ทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด
ชาย-หญิง,รัก,วัยว้าวุ่น,รั้วโรงเรียน,ไทย,รักใสๆ,รักต่างวัย,รักข้างเดียว,ทำงาน,นักเรียน,จีบผู้ชายก่อน,รั้วโรงเรียน,romantic,nonc,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
21วัน I Love Youทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด
ทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด
-2d รถเสีย
ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเย็นที่ใกล้มืดค่ำแล้ว ควรเป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนมอปลายควรกลับถึงบ้าน แล้วถ้ารถมอเตอร์ไซต์คันเก่าของพ่อมาเสียซะก่อนซึ่งน้ำมันก็ยังไม่หมด ยางรถก็ยังปกติดี แล้วรถมันเป็นอะไรละเนี่ยถึงแม้รถจะเก่าแต่ไม่เคยเสียกลางทางแบบนี้
แล้วตอนนี้อยู่ซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟข้างทาง รอบข้างเป็นป่า ถ้าตอนเช้า ๆ จะเย็นสดชื่น แต่พอตกเย็นคือป่ามืด ๆ ที่พร้อมจะมีตัวอะไรสักอย่างออกมาข้างทาง แล้วที่เลือกมาทางนี้ในช่วงเย็นเพราะเป็นทางลัดทำให้ถึงบ้านเร็วกว่า ไม่ต้องไปรอรถติด แต่ดีที่ยังพอสัญญาณโทรศัพท์ที่สเถียร ที่พอจะติดต่อได้ดังนั้นจึงติดต่อหาพ่อที่บ้านให้ช่วย
"พ่อคะ"เมื่อโทรติดแล้วก็เอ่ยทักทายก่อน
" ว่าไงคะลูกสาวพ่อกลับจากโรงเรียนหรือยังลูก”
"กำลังกลับค่ะ แต่รถดันเสียข้างทางซะก่อนเป็นอะไรก็ไม่รู้"
"อ่าวแล้วลูกอยู่ไหนละตอนนี้"
"หนูอยู่ทางลัดทางกลับบ้านน่ะคะ"
" ตอนนี้พ่อออกมาซื้อของกำลังกลับ แต่รถติดไม่ขยับเลย พ่อน่าจะถึงบ้านค่ำ"
"ทํายังไงดีคะ"
"งั้นเดี๋ยวพ่อให้เบอร์ช่างนะหนูโทรหาเขานะอยู่ใกล้ ๆ ปากทางนี่เอง"
"ค่ะพ่อ"
จากนั้นพ่อก็ให้เบอร์ช่างมาในข้อความจากนั้นก็กดคัดลอกข้อความแล้วกดโทรออกทันท ีตอนนี้ก็ใกล้แล้วยิ่งมืดยิ่งน่ากลัว วังเวง น่าขนลุก
" หวัดดีครับ "
" เอ่อ ใช่เบอร์ช่างหรือเปล่าคะ "
" ครับ"
"คือตอนนี้รถเสียอยู่น่ะคะ มารับได้ไหมคะรถมอเตอร์ไซต์ค่ะ"
"ได้ครับอยู่ตรงไหนครับ”
“ เอ่อ อยู่ข้างทางทางลัดจากซอยสี่นะค่ะ เห็นพ่อบอกว่าอยู่ใกล้ ๆ พี่"
" อ้อครบรอก่อนนะครับเดี๋ยวจะรีบไปเลยครับ "
" โอเคค่ะพี่"
จากนั้นไม่นานนักก็มีรถยนต์ขับมาข้างหน้า ไฟหน้ารถสองดวงส่องสว่างจ่า เป็นรถคนแรกที่กำลังขับผ่านมาทางนี้ ณ เวลานี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าลงไปแล้ว แแทนที่ดวงจันทร์ขึ้นมาจากขิบฟ้าคอยส่องสว่างในยามค่ำคืน
"น้องครับ"ผู้ชายร่างใหญ่มีกล้าม ใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ มีเสื้อกล้ามสีดำปกปิดส่วนบน เมื่อคนผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นจึงทำให้เห็นใบหน้าที่ชัดขึ้น ใบหน้าที่หล่อแบบชายไทย คมเข้มนิดๆ มีหนวดบางๆ ผิวสีแทน ที่คอเห็นลูกกระเดือกชัดและมีสร้อยคอคล้องบวกกับกำไรข้อมือ ดูเท่มากขึ้น
"เอ่อ คะ"ถึงแม้จะหล่อขนาดนี้แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ รู้หน้าไม่รู้ใจ จำเอาไว้ แม่สอนไว้ ในเวลานี้ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ป่า ดูอันตราย ในมือที่ถือโทรศัพท์อยู่พร้อมกดรายชื่อที่บันทึกไว้แล้วกดโทรไปหาพ่อทันทีเมื่อมีอันตรายเกิดขึ้น
