ทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด

21วัน I Love You - -1 d นักมวยหน้าคุ้นๆ โดย krommatha @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,วัยว้าวุ่น,รั้วโรงเรียน,ไทย,รักใสๆ,รักต่างวัย,รักข้างเดียว,ทำงาน,นักเรียน,จีบผู้ชายก่อน,รั้วโรงเรียน,romantic,nonc,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

21วัน I Love You

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,วัยว้าวุ่น,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักใสๆ,รักต่างวัย,รักข้างเดียว,ทำงาน,นักเรียน,จีบผู้ชายก่อน,รั้วโรงเรียน,romantic,nonc

รายละเอียด

21วัน I Love You โดย krommatha  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำเราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด

ผู้แต่ง

krommatha

เรื่องย่อ

ทฤษฎี 21 วัน หมายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการทำอะไรบางอย่างต่อเนื่องให้ติดเป็นนิสัย แล้วถ้าเราจีบอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เราอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย และความคิด


วิธีการคือ ให้ลองจีบอีกฝ่ายเป็นเวลาเดิมและสม่ำเสมอตลอด 21 วัน พอถึงวันที่ 22 ให้เราลองหายไป ถ้าอีกฝ่ายแอบมีใจ รู้สึกดีด้วย เขาจะเป็นคนทักมาเอง แล้วถ้าเขาไม่ทักมาล่ะ? เราต้องทำยังไงต่อ

ทฤษฎี 21 วันที่โด่งดังในช่วงโซเชียลและหมู่วัยรุ่นซะส่วนใหญ่และคุณล่ะเชื่อไหม

แต่!!

ผมคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อไอทฤษฎีบ้านี่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงม.ปลายคนนึงมาบอกว่า

"หนูขอจีบพี่ 21 วันนะ"

แต่

ยังมีทฤษฎีดังที่ว่าผู้หญิงที่จีบผู้ชายก่อนมีโอกาสจีบติดสูงถึง 74%

เมื่อเราชอบเขาเราก็ต้องจีบเลย ถ้าเรารออีกฝ่ายเข้าหาเราก่อน เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันล่ะ จริงไหม?



เบอร์รี่ อายุ 18 ม.6 เทอม 2 นิสัยดี น่ารัก ร่าเริง ดื้อบ้างเป็นบางครั้ง เข้มแข็งแต่ไม่ออนแอ อ่อนโยน จะซื่อก็ซื่อ

อเล็กซ์(เล็ก) ชายหนุ่มวัย 25 วัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ชอบเด็ก ชอบสังสรรค์ ชอบดื่ม เจ้าสำราญ อดีตนักมวยข้างถนน เข้มแข็งแต่ไม่กระด้าง

ตัวละคร องค์กร สถานที่ อาชีพ เหตุการณ์ต่างๆ ในนิยาย เป็นเพียงเรื่องแต่ง ที่สมมติขึ้นมาเท่านั้น ไม่มีเจตนา หมิ่นประมาณ ดูถูกหรืออย่างไร

writer:krommatha 
contact all pratform: kromtikan 








สารบัญ

21วัน I Love You--2 d รถเสีย,21วัน I Love You--1 d นักมวยหน้าคุ้นๆ,21วัน I Love You-0 d จุ๊บ,21วัน I Love You-1 d จีบ

