูกลุงพาออกมาจากบ้านในตอนเย็นหลังจากที่เธอรับรู้ชะตากรรมของตนเอง เธอลูบไหล่น้องชายทั้งสองคนที่มีสีหน้าไม่ดีนักหลังจากกลับมาจากการเรียนหนังสือและไปหาเงินเพิ่มเติมมาใช้ในบ้าน


ชายผมย่นผอมแห้งเดินนำหลานทั้งสามของตนมายังสถานที่ที่เด็กทั้งสามไม่คุ้นเคยมันมีแต่ความมืดผ่านโกดังและรางรถไฟสามสี่ราง เด็กทั้งสองตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อได้เห็นรถไฟจริงๆ แม้จะมืดแค่ไหนก็ตามแต่เพราะมีแสงสว่างจากหลอดไฟจางๆ ทำให้เห็นได้ไม่ยาก


“เอาติดตัวไว้นะ เพื่อหลานต้องใช้มันถึงลุงจะมีไม่มากก็เถอะแต่เอาติดตัวไว้นะเผื่อหลานต้องใช้ ลุงช่วยได้เท่านี้แหละ” ลุงพูดจบก็ส่งถุงบางอย่างยัดเข้ามาในมือของอีฟสีหน้าของชายตรงหน้าที่เธอรับถือดูไม่ค่อยดีนัก เหมือนพยายามกลั้นน้ำตาแม้รู้ว่าตนทำผิดแต่ก็ต้องทำเพื่อครอบครัวของตัวเอง


อีฟแกะถุงออกมาดูก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้เห็น เพราะถุงที่ลุงให้เธอมานั้นมันคือเงินที่ลุงหามาได้จากการทำงานหาปลา


“ถ้าลุงให้หนูแล้วลุงจะใช้อะไร ลุงไม่ต้องห่วงเรื่องของหนูหรอกหนูพอมีเงินจากที่ทำงานอยู่บ้าง” อีฟพูดกับลุงของเธอก่อนพยายามส่งเงินคืนให้ แต่เดิมเธอทำงานเป็นพนักงานขายสินค้าปลีกได้เงินเดือนแม้ไม่มากแต่ก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง


เงินเดือนของคนยุคสมัยนี้อยู่ที่ 1000-1500 เหรียญ สำหรับอีฟที่ได้เงินเท่านี้นับว่ามากพอควรเพราะบางคนได้น้อยกว่านี้ก็มี แม้จะแปลกใจว่าทำไมต้องพกเงินไปด้วยแต่ก็รับมาอย่างจำยอมเมื่อลุงยัดมาให้เธออีกครั้ง


“ลุงจะไล่พวกเราจริงๆ เหรอ” แจคน้องชายแฝดคนสุดท้องทำตาละห้อยน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาเมื่อรู้ว่าพวกตนต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะลุงไม่ต้องการพวกเขาที่เป็นภาระ “เลิกร้องไห้ได้แล้ว ฮึก ล ลุงไม่อยากได้เราหรอกพวกเราเป็นภาระ ค ใครจะต้องการภาระกัน ใช่ไหมพี่อีฟ” แมคพยายามกลั้นน้ำตาปลอบน้องชายฝาแฝดของตัวเอง น้ำเสียงที่พยายามทำขึงขังถูกแทนทีด้วยเสียงสะอื้นทันทีที่เปล่งเสียงออกมาจนเจ้าตัวต้องสุกหน้าลงกับหน้าท้องของพี่สาวตน


“ลุงรู้จักคนขับรถไฟนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นเพื่อนกับพ่อของหลาน”


“รถไฟ หมายความว่ายังไงหนูไม่เข้าใจ” อีฟขมวดคิ้วถาม


ทำไมต้องขึ้นรถไฟ คนที่ต้องไปเขต 0 ต้องไปรวมตัวกันที่กลางลานกิจกรรมไม่ใช่เหรอ?


หรือว่าลุง...จะให้เราหนีไปนอกเขตเหรอ?