"ใช่น้องที่โทรมารถเสียใช่ไหม"เมื่อชายคนนั้นพูดขึ้นมามันก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นสักหน่อยแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดีเพราะเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ยังไว้ใจกันไม่ได้
"เอ่อ ใช่ค่ะ พี่คือคนที่โทรไปหาหรือเปล่าคะ"เพื่อความแน่ใจและความปลอดภัยของตนเอง เธอจึงถามเพื่อความชัวร์
"ครับ ใช่ครับ"
"ขอเช็คนะคะ"
"เช็ค?ยังไงครับ"
"อยู่เฉยๆนะคะ"เมื่อเธอพูดจบก็กดเข้าโหมดหล้องแล้วยกขึ้นมาถ่ายหน้าแล้วกดส่งรูปไปให้พ่อในแชท จากนั้นก็กดแอปรายชื่อแล้วกดโทรเบอร์ไปหาช่างคนนั้น สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากอีกฝ่าย ผู้ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับทันที จึงทำให้รู้ว่าเสียงที่ฟังจากโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงเดียวกัน จึงกดวางสายทันที
"ขอโทษนะคะที่ทำแบบนี้"สิ่งที่เธอบางคนอย่างมองว่าเสียมารยาท หวาดระแวงเกินไปหรือเปล่า แต่เพื่อความสะบายใจและความปลอดภัยของตัวเองนั้น เธอยอม
"อ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ งั้นเข้าไปนั่งในรถก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวผมขอเข็นรถขึ้นรถก่อน"
"ค่ะ"
เมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถจึงทำให้รู้ว่ารถที่เขาขับมาไม่ใช่รถยนต์อย่างที่เข้าใจตอนแรก แต่เป็นรถสำหรับขนรถโดยเฉพาะโดยที่สามารถขับหรือเข็นรถขึ้นรถได้โดยตรง ไม่ต้องมีตัวยกรถโดยเฉพาะ
เมื่อเขาเข็นรถแล้วทำการล็อครถเอาไว้แล้ว ก็เดินมาขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ในระหว่างทางที่กำลังขับไปที่อู่นั้นทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันซักคำพูดเดียว จนกระทั่งรถขับมาจอดหน้าอู่ที่ยังคงมีช่างคนอื่น ๆ อยู่ที่ร้านประมาณ 3-4 คน เธอเดินลงมาจากรถเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าร้านเพื่อรอดูว่าจะทำรถทำเสร็จได้้เมื่อไร่
ผู้ชายคนเดิมที่เป็นช่างเดินเข้ามาหลังจากที่เข็นรถมาจอดในจุดซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ที่มาป้ายกำกับเอาไว้ จากนั้นก็ยังไม่เห็นว่าผู้ชายคนนั้นจะซ่อมอะไรเลยแต่กลับเดินมาหา
"น้องครับ พี่ว่าวันนี้รถน้องคงยังซ่อมไม่เสร็จหรอก คงต้องถอดประกอบดูเครื่องข้างในอย่างละเอียด น้องกลับบ้านก่อนเลยนะ เดี๋ยวพี่โทรตามเมื่อรถเสร็จ"
"ยังไม่ได้รถวันนี้สินะคะ"
"ใช่ครับ"
จากนั้นเธอก็โทรหาผู้เป็นพ่อเพื่อสอบถามว่าถึงบ้านหรือยัง แต่คำตอบยังคงเหมือนเดิมกับครั้งที่แล้วเพื่อเติมคือขยับขึ้นมานิดหน่อย แล้วเธอจะกลับยังไงเนี่ย ถ้าให้แม่มารับ แม่ก็ไม่มีรถมารับอีก ไหนแม่จะต้องเก็บร้านอีกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
"พี่คะ"พี่ผู้ชายคนหล่อคนเดิม ที่ยังคงไม่ไปไหนยืนอยู่ข้างๆ ที่ที่เธอนั่งอยู่
