บุปผาในม่านหมอก - ตอนที่9: เงาในสายเลือด โดย Aranya726 @Plotteller

เมื่อม่านหมอกหนาปกคลุมหุบเขาหลินซาน, บุปผาแห่งสวรรค์ที่บานเพียงหนึ่งครั้งในรอบร้อยปี กลับกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของทั้งอาณาจักร เซี่ยเหมยหลาน, หญิงสาวจากตระกูลช่างสมุนไพร, ได้พบกับชายหนุ่มปริศนาในหมอกหนา, ม่ออวิ๋น ผู้สูญเสียความทรงจำและรู้เพียงว่าเขากำลังถูกตามล่า ด้วยสายตาที่เศร้าหมองและการปรากฏตัวที่ไม่อาจหลีกหนีจากการตามหา เขาคือผู้มีชาติกำเนิดสูงส่งที่ถูกหักหลังจนต้องหลบหนีมายังหุบเขานี้ ท่ามกลางการตามล่าของผู้มีอำนาจและการเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในอดีต, รักและความลับ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่จะพาพวกเขาก้าวข้ามอุปสรรคและเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกหนีได้

บุปผาในม่านหมอก - ตอนที่9: เงาในสายเลือด โดย Aranya726 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค,จีน,ดราม่า,โรแมนติก,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ผู้แต่ง

Aranya726

เรื่องย่อ

ในหุบเขาหลินซานซึ่งปกคลุมด้วยม่านหมอกตลอดปี มีตำนานเล่าว่ามี "บุปผาแห่งสวรรค์" บานเพียงหนึ่งครั้งในรอบร้อยปี ผู้ใดได้ครอบครอง จะสามารถขอพรได้หนึ่งข้อ

เซี่ยเหมยหลาน หญิงสาวจากตระกูลช่างทำสมุนไพรผู้แร้นแค้น ได้บังเอิญพบกับชายหนุ่มปริศนาในม่านหมอก เขาไม่รู้ชื่อของตนเอง ไม่รู้ที่มา รู้เพียงว่าถูกลอบสังหารและตื่นขึ้นในหุบเขาแห่งนี้

เธอจึงตั้งชื่อให้เขาว่า "ม่ออวิ๋น" (หมอกไม่รู้ทิศ)

ในขณะที่เหมยหลานพยายามรักษาเขาให้หายดีและค้นหาตัวตนแท้จริงของม่ออวิ๋น ทั้งคู่เริ่มผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เหมยหลานถูกตามล่า โดยขุนนางใหญ่องค์หนึ่งที่ต้องการครอบครอง "บุปผาแห่งสวรรค์"

ความลับค่อยๆ เปิดเผยว่า ม่ออวิ๋นคือรัชทายาทที่หายสาบสูญของแคว้นฉู่ ผู้ถูกหักหลังและทำให้สูญเสียความทรงจำ และ "บุปผาในม่านหมอก" ก็คือกุญแจแห่งการเปลี่ยนแปลงราชบัลลังก์

สารบัญ

เนื้อหา

ตอนที่9: เงาในสายเลือด

ม่ออวิ๋นจ้องใบหน้าของบุรุษตรงหน้า รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด แม้สมองจะพร่าเลือน แต่หัวใจกลับเต้นรัวราวกับจดจำอะไรบางอย่างได้

“น้องชายงั้นหรือ…” เขาพึมพำ

ชายผู้นั้นประสานมืออย่างนอบน้อม “ม่อหลิง ข้าน้อยบุตรคนรองแห่งจวนม่อ”

“หากเจ้าเป็นน้องข้า เหตุใดจึงไม่มีแม้แต่เงาในความทรงจำของข้า?”

ม่อหลิงยิ้มเพียงเล็กน้อย สายตาอ่านยากนัก “เพราะความทรงจำของท่านถูกลบด้วยมือของคนที่ท่านไว้ใจที่สุด”

ม่ออวิ๋นขมวดคิ้ว “ใคร?”

“นางคนนั้น...ที่หลอกท่านว่าช่วยชีวิตเซี่ยเหมยหลาน”

คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่า ม่ออวิ๋นชะงัก หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

“เจ้ากำลังกล่าวหานาง?”

“หามิได้” ม่อหลิงตอบ “ข้าเพียงเตือนท่าน ว่าในคืนที่ท่านเผาทำลายสำนักอู่หลัน มีเพียงนางเท่านั้น...ที่เหลือรอดจากเปลวเพลิง”

ม่ออวิ๋นไม่ตอบ ดวงตาพร่าเลือนด้วยภาพจำกระจัดกระจาย เสียงหวีดร้องของผู้คน เปลวไฟที่ลุกโชน และเงาร่างของสตรีผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ในความเงียบ

“เหตุใดข้าจึงทำเช่นนั้น…”

ม่อหลิงเดินเข้าใกล้ เอื้อมมือวางบนบ่าพี่ชาย

“เพราะเจ้าคือศิษย์ลับของ ‘เงาพิรุณ’ สำนักนักฆ่าที่ฝึกให้เจ้าฆ่าโดยไร้หัวใจ และข้าถูกทิ้งไว้ในจวน...เพื่อเฝ้ารอคนที่ไม่มีวันกลับมา”

ม่ออวิ๋นกัดฟันแน่น “เจ้าต้องการอะไรจากข้า?”

“ความจริง” ม่อหลิงตอบเสียงเบา “และคำอธิบาย…ว่าทำไมพี่ชายที่ข้ารักที่สุด ถึงเลือกจะลบข้าออกจากชีวิตของเขา”

ม่านหมอกเริ่มจาง

แต่หัวใจของม่ออวิ๋นกลับมืดมัวยิ่งขึ้น

เขารู้ว่า…ทางข้างหน้าจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว