เมื่อยันต์ต้องห้ามตื่นขึ้น เลือดเท่านั้นที่จะหยุดมันได้ หรือจะถูกกลืนหายไปตลอดกาล
ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ดราม่า,ไสยศาสตร์,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ลึกลับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยันต์เลือดเมื่อยันต์ต้องห้ามตื่นขึ้น เลือดเท่านั้นที่จะหยุดมันได้ หรือจะถูกกลืนหายไปตลอดกาล
“ยันต์เลือด” ตำนานต้องห้ามที่เขียนด้วยเลือดมนุษย์ กำลังตื่นขึ้นจากการหลับใหลยาวนาน พร้อมปลุกฝันร้ายสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง
ธาม นักสืบผู้มีอดีตฝังใจเกี่ยวกับไสยศาสตร์มืด ถูกดึงตัวกลับเข้าสู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งทิ้งสัญลักษณ์ยันต์ลึกลับไว้บนร่างเหยื่อทุกศพ
เมื่อร่องรอยทั้งหมดพาเขาไปพบกับ “ลิน” หญิงสาวเจ้าของร้านขายของเก่า ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองมีสายเลือดต้องคำสาป ธามและลินจึงต้องร่วมมือกันไขปริศนา หาทางหยุดพิธีกรรมสังเวยครั้งใหม่
แต่ยิ่งเข้าใกล้ความจริง พวกเขากลับยิ่งถูกกลืนเข้าไปในเงามืดของคำสาปเลือด ที่ต้องแลกด้วยชีวิต… หรือบางทีอาจต้องแลกด้วย “วิญญาณ”
เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ตาผินพาธามกับลินเข้ามาเหมือนโลกอีกใบหนึ่งอากาศหนาวเย็นกดดันจนแทบหายใจไม่ออก พื้นดินแตกระแหงเหมือนผ่านการต่อสู้มายาวนาน และบนท้องฟ้าสีเทาหม่น มีเส้นแสงสีแดงไหลวนราวกับเส้นเลือดขนาดยักษ์ที่เต้นอยู่กลางอากาศ
“นี่มันที่ไหนกันแน่…” ธามถามเบาๆ ขณะเดินตามตาผินไปตามทางแคบๆ ท่ามกลางกำแพงหิน
“เขตต้องห้ามของเทพตกสวรรค์และอสูรเก่า” ตาผินเอ่ยเสียงขรึม “ที่ที่สายเลือดยันต์เลือดจะถูกทดสอบว่าคู่ควร หรือควรถูกกลืนกิน”
ลินเหลือบมองธามด้วยแววตาหนักใจ นี่ไม่ใช่การฝึกธรรมดา แต่เป็นการทดสอบชีวิตจริง
ไม่นาน ทั้งสามก็มาถึงลานโล่งขนาดใหญ่กลางกำแพงหิน ที่กลางลาน มีแท่นหินสีดำสนิทตั้งอยู่ บนแท่นนั้นมีหนังสือเล่มหนาปกหนังสัตว์มืดมน สลักตรายันต์เลือดกลางปก
ตาผินผายมือให้ธามเดินเข้าไปหา
“นี่คือ คัมภีร์พันธสัญญาเลือด บันทึกวิชา อาคม และคำสาปที่บรรพชนสายเลือดแท้ทิ้งไว้”
ธามขยับเข้าไปใกล้ ทุกก้าวที่เดินไป หนังสือดูเหมือนจะเต้นตุบๆ ตามจังหวะหัวใจของเขา
เมื่อเขาเอื้อมมือแตะลงบนปกคัมภีร์
ฟุ่บ!