เนื้อหา

-1 d นักมวยหน้าคุ้นๆ


-1d นักมวยหน้าคุ้นๆ

   วันนี้เบอร์รี่ไม่ได้ไปเรียนเพราะเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งจะมีเรียนพิเศษเป็น คอร์สออนไลน์ในช่วงค่ำทุกวัน ในช่วงเช้าจะพักผ่อน ผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง ช่วงบ่ายจะช่วงพ่อแม่ขายข้าวเพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าเข้าร้านพิเศษ และในตอนนี้เธอ ก็กำลังช่วยงานอยู่โดยเป็นลูกมือช่วยเสิร์ฟข้าวตามโต๊ะและมีบางคนที่โทรสั่งข้าว ให้ไปส่งที่บ้าน โดยพ่อเธอเป็นเชฟคอยข้าวตามสั่งพร้อมกับแม่ที่ทั้งเป็นเซฟในบ้าง ครั้งและคอยเสิร์ฟในวันที่เธอไม่ได้ช่วยเช่นวันที่เธอต้องไปเรียนตามปกติหรือวันที ต้องไปทำรายงานกับเพื่อน ตอนนี้ก็คล้อยบ่ายแล้วลูกค้าก็เริ่มออกจากร้านเพื่อ กลับไปทำงานตามเดิมแล้ว
“เบอร์รี่เดี๋ยวเสิร์ฟตรงนี้เสร็จแล้วไปส่งข้าวที่สนามมวยด้วยนะ เดี๋ยวพ่อไปส่งที่อื่นเอง จากนี้จะไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ไป” พ่อหรือเฮียบุญที่ใครๆ กก็รู้จักกันดี
 “ทำไมพ่อพูดเหมือนไล่หนูเลยอะ” เบอร์รี่ที่ได้พักแล้วหลังจากที่จะต้องไปส่งข้าวรอบ สุดท้ายก็พูดแซวพ่อตัวเองเชิงหยอกเล่น
“ตัวเองก็อยากไปเที่ยวเล่นไม่ใช่หรือไง ทำมาเป็นแซว” เป็นพ่อที่พูดตอกกลับมา เอาซเะเธอไปไม่เป็น
“โธ่ พ่ออะ”
“ไปๆ ไปเลยไปส่งข้าวไม่ต้องมาแซวพ่อเลย” แม่หรือเจ๊หงษ์เป็นคนพูดแซวแทรกมาอีกคน
“ชิ จู่ๆ ก็โดนรุมหนูไปก็ได้ ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรอก”
“หึหึ” เสียงขำขันจากพ่อและแม่ที่แซวลูกสาวคนเดียวของทั้งคู่
“ของก็เยอะ ใครเขาสั่งข้าวเยอะหนักหนาเนี่ย หวังว่าจะไม่ทำตกระหว่างทางนะ” เสียงบ่นของเบอร์รี่จะกำลังขนข้าวล่องไปส่งที่สโมสรสนามมวยที่หน้าซอยโดย ขี่จักรยานคู่ใจตั้งแต่เด็กก่อนที่จะมีมอเตอร์ไซต์ที่ทั้งใช้ไปโรงเรียน ไปซื้อของและ ส่งข้าวแบบครั้งนี้ แต่จู่ๆ ก็ดันฟังซะก่อนกำลังรอซ่อม ถึงแม้จะซื้อมาไม่กี่ปีตั้งแต่เธอ กำลังจะขึ้นม.ปลาย แต่ก็เก่าแล้วสำหรับเธอเพราะใช้ทำหลายอย่าง ใช้ทุกวัน ขนของหนักๆ เยอะๆ