ทันทีที่อีฟเข้าใจชายสิ่งที่ชายตรงหน้าต้องการสื่อเธอก็กุมมือลุงของตัวเองแน่นขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ชายตรงหน้าสวมกอดหลานสาวกับหลานชายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะบอกรายละเอียดต่างๆ ให้ทั้งสามคนรู้ แม้จะรู้ว่ามันเสี่ยงมากแค่ไหนก็ตาม


เพราะหลังจากที่โลกล่มสลายประชากรและนายทุนรวมถึงรัฐบาลที่รอดชีวิตทำการก่อตั้งเขตเพื่อให้ดูแลอย่างทั่วถึง แม้โลกจะมีพื้นที่มากแค่ไหนก็ตามแต่เพราะการล่มสลายและภัยสงครามทำล้ายล้างทุกสิ่งอย่างทำให้พื้นที่ปลอดภัยกลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยจนพัฒนาการเป็นเขตแต่ละเขตขึ้นมา


หนึ่งสิ่งที่คนรุ่นหลังไม่เคยรู้เลยก็คือนอกเขตแดนเป็นยังไงบางคนเคยเล่าว่าด้านนอกมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำทะเลที่รสชาติเค็มมากๆ บ้างก็เล่าว่ามีทะเลทรายสีทองขนาดใหญ่ บ้างก็เคยเล่าว่าแต่เดิมมนุษย์มีเทคโนโลยีมากมายทั้งการสื่อสารทางไกล อาหาร พืชผัก หรือแม้แต่ความรู้ แต่บ้างก็เล่าว่านอกเขตมีโลกกว้างใหญ่ให้สำรวจมีผู้คนมากมายด้านนอกนั้นที่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากคนด้านใน


กฎของการมีชีวิตอยู่ห้ามแหกเด็ดขาดนั่นคือการหนีออกจากเขตไปยังเขตอื่นๆ สิ่งนี้ถือเป็นการหนีข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการหนีออกไปด้านนอกเขตด้วยเช่นกันเพราะคนด้านนอกเขตจะเรียกว่าพวกเร่ร่อน


คนพวกนี้จะไม่ได้รับสวัสดิการจากทางรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา อาชีพหรือความช่วยเหลือเป็นเหมือนพวกนอกกฎหมาย


“รถไฟจะไปส่งของที่เขตอื่นและที่สุดท้ายคือเขต 0 หลานต้องกระโดดออกจากรถไฟเข้าใจไหม พวกเขาจะพาหลานหนีออกไปแต่หลานห้ามกลัวเด็ดขาดเพราะที่สุดท้ายที่รถไฟจะไปคือเขต 0 พวกเขาจะดูแลหลานระหว่างนี้ ลุงคุยกับพวกเขาแล้วหลานไม่ต้องห่วงนะ”


“เราจะไปไหนกันเหรอ?”


“เราจะไปเที่ยวที่อื่นกัน” เธอตอบน้องชายทั้งสองคน


“ลุงแอบเอาอาหารติดมาด้วย ข้างนอกอาจลำบากหน่อย” ลุงของเธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือมือทั้งสองข้างสั่นจนกระเป๋าอาหารแทบจะตกลงพื้น “หลานอยู่ได้แน่ ที่นั่นดีมากมีแต่คนบอกว่าดีมากๆ”


“ขอบคุณคุณลุงมากๆ นะคะ ขอบคุณมากจริงๆ” พูดจบเธอก็ตรงเข้าไปกอดชายตรงหน้าทันทีก่อนจะให้น้องทั้งสองคนบอกลาท่านเป็นครั้งสุดท้ายและไม่ลืมที่จะบอกเรื่องสำคัญที่ลุงควรรู้ แต่ดูเหมือนท่านจะรู้อยู่แล้ว


“ไปเถอะ เดี๋ยวพวกเขาก็จะเรียกรวมตัวแล้วล่ะ”