แสงเลือดปะทุออกจากคัมภีร์ พุ่งตรงเข้าสู่กลางอกของธาม
ภาพนิมิตถาโถมเข้ามา
เขาเห็นเงาร่างของชายหนุ่มผมสีเงินยาว ใบหน้าแสนเศร้า ยืนกลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยศพ
ชายคนนั้น…สลักยันต์เลือดลงบนร่างตัวเอง ทีละตัว ทีละตัว ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
เขาเอาชีวิตตนเองผนึก “ประตูโลหิต” ไว้ ปิดกั้นบางสิ่งบางอย่างที่กำลังคลั่งกระหายจะหลุดออกมา
“จงเลือก” เสียงหนึ่งดังสะท้อนในหัวธาม
“จะเป็นผู้รักษา หรือผู้ปลดปล่อย”
ธามสะดุ้งสุดตัว ถอนมือออกจากคัมภีร์ ก่อนทรุดลงกับพื้น เหงื่อกาฬท่วมตัว
ลินรีบประคองเขาขึ้น ส่วนตาผินเพียงยืนมองด้วยแววตาหนักแน่น
“เจ้าได้เห็นแล้ว” ตาผินพูดเสียงเรียบ “อดีตชาติของเจ้าคือหนึ่งใน ‘ผู้ผนึก’ ยุคแรก”
ธามใจเต้นโครมคราม
“นี่มันอะไรกันแน่…” เสียงของเขาสั่นพร่า
“เลือดเจ้าคือทั้งตรวนและกุญแจ เป็นผู้ผนึก และผู้เปิด ในเวลาเดียวกัน” ตาผินกล่าวต่อ
“นั่นคือเหตุผลที่พวกมัน ‘ผู้ปลุก’ต้องการเลือดเจ้ามากกว่าสิ่งใด”
หลังจากธามได้สติ ตาผินก็นำทางไปยังแท่นหินอีกแท่นหนึ่ง ที่มีหอกโลหะดำเสียบตั้งอยู่
“เพื่อควบคุมพลังในตัวเอง…เจ้าต้องทำ ‘พันธสัญญาเลือด’ กับตัวเองเสียก่อน”
ตาผินวางมีดสั้นด้ามเงินให้ธาม ถือด้วยสองมือ
“เลือก…
จะให้เลือดผูกพันตัวเองกับพันธสัญญาแห่งการปกป้อง หรือการทำลาย”
ธามมองมีดในมือ
สองทางเลือกชัดเจนอยู่ตรงหน้า
หากเลือกล้างคำสาปและหยุดหายนะ ต้องปิดผนึกสายเลือดตัวเองตลอดชีวิต
แต่หากเลือกทำลาย เขาจะกลายเป็นผู้ปลดปล่อยทุกอย่างออกมา
“ฉัน…” ธามเม้มปากแน่น
ใจเขานึกถึงพ่อที่เสียไปเพราะคำสาป พี่ชายบุญธรรมที่หายสาบสูญ ลินที่ช่วยเหลือมาตลอด
และความรู้สึกโกรธเกลียดในตัวเองที่ไม่ได้ปกป้องใครได้เลย
“ฉัน…จะเป็นคนจบมันด้วยมือของฉันเอง” ธามกัดฟันแน่น
จากนั้น เขาเอามีดกรีดกลางฝ่ามือตัวเอง เลือดสีแดงสดไหลอาบ
เขาเอามือแตะลงบนหอกโลหะดำ
ทันใดนั้น เสียงคำรามดังกระหึ่มจากพื้นดิน
ยันต์เลือดสีแดงสว่างเจิดจ้าพุ่งขึ้นจากพื้น ล้อมรอบร่างของธาม ตัวเขาเปล่งแสงเรืองรอง ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดเหมือนหลอมรวมกับยันต์ที่ลอยกลางอากาศ
พันธสัญญาเลือดสำเร็จสมบูรณ์
“เจ้าคือผู้ถือพันธสัญญาแล้ว” ตาผินเอ่ยด้วยเสียงสั่นน้อยๆ “ตั้งแต่นี้ไป เส้นทางของเจ้า…จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป”
และทันใดนั้นเอง…
โครมมมม!
เสียงระเบิดดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของกำแพงหิน
เศษหินกระเด็นกระจาย ก่อนที่กลุ่มคนในชุดคลุมดำหลายสิบคนจะทะลักเข้ามา พร้อมตรายันต์สีดำในมือ
ลินสบถ!?
“พวกผู้ปลุกมาแล้ว!”