ค่ายมวยสลักจิต

   ตอนนี้ได้มาถึงหน้าสโมสรสนามมวยแล้ว แดดร้อนๆ ของเมืองไทยทำร้ายผิวเธอมาก เหงื่อท่วมตัว หน้าเหยิ้มหน้ามันไปหมด จึงต้องรีบเข้าไปข้างในเพื่อส่งข้าวแล้ว หลบแดดตากพัดลม ในสนามที่ยังมีบางคนที่ยังคงซ้อมมวยอยู่และบางคนที่ได้พัก แล้วนั่งจับเข่าคุยกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างสนาม เมื่อเธอเข้ามาข้างในพร้อมถือข้าว เข้าไปคนในสนามมวยเห็นแบบนั้น จึงเดินเข้ามาหาพร้อมเอาข้าวที่เธอถืออยู่ไปถือเองด้วยความหิว
“อเล็กซ์ หยุดซ้อมก่อนข้าวมาส่งแล้วโว้ย” คนที่เดินมาถือข้าวไปจากมือของนั้น ตะโกนเรียกคนที่ยังซ้อมมวยอยู่คนเดียวที่กระสอบใหญ่สุดที่สนามมี แต่เป็นชื่อที่ เธอคุ้นๆเหมือนพึ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นชื่อที่ใครๆ ก็ตั้งชื่อนี้ได้ เธอคิดว่าคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก
“ครับ เฮียผา” คนที่ชื่ออเล็กซ์ตอบกกลับมา เฮียผาที่เป็นคนเรียกนั้นและเป็นลูก เจ้าของค่ายมวยที่ตอนนี้ได้ถ่ายโอนชื่อเป็นของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว
“พี่อเล็กซ์นี่ฟิตจริงๆ เลย” ต้น น้องเล็กสุดในค่ายที่ได้มาซ้อมที่ค่ายเพราะเจ้าของ ค่ายมวยปัจจุบัน ได้เอ่ยแชวพี่ชายคนนี้ที่ได้มาซ้อมทุกวันที่ว่างหรือเป็นวันหยุดเสมอ ร่างกายที่ชายหนุ่มทุกคนฝันหาอย่างกับหุ่นนายแบบ
“ทำไม อยากมีเหมือนไอเล็กหลอ ไอต้น” พี่เอิร์ธที่อายุมากสุดอันดับสองในค่ายมวย เอ่ยแซวต้นน้องคนเล็ก
“เปล่านะพี่ อยากให้เฮียผามีมากกว่า จะได้ปกป้องผมได้” ต้นเอ่ยพร้อมกับหันหน้าไปมองชายที่ตนแอบนักมานานที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ใครจะปกป้องแกหะ ไอ้ต้นถั่วงอก” เฮียผาที่ได้ยินต้นพูดแบบนั้นก็เอ่ยชัดทันที
“พี่ไง เฮียผาของผม” ต้นพูดจบก็ขยับไปยืนอยู่ข้างๆ แล้วกอดแขนล่ำเอาไว้แน่น พร้อมเอาหัวถูแขนอ้อนๆ
“ออกไปเลย ไอ้ถั่วงอก” เฮียผาที่พูดแบบนั้นแต่ที่แขนกลับไม่ได้ผลักไสออกไปอย่างที่ปากว่า
   เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นคู่นี้กัดกันอยู่ทุกกัน อีกคนตามจีบ อีกคนตามด่ากลับแต่ก็ไม่เคยให้ห่างตัว เวลาไปไหนก็คอยหนีบกันไปด้วยตลอด จะรับรักคนตัวเล็กตอนไหนก็ไม่รู้ อเล็กซ์เดินมาจากจุดซ้อมตรงมาที่เธอยืนอยู่ในสภาพที่ยังไม่ถอดนวม ทั้งเต็มไปด้วยเหงื่อ ท่อนล่างใส่กางเกงมวยที่เขียนว่าสลักจิตสีดำดำแดง ท่อนบนที่เปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด กล้ามเป็นกล้าม ซิกแพคเป็นลอนสวย ที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ดูไปแล้วก็เซ็กซี่ ดีต่อใจเธอจริงๆ เป็นอาหารตาที่ดีต่อใจมากๆ
“เอ่อ ข้าวมาส่งจะพี่อเล็กซ์” เบอร์รี่ทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องอยู่ใกล้ในสภาพแบบ หัวใจที่ไม่เคยเต้นแรงมากแบบนี้มาก่อนตอนนี้ดันเต้มแรงไม่หยุด จนกลัวว่าจะหัวใจวายซะก่อน