"ครับน้อง"
"คือหนูไม่มีรถกลับอะ พ่อยังไม่กลับบ้านเลย"
"อ้าว แล้วจะกลับยังไงล่ะ พ่อหนูเป็นใครหลอเพื่อพี่รู้จัก"
"อ้อ เฮียบุญ เจ๊หงษ์ ร้านขายข้าวท้ายซอย พี่รู้จักไหม"
"รู้จักสิ เป็นร้านขายข้าวที่อร่อยที่สุดแล้ว"
"อ้อ ขอบคุณค่ะ"
"งั้นอีกประมาณ 3 วันรถน่าจะเสร็จนะ เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้แค่นี้เอง"
"หลอคะ"
"ครับ ไปกันครับ"
"ค่ะ พี่"
พี่ช่างหน้าหล่อแถมใจดีอาสาไปส่งถึงบ้าน ก็พาเดินไปยังที่จอดรถข้างอู่ที่มีรถยังคงจอดอยู่ตามจำนวนพนักงานในร้าน ส่วนรถที่เธอจะต้องขึ้นมันคือรถคันใหญ่ ใหญ่มาก ดูยังไงก็คงเป็นรถบิ๊กไบค์สีดำแดงตามสไตล์ผู้ชายชอบขับ
"ขึ้นมา ขึ้นได้ไหม เหยียบที่วางขาแล้วจับไหล่พี่นะ"
"ค่ะ ฮึบ"
"นั่งดี ๆ นะเครื่องมันแรง"
"หนูขอกอดเอวพี่นะคะ หนูกลัวตก"
"เอ่อ ครับ"
เมื่อรถออกตัวแล้วขับออกไป แต่ไม่ได้เร็วมากจนน่ากลัวเหมือนที่เคย ๆ เห็น ตามท้องถนน ไม่รู้ว่าเพราะอยู่ในหมู่บ้านหรือพี่เขาจะกลัวว่าเธอจะกลัวกันแน่ ไม่นานรถก็ขับมาจอดอยู่หน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย โดยที่มีแม่ที่นั่งทำงานอยู่บริเวณหน้าบ้านก็มองมาด้วยความสงสัยว่าเธอว่ากับผู้ชายที่ไหน
"เอ่อ ขอบคุณนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับ"
"เอ่ออ พี่คะ"
"ครับ?"
"พี่ชื่ออะไรหลอคะ"
"ชื่อพี่ พี่ชื่ออเล็กซ์ครับ"
"หนูชื่อเบอร์รี่นะคะ"
"อ้อ ครับผม"
"เอาไว้เจอกันนะคะ"
"..."
"เรื่องรถน่ะค่ะ"
"ครับ"
"ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ งั้นผมขอตัวก่อน"
"ค่ะ"
จากนั้นอเล็กซ์ก็ขับรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ ออกไปจากหน้าบ้านแล้ว เธอก็หันกลับมาเพื่อที่จะเข้าบ้านแต่ก็ต้องพบกับสายตาที่จ้องมาเขม็ง เธอถึงกับยิ้มแห้งทันที
"ใคร พ่อหนุ่มนั่นใคร มีแฟนแล้วไม่บอกหลอ"เจ๊หงษ์หรือแม่ของเธอก็เอ่ยความขึ้นทันทีที่เธอหันหน้ากลับมามอง
"แฟนที่ไหนเล่าแม่ ถ้าในอนาคตก็อาจจะ"
"อาจจะ หมายความว่าไง ห้ะ"
"ก็ เขาหล่อ ใจดี พูดเพราะด้วย ครับ ครับผม"
"เป็นเอามากนะแก นั่นใคร"
"อ้อ ชื่ออเล็กซ์ทำงานที่อู่หน้าซอย พ่อรู้จักแม่อะรู้จักเปล่า"เบอร์รี่พูดเชิงแซวแม่ตัวเองในท้ายประโยค เพราะวันๆ อยู่แต่ในร้าน ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะชอบบ่นว่าแดดร้อน จนทุกวันนี้รู้จักคนในหมู่บ้านอยู่ไม่กี่คน
"แกนี่ ทำไมจะไม่รู้จัก นั้นคงเป็นอเล็กซ์ที่มีแม่เป็นครู ไม่เจอกันนาน โตขึ้นหล่อขึ้นเยอะ"
"อุ๋ย โปรไฟล์ดี แล้วแม่ชอบไหม"
"ชอบอะไรอีก"
"ลูกเขยแม่ไง หนูชอบ"
"ลูกเขย? แฟนก็ไม่ใช่ชั่งกล้าเรียก อย่าให้พ่อแกมาได้ยินนะ รายนั้นอย่างกับจงอางหวงไข่"
"จงอางหวงไข่อะไรหลอ งูเข้าบ้านหรือไง"จู่ๆ ก็มีเสียงเข้มของผู้ชายดังขึ้นอยู่ข้างหลัง
"ว๊าย พ่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ให้สุ่มให้เสียง"
"ก็เพิ่งมานี่แหละจะเมีย"
"เอ่อ หนูไปดีกว่า ไม่อยากเป็น กขค"
"ไปเลย พ่อจะอยู่กับแม่สองคน"
"พ่อก็"เป็นเสียงแม่เอ่ยขึ้นด้วยความเขินอาย