“รู้จักกันด้วยหลอครับพี่เบอร์รี่” ต้นที่ไม่รุ่นน้องอายุห่างกันแค่ปีเดียว ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทแต่ก็รู้จักกันผ่านๆ เนื่องจากต้นนั้นร่าเริง อัธยาศัยดี
“อ่อ พอดีรถพี่เสียนะเลยรู้จักกัน”
“อืมม ถึงว่าแต่โดยปกติพี่อเล็กซ์ไม่ค่อยรู้จักใครเป็นการส่วนตัวมากนัก แต่กับพี่ดันรู้จักซะงั้น”
“เอ็งไปกินข้าวไป ไอต้น” อเล๊กซ์ที่โดนนินทาต่อหน้ารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ต้นจะขุดหาเรื่องของเขามาพูดมากกว่านี้
“ไปไอต้น เดี๋ยวโดนกินหัว” เฮียผาที่เมื่อรู้ว่าอเล็กซ์จ้องจะงาบหัวจึงรีบพาต้นหนีไปจากต้นนี้
“เอ่อ ไม่ยักรู้ว่าพี่เป็นศิษย์ค่ายมวยนี้ด้วย”
“ทำไม?”
“ก็ปกติหนูก็มาช่วยพ่อส่งข่าวบ่อยๆ แต่ไม่เคยเห็นพี่ที่นี่นิ”
“อ้อ ถ้าเป็นวันหยุดหรือว่างๆ ก็มา”
“หนูก็ส่งวันหยุด ก็ไม่เห็น”
“แล้วทำไมต้องเห็น”
“ก็...อยากเห็น หน้า” เบอร์รี่เริ่มทำตัวไม่ถูก ตอบเสียงเบายืนก้มหน้า หน้าคงแดงเหมือนมะเขือเทศแล้วมั้งตอนนี้
“ทำไมล่ะ”
“...”
“หืม” เมื่อสาวน้อยตรงหน้าหลบหน้าไม่ตอบ จึงก้มหน้าไปใกล้ๆ ในระยะประชิดจนหน้าผากห่างกันไม่ถึงคืบ ทำกันได้ลงคอ ทำไมขยันทำให้ใจสั่นได้แบบนี้กันนะ
“..เอ่อ” เบอร์รี่เงยหน้าขึ้นมาก็ทำให้ปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน ทั้งคู่สบตากันไม่กระพริบ หัวใจแทบหยุดเต้น บรรยากาศที่มีลมผัดผ่านมาเอื่อยๆ ทำให้ไม่ร้อน แต่ที่หน้าของคนทั้งคู่ตอนนี้โดยเฉพาะที่ปลายจมูกและแก้มที่ร้อนฉ่าจนควันขึ้น ท่ามกลางสายตาของคนทั้งค่ายที่กำลังลงมือกินข้าวกัน แต่ดันมาเห็นฉากนี้พอดี ไม่มีเสียงจากใครเอ่ยแทรกเพราะกลัวจะขัดจังหวะเลิฟซีนของคนทั้งคู่ ก่อนจะมีเสียงรถมอเตอร์ไซค์เก่าแต่งซิ่งท่อดังของแก๊งเด็กแว้นประจำซอยดังขึ้นเมื่อขับผ่าน ทำให้อเล็กซ์และเบอร์รี่ต่างขยับหน้าหนีไปคนละทาง รวมทั้งคนในค่ายที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ต้นที่หงุดหงิดเพราะเสียงรถท่อดังขัดจังหวะอาหารตาซะก่อน
“.../...”
   ทั้งคู่เงียบไม่มีใครพูดก่อน ก่อนจะหันหน้ามีมองกันอีกครั้งพร้อมกันจึงทำให้เห็นสีหน้าของคนทั้งคู่ในตอนนี้ หน้าของเบอร์รี่ที่อเล็กซ์เห็นในตอนนี้คือแดงมาก บวกกันเป็นคนผิวข้าวจึงเห็นได้ชัด ดวงตาที่เยิ้ม ปากที่เม้มชิดกันกลั้นยิ้มจนเป็นเส้นตรง ส่วนอเล็กซ์ในสายตาเบอร์รี่ที่เห็นนั้นคือหน้าแดงถึงจะไม่แดงมากเพราะผิวคล้ำหน่อยๆ ตามชายไทยแต่ใบหูที่แดงยิ่งกว่าหน้านั้นจึงทำให้เธอรู้สึกแดงฉ่าที่หน้าอีกรอบ หน้าที่ไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก ไม่ได้กลั้นยิ้มเม้มปากเหมือนเธอ จึงทำให้ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเหมือนเธอหรือเปล่า